8:00 น.
ร่างที่ซุกอยู่ในผ้าห่มขาดวิ่นขยับตัวแรง ตาสีน้ำเงินของร่างนั้นเปิดโพลงออก ผมสีน้ำตาลเข้มยุ่งเหยิงตอนเพิ่งตื่น เหงื่อแตกเต็มหน้าสีขาวซูบ ฮินาตะลุกขึ้น หายใจแรง มือสีขาวซีดสั่นเทาด้วยความกลัว
"ฝ--ฝันแบบนี้อีกแล้ว"
เขายกมือนั้นขึ้นปิดหน้า หันหลังมือออกแสดงให้เห็นลายสักรูปหัวกะโหลก--ลายสักมรณะ ฮินาตะจำได้ว่า ครั้งแรกที่เขาเข้ามาอยู่ในบ้านหลังนี้ก็โดนถามเรื่องลายสักมรณะทันที
"แกไปได้ลายสักนั่นมาจากไหน!? ห๊ะ!"
ป้าชิโด้ตะโกนถามเขา ป้าเป็นคนดูแลเด็กที่บ้านเด็กกำพร้านี่ และตอนนั้นเขายังอายุ 9 ขวบอยู่ และกลัวป้ามาก ตอนนี้เขาก็ยังไม่แน่ใจเลยว่าหายกลัวป้ารึยัง
"ผมมีมันมาตั้งแต่เกิดแล้วนะฮะ"
เขาตอบอย่างใสซื่อ เป็นเพราะตอนนั้นเขายังไม่รู้ว่าลายสักรูปหัวกะโหลกที่เขามีมันหมายความว่าอย่างไร
"โกหก!"
ป้าตะโกน แล้วเดินกระทืบเท้าเข้าไปในบ้านเด็กกำพร้า
"แกจะอยู่ที่นี่ก็ได้ แต่แกต้องหาเงินและซื้อข้าวเอง"
และนั่นคือวิธีที่เขา--ฮินาตะที่ไม่เหมือนใคร--ได้เข้ามาในที่แห่งนี้ จนตอนนี้เขาอายุ 15 ปีแล้ว แต่ยังไม่ได้ไปโรงเรียนเลย จริงๆแล้ว เขาก็ไม่ได้อยากเข้าโรงเรียนนักหรอก เขาจำได้ตอนที่เขาไปโรงเรียนแต่ก็หยุดเพราะพ่อกับแม่เสียชีวิตกะทันหัน
9:00 น.
เขาเดินลงบันไดอย่างเชื่องช้า เขาผ่านห้องแล้วห้องเล่า แล้วเขาก็มาหยุดยืนอยู่หน้าห้องห้องหนึ่ง ฮินาตะดูเหมือนกำลังรอใครบางคนอยู่
"พี่คะ!"
เสียงสูงตะโกนมาจากที่ใดที่หนึ่ง ตามมาด้วยเสียงฝีเท้าเล็กๆ ฮินาตะหันไปมองแล้วก็เห็นรูปร่างที่คุ้นเคย เด็กสาววัย 10 ปี ผมสีชมพู ตาโตสีฟ้าใส รูปร่างเตี้ยกำลังวิ่งมาหาเขา
"หวัดดี เรย์ พี่กำลังจะไปหาข้าวกินน่ะ"
เขาย่อตัวลงให้เท่ากับเรย์แล้วลูบหัวด้วยความเอ็นดู
"หรอคะ? คุณป้าไม่ได้หาข้าวให้พี่กินแบบที่ทำกับหนูหรอคะ?"
เรย์ถามอย่างใสซื่อ ผมสีชมพูที่มัดแกะสองข้างเอียงไปตามศรีษะอย่างใคร่รู้
"ไม่หรอก เป็นเพราะ--เป็นเพราะว่าพี่โตแล้วไงล่ะ"
"หนูอยากรีบโตแบบพี่เร็วๆจังเลยค่ะ!"
