A war in the dark world *เนื้อหามีการบิดเบือนข้อมูลและไม่ตรงตามประวัติศาสตร์*
ทันทีที่ทหารยศชั้นผู้ใหญ่คนนั้นวิ่งเข้าไปในบ้าน เขาก็พบกับศพของภรรยาเขา เขาวิ่งโผเข้าไปกอดศพภรรยาและร้องไห้ ร่างแน่นิ่งไร้ซึ่งลมหายใจ สายเลือดค่อยๆไหลออกมาจากรอยกระสุนที่เจาะทะลุสมอง มือข้างหนึ่งถือปืน มืออีกข้างหนึ่งถือแผนที่ เขาเศร้า เขาเสียใจ เขาไร้ซึ่งจุดหมาย ถ้าชีวิตเขาเปรียบกับนํ้าแข็งในตู้เย็น ตอนนี้ขึ้นอยู่กับว่าเขาจะเสียบปลั๊กไว้เพื่อให้คงซึ่งความเย็น หรือ ถอดปลั๊กแล้วปล่อยให้มันละลาย เขาเช็ดนํ้าตาและลุกขึ้น หยิบแผนที่และปืนเดินออกมาจากบ้าน มือข้างขวาถือปืนที่ภรรยาเขาใช้ฆ่าตัวตายไว้แน่น มือข้างซ้ายถือแผนที่และมีคราบเลือดติดอยู่ตรงบริเวณแขนเสื้อข้างขวาของเขา เขามองแผนที่ในมือ มันคือแผนที่บอกทางไปบ้านคุณออกัส ซึ่งอยู่ไม่ไกลจากบ้านเขามากนัก คุณออกัสที่ภรรยาของเขาพูดถึงนี่เป็นใครกัน ทำไมภรรยาของเขาถึงพูดถึงชื่อ เขาเก็บความคิดนี้ไว้ในใจ ลูกสาวทั้งสองที่กำลังนั่งรอในรถมองมาที่เขา เขามองกลับไปที่ลูกสาวทั้งสองของเขา เขามีอยู่สองทางเลือก ปลิดชีวิตลูกๆของเขา หรือ หนีไปบ้านคุณออกัส....เขาก้าวขึ้นรถ แล้วกล่าวกับลูกสาวทั้งสองของเขาด้วยนํ้าเสียงสั่นเครือ "เราไปกันเถอะ" เขากล่าว
พร้อมกับออกรถมุ่งหน้าไปทางบ้านคุณออกัส ทั้งสามนั่งนิ่งเงียบ ไร้ซึ่งคำพูด มีเพียงเสียงปืนและเสียงระเบิด ที่ดังก้องกังวานไปทั่ว เขาขับรถมาเรื่อยๆจนถึงบ้านคุณออกัส"รออยู่ในรถก่อนนะ" เขากล่าวกับลูกๆของเขาแล้วก้าวเดินเข้าไปที่หน้าประตูบ้านคุณออกัส
"คุณออกัส" เขาตะโกนเรียกและเอื้อมมือไปบิดลูกบิดประตู แต่ลูกบิดนั้นกลับถูกบิดก่อน เผยให้เห็นร่างสูงใหญ่ของชายวัยกลางคน
เขาใส่ชุดสูทสีดำและรองเท้าหนังขัดมันเงา เขามีผมสีทองแกมนํ้าตาลอ่อนอันแปลกประหลาด เขามีท่าทีใจเย็นและสุขุมผิดกับเหตุการณ์ในประเทศที่กำลังเกิดอยู่
"สวัสดีคุณวอลเตอร์" ออกัสกล่าวทักทายทหารยศชั้นผู้ใหญ่คนนั้น นํ้าเสียงของคุณออกัสช่างเยือกเย็น ไร้ซึ่งปฏิกิริยาอื่นๆ
"คุณรู้ชื่อผมได้ไง ช่างเถอะ ผมอยู่ที่นี่ต่อไปไม่ได้แล้ว ได้โปรด พาผมหนีเถอะ" วอลเตอร์กล่าว
"ผมดูตรงป้ายชื่อบนหน้าอกของคุณ อีกอย่างคือมันยังเร็วเกินไปที่จะหนี" ออกัสกล่าว
"คุณหมายความว่าอย่างไร" วอลเตอร์กล่าว
"ตามผมมา" ออกัสกล่าวและเดินนำวอลเตอร์เข้าไปในบ้าน
