ผมกับจอนจองกุกไม่ได้เป็นเพื่อนร่วมชั้นเรียนกันในตอนมัธยมปลาย เนื่องจากพวกเราต่างก็แยกย้ายไปเรียนในสิ่งที่ตัวเองถนัด และมันคงจะเป็นเรื่องที่ดีกว่าถ้าหากจอนจองกุกจะได้อาศัยอยู่ในสังคมที่เต็มไปด้วยคนระดับเดียวกัน...ผมหมายถึง คนที่มีมันสมองในระดับเดียวกันในระหว่างที่พวกเราต่างก็สนใจอยู่กับการเรียนของตัวเอง เขาเจอเพื่อนใหม่ ใช้ชีวิตอย่างสนุกสนานมากขึ้น เป็นนักกีฬาของโรงเรียน แล้วก็ยังสอบได้อันดับดีตลอดด้วย ส่วนผมก็ใช้ชีวิตอยู่ในห้องสมุดทุกเย็น รอคอยเขาเพื่อที่จะกลับบ้านพร้อมกัน ใครจะไปรู้ว่าในชั่วขณะนั้นแม้เราจะเจอหน้ากันทุกวัน แต่ก็รู้สึกเหมือนค่อยๆ อยู่ห่างไกลออกไปขึ้นเรื่อยๆ
บรรยากาศในห้องเรียนของช่วงมัธยมปลายของผมให้ความรู้สึกที่ดี ผมรู้สึกสบายใจมากกว่ากับการห้อมล้อมด้วยคนที่มีความสนใจในเรื่องเดียวกัน ระดับสติปัญญาใกล้เคียงกัน ไม่เคยรู้สึกสนุกกับการเรียนมากเท่านี้มาก่อน ในห้องเรียนของผมมีคนที่ชื่อคิมแทฮยอง เขาชอบเล่าเรื่องภาพยนต์ที่ตัวเองชอบให้เพื่อนๆ ฟังด้วยแอคติ้งล้นๆ ของเขา
อันดับแรกเลยคิมแทฮยองเป็นคนร่าเริง แต่ก็เงียบขรึมในเวลาเดียวกัน เขามักจะชอบเหม่อลอยออกไปมองนอกหน้าต่าง บางครั้งก็ดูเหมือนจะตั้งใจเรียนมาก แต่ก็แค่แอบหลับเท่านั้น พอผ่านไปสักสองสามเดือนของการเรียนมัธยมปลายผมก็เลิกนั่งรอจองกุกอยู่ที่ห้องสมุด แล้วเปลี่ยนไปเที่ยวเล่นกับแทฮยองแทน
พวกเรากลายเป็นคู่หูที่เข้ากันได้ดีในทุกๆ เรื่อง ไม่ว่าจะเป็นเรื่องเกมหรือภาพยนต์แบบที่แทฮยองชอบดู เวลาเลิกเรียนส่วนใหญ่ถ้าไม่ได้ไปอยู่ที่ร้านเกมก็ไปดูหนัง ผมกลับบ้านดึกเป็นประจำ บางครั้งก็เจอจองกุกเพิ่งกลับจากเรียนพิเศษอยู่ที่ทางเข้าหมู่บ้าน เป็นเรื่องเศร้าที่ผมไม่สามารถคุยเรื่องเกมที่เพิ่งออกใหม่กับเขาได้อีกแล้ว ผมรู้สึกแปลกๆ ทุกครั้งเวลาเห็นหน้าจองกุก พวกเราดูเหมือนจะใช้ชีวิตอยู่คนละโลก