เธอกระโดดขึ้นกระโดดลง ตาหรี่เล็กด้วยความดีใจ
"อื้อ พี่ต้องไปแล้ว รีบๆโตล่ะ"
ฮินาตะตอบแล้วรีบวิ่งออกมา เขาดีใจที่เรย์นับเขาเป็นพี่ เรย์เป็นเด็กที่น่ารักน่าเอ็นดูมาก แต่เขาคิดกับเรย์แบบพี่น้องเท่านั้น ไม่มีอะไรเกินเลยไปกว่านั้น
"แปะ แปะ เปาะแปะเปาะแปะเปาะแปะ~"
ฝนเม็ดใหญ่เริ่มตกลงมาจากฟากฟ้ากระแทกกับหญ้าแห้งสีเขียวแก่ส่งเสียงดัง เขาถอนหายใจพลางสงสัยว่าวันนี้จะต้องกลับมาแบบโดนดุอีกรึเปล่า? เขาไม่เคยได้รับอนุญาตให้ใช้ร่ม ข้ออ้างนั้นป้าชิโด้ก็สรรหามาแตกต่างกันไปในแต่ละวัน บางวันก็ว่าป้าเองก็จะใช้ บางวันก็บอกจะต้องใช้ไปส่งเด็ก แต่ข้ออ้างที่พิสดารที่สุดเห็นจะเป็นต้องเก็บไว้กันกระสุนปืนนี่แหละ ไม่รู้ป้าแกดูหนังมากเกินไปรึเปล่า
เขาเปิดประตูออกไป แล้วหยาดฝนก็สาดเต็มหน้าเขา
"นะ...นี่แค่หน้านะเนี่ย"
12:00 น.
ผลก็คือ เขากลับมาเปียกโชกจากหัวจดเท้า น้ำฝนซึมเข้าไปถึงกางเกงใน ผมสีน้ำตาลเข้มนั้นลีบติดหัวเพราะน้ำฝน แถมชุดแฮปปี้มีลของแมคโดนัลด์ที่ซื้อมาก็เปียกฝนแล้วยังไม่อร่อยอีกด้วย เมื่อกลับถึงบ้าน เขาค่อยๆดันประตูเปิดออกเบาๆ ให้แน่ใจว่าป้าชิโด้จะไม่ได้ยินเสียง แต่ผิดคาด เขาลื่นน้ำฝนหัวคะมำลงไปในพรมและเข่าแตก ทำให้ป้ารีบวิ่งมาดูทันที
"โธ่เอ๊ย! ไอ้เราก็นึกว่าเด็กที่ไหนลื่นล้ม ที่แท้ก็แกนี่เอง ไอ้เด็กซาตาน"
ป้าชิโด้พูดด้วยน้ำเสียงดูถูก แต่ฮินาตะก็ไม่ว่าอะไร แค่มองหน้าป้าชิโด้ด้วยสายตาเกลียดชัง
เขาลุกขึ้น ปัดโคลนออกจากกางเกงแล้วรีบเดินเข้าไปในห้องของเขา
ห้องของเขาถูกประดับประดาด้วยเตียงสองชั้น ชั้นที่หนึ่งเป็นที่นอน ชั้นที่สองเป็นที่เก็บของฝุ่นเกาะเขรอะ
โต๊ะทำจากไม้มะฮอกกานีสีน้ำตาลอ่อน บนโต๊ะมีหนังสือการ์ตูนเต็มไปหมด พรมใต้เตียงสีแดงเลือดหมูมีรอยหนูกัด หน้าต่างที่มีผ้าม่านสีแสดรูดปิดไว้ ผนังของห้องเป็นสีดำ และกระจกเต็มตัวบานหนึ่งตั้งอยู่ข้างๆเตียงของเขา
