คุยกันท้ายเรื่อง

47 2 1
                                    

หลังจากเขียนเรื่องยาวที่ค่อนข้างสั้น (หรือเรื่องสั้นที่ค่อนข้างยาว) เรื่องนี้จบ เราได้เขียนคำสุดท้ายด้วยความโล่งอกว่าเป้าหมายในชีวิตของตัวเองได้ลุล่วงไปอีกอย่างหนึ่งแล้ว แต่ก็ยังคงมีบางสิ่งตกค้างอยู่ในใจ คือทั้งสมหวังและผิดหวังในเวลาเดียวกัน

นี่คือเรื่องแรกที่เขียนสำเร็จอย่างเป็นทางการด้วยลายมือทั้งหมด แล้วจึงปรับเปลี่ยนสำนวนและเนื้อหาเล็ก ๆ น้อย ๆ ระหว่างพิมพ์ เพราะดวงตาบอบบางเกินกว่าจะจ้องจอระหว่างกำลังคิดนาน ๆ ได้ ตอนแรกหงุดหงิดกับลายมือที่ไม่ค่อยสวยและการแทรกเนื้อหาที่ยากเย็นเอาการ แต่พอปั่นไปได้ 72 หน้าสมุด ประมาณ 36 หน้ากระดาษ A4 ก็ค้นพบว่าหัวแล่นยิ่งกว่าตอนพิมพ์สดเสียอีก แถมยังลดโอกาสจ้องเคอร์เซอร์กระพริบบนจอโล่ง ๆ จนปวดตาเวลาหัวสมองตีบตันได้ด้วย

ส่วนเรื่องแนวทาง เราขอนิยามเป็นวรรณกรรมย่อยง่าย ที่มีเนื้อหากว้าง ๆ ธรรมดา ๆ ไม่มีอะไรลึกล้ำจนต้องตีความหลายตลบ เพราะเคยลองอย่างหลังแล้วมันพังไม่มีชิ้นดี สำนวนภาษาก็ด้วย ถ้าเกิดว่าฝึกฝีมือได้มากกว่านี้อาจจะกลับมารีไรท์หรือแก้มือกับเรื่องอื่น

ตัวละครทุกตัวถูกสร้างให้มีตำหนิที่ไม่น่ายินดีทั้งหมด โชเฮย์กับมิโนรุไม่ถนอมรักษาคนสำคัญในชีวิตเอาไว้จนได้แต่เสียดายภายหลัง สุมิเระก่อความบรรลัยให้กับงานแสดงผลสัมฤทธิ์ในโรงเรียน R อิซามุเป็นแค่ตัวประกอบ คาเอเดะก็ไม่โดดเด่นพอ คุณป้าทางผ่านคิดว่าแก่แล้วจะมีอภิสิทธิ์เหนือคนอื่น ที่ชอบที่สุดน่าจะเป็นชิโอริกับฮิบิกิ เพราะถึงแม้จะดูเห็นแก่ตัว ไม่มั่นคงในความรัก แต่ก็เลือกเดินไปจากคนรักเพราะพิจารณาแล้วว่าการดันทุรังต่อไปรังแต่จะทำให้ตัวเองต้องมืดบอด ส่วนตัวเราคิดว่าไม่มีใครทนอะไรได้ตลอดกาล แค่รอเวลาที่ฟางเส้นสุดท้ายจะขาดลงเท่านั้น

เหตุผลที่รั้งให้โชเฮย์ฆ่าตัวตายอย่างมีอุปสรรค และตายไปด้วยความเสียดาย เพราะไม่อยากนำเสนอการทำร้ายตัวเองว่าให้ผลในเชิงบวก ได้บทเรียนมาจากนิยายชื่อดังของอังกฤษเรื่องหนึ่งที่ถูกนักเคลื่อนไหวเพื่อสิทธิคนพิการวิจารณ์กันหนาหูว่า ทำให้การฆ่าตัวตายของคนพิการเป็นสิ่งพึงกระทำในสายตาคนทั่วไป และเป็นทางออกสุดท้ายเมื่อร่างกายเกิดความผิดปกติ อีกอย่าง นิยายของเราใช้สรรพนามบุรุษที่ 1 บรรยายตลอดเรื่อง ซึ่งครอบคลุมเฉพาะความรู้สึกของตัวละครเจ้าของมุมมองเท่านั้น ไม่สามารถอัดฉีดอารมณ์คัดค้านในใจคนเขียนลงไปได้ เราจึงไม่ขอเสี่ยง และตัดสินใจลงเอยเรื่องแบบนี้

สุดท้ายคงไม่อาจพูดอะไรมากไปกว่าขอบคุณที่ทนอ่านจนจบ และขอโทษสำหรับความผิดพลั้งอย่างหนึ่งอย่างใด (หรือมากกว่านั้น) ในงานเขียนนี้ เพราะค่อนข้างกังวลเหมือนกัน โดยเฉพาะเรื่องการเซ็ตฉากในต่างประเทศที่คงทำได้ไม่เนียนเท่าไหร่ อย่างอื่นก็ด้วย

ผู้อ่านสามารถท้วงติงได้เสมอ ขอเพียงอยู่ในขอบเขตของคำว่า "ติเพื่อก่อ" เราจะรับความคิดเห็นของคุณมาพิจารณาและปรับใช้ต่อไป

ด้วยรัก (อีกครั้ง)

Yuu_Without_You

アンドロイド時代 | แอนดรอยด์จิไดWhere stories live. Discover now