ผ่านโถงทางเดินหลักและห้องนั่งเล่น เขาตามออกัสขึ้นไปที่ชั้นสองของบ้าน ออกัสเดินนำวอลเตอร์ไปหยุดหน้าห้องแห่งหนึ่ง เขาเปิดประตูห้องนั้นออก ห้องนั้นมืดมิดไร้ซึ่งแสงสว่าง ที่ประตูมีรูขนาดเล็กรูหนึ่ง ขนาดเท่าลูกตา สูงพอกับขนาดของหัวคน ดูเหมือนกับเอาไว้ใช้เป็นช่องหายใจและเป็นจุดเดียวที่แสงจากภายนอกจะลอดเข้าไปได้
"เชิญก่อนเลย" ออกัสกล่าวพร้อมกับผายมือเป็นการเชื้อเชิญ
"ทำไมคุณไม่เข้าไปก่อนล่ะ" วอลเตอร์กล่าว
"มีบางอย่างที่ผมต้องถามคุณก่อน" ออกัสกล่าวพร้อมกับผลักวอลเตอร์เข้าไปในห้องนั้น
"เฮ้! นี่หมายความว่าไงเนี่ย!!" วอลเตอร์กล่าวด้วยความตกใจก่อนที่จะล้มกลิ้งไปอยู่กลางห้อง ก่อนที่เขาจะตั้งสติทันและรีบลุกขึ้นห้องนั้นก็ถูกล็อคเสียแล้ว.........
"เปิดประตูเดี๋ยวนี้นะ!!!" วอลเตอร์กล่าวด้วยนํ้าเสียงตกใจผนวกกับความโกรธและความสงสัย เขามองไปทั่วห้อง แต่ก็ไม่สามารถเห็นอะไรได้ นอกจากความมืดมิดที่ปกคลุมและแสงสว่างเพียงน้อยนิดจากรูตรงประตู
"อย่ากลัวไปเลย แค่ตอบคำถามนิดหน่อย" ออกัสกล่าว โดยที่เสียงของเขาลอดผ่านรูเล็กตรงประตูห้องนั้น
"ทำไมต้องทำอย่างนี้ด้วย ผมไม่เข้าใจ คุณต้องการอะไรกันแน่" วอลเตอร์กล่าวด้วยนํ้าเสียงหนักแน่น
"ช่วยบอกผมที ว่าคุณรู้ทางมาที่นี่ได้ยังไง" ออกัสกล่าว
"ผมรู้จากแผนที่ที่ภรรยาผมให้มา" วอลเตอร์กล่าว
"ภรรยาคุณเสียแล้วใช่มั้ย" ออกัสถาม
"ใช่.......ไม่กี่ชั่วโมงที่แล้ว คุณรู้ได้ไง" วอลเตอร์กล่าวด้วยนํ้าเสียงที่แผ่วเบาปนเศร้า
"เข้าใจละ ผมถามอะไรคุณหน่อย คุณจำอะไรได้บ้างมั้ย" ออกัสถาม
"ทำไมผมจะจำไม่ได้ ผมจำเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นกับผมได้ ผมเห็นภรรยาผมฆ่าตัวตาย ผมเห็นลูกสาวทั้งสองของผมที่กำลังรออยู่ในรถตอนนี้" วอลเตอร์กล่าว
"คุณจำอะไรไม่ได้จริงๆด้วย" ออกัสกล่าว
"คงใช้เวลาอีกนาน" ออกัสกล่าวพร้อมกับปลดล็อคประตูและเปิดออก
"ทำไมผมไม่เข้าใจที่คุณพูดเลย ที่ทำไปเมื่อครู่นี้คุณต้องการอะไรกันแน่" วอลเตอร์กล่าวด้วยท่าทางโกรธและเดินออกมาจากห้อง หลังจากที่เขากล่าวเพียงชั่วครู่นั้น ออกัสก็ใช้มือข้างขวาที่ถือเข็มฉีดยา ฉีดเข้าไปที่ต้นคอของวอลเตอร์ ภายในเวลาเพียง 5 วินาที วอลเตอร์ก็หมดสติลง"คุณจะจำทุกอย่างได้" ออกัสกล่าวพร้อมกับตาที่ค่อยๆปิดลงของวอลเตอร์จากผลข้างเคียงของยา
YOU ARE READING
A war in the dark world
Historical FictionMen are not prisoners of fate, but prisoners of their own minds. -Franklin D. Roosevelt