ท่ามกลางค่ำคืนที่ถูกโหมกระหน่ำด้วยพายุลูกใหญ่ เสียงฟ้าร้องกระหึ่มและแสงแปลบปลาบนั่นดูน่ากลัวจนไม่กล้าแม้แต่จะมองออกไปนอกหน้าต่าง มีเพียงรถเก๋งราคาแพงหนึ่งคันที่จอดเทียบฟุตบาธบริเวณทางเข้าโบสถ์คริสต์ สามคนที่ลงจากรถเลือกที่จะไม่กางร่มแล้ววิ่งเข้าไปในโบสถ์เพราะเกรงว่าสายฟ้าที่ฟาดลงมาเป็นระยะอาจทำให้เกิดความสูญเสียเป็นครั้งที่สอง
ซึ่งพวกเขาไม่ต้องการ
" คุณพ่อ " ชายวัยกลางคนคุกเข่าลงต่อหน้าบาทหลวง ใบหน้าอิดโรย ไม่นานชายหนุ่มอายุครึ่งห้าสิบก็เดินเข้ามาพร้อมกับหญิงวัยกลางคน
" คำสาป " บาทหลวงกล่าวด้วยเสียงแหบพร่า ดวงตาเศร้าลงเมื่อมองใบหน้าชายหนุ่มที่ยืนด้วยสีหน้าเรียบเฉย
" ไม่มีทางแก้เลยหรือคะ " หญิงคนนั้นถาม น้ำเสียงวิงวอน สองมือหยาบถูกยกขึ้นมาประสานกัน
" มิคาเอล.. "
" ให้ผมตามคุณพ่อกับคุณแม่ไปด้วยไม่ได้เหรอครับ " ชายหนุ่มเอ่ย เสียงสั่นครือพร้อมดวงตาแดงก่ำ ผิดกับใบหน้าเรียบเฉยเมื่อครู่ สองมือกำหมัดแน่นเผยเส้นเลือดปูดโปน อีกทั้งขบกรามแน่นจนมีเสียงดัง กึด ลอดออกมา
" ชีวิตอมตะ ยังไม่เข้าใจคำนี้อีกหรือ จะเข่นฆ่าอย่างไรก็ไม่สามารถทำให้ดับสังขารได้หรอกเด็กน้อย " บาทหลวงกล่าว ก่อนจะอุ้มห่อผ้าสีขาวแล้วส่งให้ชายหนุ่มที่ถูกเรียกว่ามิคาเอล
" จงเชื่อว่าความรักที่ยิ่งใหญ่จะแก้ไขทุกอย่าง และจงรอ ตราบเท่าที่ต้องรอ "
สิ้นคำกล่าว เสียงฟ้าร้องก็ดังกระหึ่มขึ้นราวกับจะเป็นสิ่งย้ำเตือนว่านี่คือหนทางที่ดีที่สุด ชายหนุ่มมองห่อผ้าในอ้อมอก ก่อนพบว่าสิ่งที่ถูกห่อหุ้มอยู่คือทารกผิวขาวหยวก หางตาตก แก้มป่อง และตัวจ้ำม่ำน่าหยิก เขาสบตากับดวงตาใสบริสุทธิ์ของเด็กคนนี้ ก่อนจะกระชับอ้อมกอดเมื่อความรู้สึกประหลาดก่อตัวขึ้นในใจ
ไม่ว่าอะไรก็ตามที่ทำให้เขารู้สึกอยากปกป้องและดูแลเด็กคนนี้ตั้งแต่แรกเห็น เขาหวังว่าสิ่งนั่นจะทำให้เด็กคนนี้นำพาเรื่องดีๆ มาสู่ชีวิตอันยืนยาวของเขาในภายภาคหน้า
" คุณหนูชานยอล จะตั้งชื่อเด็กคนนี้ว่าอะไรหรือคะ " หญิงวัยกลางคนที่นั่งข้างคนขับหันมาถาม ในขณะที่ก็กำลังกุมมือผู้เป็นสามีซึ่งกำลังขับรถฝ่าพายุเพื่อพาคุณหนูอันเป็นที่รักกลับไปยังคฤหาสน์แสนอบอุ่น
ชานยอลเหม่อมองออกไปนอกหน้าต่าง ก่อนจะหันกลับมาดึงผ้าห่มคลุมตัวเด็กน้อยในอ้อมกอดเพื่อให้ความอบอุ่น
" แพคฮยอนครับ ชื่อของเขาคือแพคฮยอน "
22 ปีต่อมา
การมีชีวิตเป็นอมตะ คือสิ่งที่มนุษย์ส่วนใหญ่ต้องการ หากแต่ผู้ที่ต้องการกลับมักไม่ได้ดั่งใจหมายนัก
การมีชีวิตเป็นอมตะ มันดีอย่างไร ทำไมผู้คนจึงต้องการจะมีชีวิตที่ไม่รู้จักความเจ็บตาย อยู่ในวังวนแห่งกรรมไม่รู้จบสิ้น
หากมีชีวิตอยู่กับความสุข ก็จะมีความสุข แต่หากผู้ใดมีชีวิตอยู่กับความทุกข์ทรมาน ก็จะมีความทุกข์ทรมาน
หากผู้ที่มีชีวิตอยู่กับความทุกข์ทรมานได้รับความเป็นอมตะเล่า เขาต้องอยู่กับความทุกข์ทรมานชั่วกัลป์
แล้วอย่างนี้ ความเป็นอมตะ มันจะน่าพิสมัยอย่างที่พูดกันจริงหรือ
ผมเป็นอีกคนที่ไม่เคยเข้าใจในความต้องการของมนุษย์ ผู้ที่อยากมีชีวิตยืนยาวหลายทศวรรษ การใช้ชีวิตของมนุษย์โลกคืออะไรกันแน่ เกิดมาเพื่อดิ้นรน เจออุปสรรค ต้องเจอเรื่องน่าปวดหัว แล้วก็ตายไป
มนุษย์เกิดมาเพื่อเจ็บปวด
บางคนว่าเราเกิดมาเพื่อตามหารักแท้ ซึ่งบอกไม่ได้แม้กระทั่งว่ารักแท้เป็นอย่างไร คือใคร หน้าตาแบบไหน อาจจะเป็นคนที่เดินสวนกันไปเมื่อเช้า คนที่กินข้าวด้วยกันทุกวัน หรือรักแท้ของเราอาจจะเป็นคนที่มีคู่ครองแล้ว
รักแท้ไม่มีอยู่จริง
นี่คือสิ่งที่ผม ซึ่งมีอายุครบสี่สิบเจ็ดปีไปเมื่อสิบนาทีที่แล้วเชื่อมาโดยตลอด
สุขสันต์วันเกิด ปาร์ค ชานยอล
Master P.
27/11/xx
--------------------------------------
#ficdeathless
YOU ARE READING
{ ' fic exo } . deathless . { chanbaek }
Fanfictionคุณเคยได้กลิ่น.. กลิ่นหอมจางๆ เหมือนกลิ่นของความรักบ้างไหม