ฮินาตะเดินอาดๆไปที่กระจก แล้วยกมือข้างที่ไม่มีลายสักมรณะไปจับมัน พลางคิดในใจว่าจะดีแค่ไหนถ้าหนีออกไปจากที่แห่งนี้ได้กันนะ? หนีออกไปในดินแดนที่เสมือนสรวงสวรรค์ เขาจำได้ว่าเขาเคยมีเวลาดั่งสรวงสวรรค์อยู่ครั้งหนึ่ง ครั้งตอนที่มีรุ่นพี่คนนึงอาศัยอยู่ รุ่นพี่คนนั้นมีดวงตาสีฟ้า ผมสีดำ ร่างกายดูล่ำสัน แข็งแรงและเป็นที่ปรึกษาที่ดีมากๆให้แก่เขา รุ่นพี่คนนั้นชื่อจิน เป็นรูมเมทของเขา แต่เวลาแห่งสรวงสวรรค์ของเขาได้หมดลง เนื่องจากอยู่มาวันนึง จินก็ได้หายตัวไป ทำให้เขาต้องอยู่ตัวคนเดียวในที่แย่ๆแห่งนี้
ฮินาตะทิ้งตัวลงบนเตียง ตาปิดลงด้วยความเหนื่อยล้า ตอนนี้ก็เป็นเวลาบ่ายโมงแล้ว ถึงเวลาที่จะต้องเปิดแอร์สู้แดดร้อนๆข้างนอกเสียที แล้วเขาก็หลับใหลไป.... อยู่ในภวังค์แห่งความฝัน
15:00 น.
เขาสะดุ้งตื่นขึ้นมา เพราะฝันว่าตกจากหน้าผาสูงร้อยเมตร แล้วก็พบว่าตัวเองนอนกองอยู่บนพื้นตรงหน้ากระจกนั่นพอดี แล้วมือข้างที่มีลายสักก็แตะกระจกอยู่ด้วย ฮินาตะเงยหน้าขึ้น แล้วเขาก็ต้องตกใจกับภาพที่เห็น
"เหวอ!"
ภาพที่เขาเห็นคือกระจกสลายไปเป็นกลุ่มควันบางๆสีขาว และมือของเขาทะลุกระจกเข้าไปด้วย
เขาถีบตัวลุกขึ้น ดึงมือออกมาจากกระจก และคิดว่าตัวเองต้องฝันไปแน่ๆ แต่เมื่อดึงมือออกมาจากกระจก กระจกก็เป็นเหมือนเดิม เขาหยิกแก้มตัวเองแรงๆหนึ่งครั้ง แล้วลองยื่นมือเข้าไปในกระจกอีกที
อีกครั้ง มือของเขาสามารถทะลุได้ และกระจกก็สลายไปเป็นกลุ้มควันบางๆเช่นเดิม แต่พอเขาดึงมือที่มีลายสักออก กระจกก็กลับไปเป็นเหมือนเดิม เขาทำแบบนี้ซ้ำไปซ้ำมาหลายรอบ จนแน่ใจว่านี่ไม่ใช่ความฝัน เมื่อเขาคิดได้ดังนั้น เขาจึงยื่นมือเข้าไป แล้วก้าวขาตามไป เขารู้สึกเหมือนมีน้ำเย็นไหลลงมาใส่ คล้ายๆก้าวเข้ามาในน้ำตก แล้วเขาก็ลืมตาขึ้น ฮินาตะพบว่าตัวเองไม่ได้อยู้ในห้องของเขาอีกต่อไป แต่อยู้ในห้องห้องหนึ่ง ที่หรูหราสวยงามมาก.....
YOU ARE READING
Tattoo--Story ลายสักมรณะ
Fantasyเมื่อปีค.ศ.1345 มีโรคระบาดโรคหนึ่งเกิดขึ้นโดยประชาชนไม่สามารถป้องกันตัวได้ คนใดก็ตามที่มีลายสักมรณะนั้นจะไม่ติดโรค เพราะแบบนี้ บุคคลที่มีลายสักมรณะนั้นจะโดนตราหน้าว่าเป็นปีศาจ ซาตาน หรือแม่มด หลังจากนั้น โรคนี้ก็เลิกระบาดไปโดยไม่มีใครรู้สาเหตุ เช่น...