เจ้าชายมาร์คลากนายพรานแบมแบมกลับมาห้องเดินที่นายพรานแบมแบมพึ่งปีนหนีเมื่อกี้ เห้อ ข้าไม่อยากอยู่ที่นี่ ข้าอยากกลับไปอยู่กระท่อมกลางป่าดังเดิม ยังมีไก่ป่าอีกร้อยตัวรอข้าไปล่า ทำไมเจ้าชายจับข้ามาไว้ที่นี่ละ จะลงโทษข้าก็ไม่เห็นทำ มีแต่ปล่อยให้ข้านั่งอยู่แต่ในห้องตั้งนานสองนาน ส่วนตัวเองก็ทำอะไรกับกระดาษก็ไม่รู้ น่าเบื่อที่สุด ฮึ่ย! ข้าจะหนี!!
"เจ้ามองหน้าข้าแบบนั้น เจ้ามีปัญหาอะไรรึป่าว"เจ้าชายวางปากกาขนนกสีขาวลงและหันมามองนายพรานแบมแบมนี่งนั่งหน้าบูดอยู่ปลายเตียงกว้าง บางทีเค้าก็นึกขำว่าไปเก็บเด็กคนนี้มาทำไม
"ข้าสงสัย ว่าท่านจับข้ามาทำไม"
"งั้นเหรอ ข้าบอกเจ้าไปแล้วหนิ"
"ตอนไหน! ข้าไม่เห็นรู้เรื่อง"
"ตอนนั้นแหละ อย่าพึ่งเสียงดังตอนข้ากำลังทำงาน แล้วอย่าคิดหนีอีกละ เจ้ามีความผิดติดตัวอยู่นะ" เจ้าชายชี้หน้าคาดโทษ ทำให้นายพรานแบมแบมหน้าจ่อยลงทันที และหันไปจัดการกับเอกสารราชกาลตรงหน้า
"ขะ..ข้าไม่ได้จะหนีซะหน่อย ก็บอกแล้วข้าไปเดินเล่นเท่านั้นเอง"นายพรานแบมแบมเริ่มอยู่ไม่สุขเพราะเบื่อจากการนั่งเฉยๆ เดินสำรวจรอบๆห้องอย่างคนแสนรู้
"เอ่อ..เจ้าชายมาร์ค ข้าสงสัย"
"หืม สงสัยอะไรอีกละ"เจ้าชายตอบแต่หน้ายังวุ่นอยู่กับกระดาษกองโตที่อยู่บนโต้ะ
"ของในห้องท่านที่เป็นสีทองเนี่ย อย่างเก้าอี้พวกนี้ เป็นทองจริงๆรึป่าว"นายพรานแบมแบม ว่าแล้วเดินไปจับเก้าอี้ตัวนั้นอย่างสงสัย เค้าเองก็ไม่เคยเห็นทองจังๆเหมือนกัน เพราะไม่มีเงินมากพอที่จะซื้อนะสิ
"ก็ใช่นะสิ"
"ห้ะ!! จริงหรอ"โห้วถ้าเค้าแอบเอาเก้าอี้ตัวนี้ไปขายคงสบายไปทั้งชาติเลยนะ สุดยอดมากๆ เกิดเป็นเจ้าชายนี่รวยจริงๆ
"จริงสิ"แล้วห้องก็กลับมาเงียบอีกครั้ง นายพรานแบมแบมทนไม่ไหว เลยเดินไปหาเจ้าชายอย่างเก้ๆกังๆ
"นี่เจ้าชาย ข้าเบื่อห้องนี้แล้วข้าขอออกไปเดินเล่นข้างนอกได้ไหมอ่าา"นายพรานแบมแบมจิ้มแขนแกร่งของเจ้าชายมาร์คอย่างอ้อนๆ จริงๆคืออยากเดินๆไปละหนีไปเลย
"ไม่ได้"
"ทำไมละ!"
"เจ้าคิดจะหนีข้ารึ"แงงรู้ทันอีกแล้ว
"ข้าป่าวข้าสัญญาข้าไม่หนี"นายพรานแบมแบมชูสามนิ้วสาบาน เจ้าชายมาร์คคิ้วขมวดยุ่ง
"รอข้าทำงานเสร็จข้าจะพาไปเล่นที่สวน"
"จริงๆหรอ"นายพรานแบมแบมทำตาแพรวพราว และนั่งรอเจ้าชายมาร์คอย่างใจจดใจจ่อ พอมาร์ควางปากกาขนนกสีขาวอีกครั้งแบมแบมรีบลุกขึ้นมารอเลยทันที เจ้าชายมาร์คหัวเราะในการกระทำของคนตัวเล็กที่ดูกระตือรือล้นอยากออกไปเที่ยวเล่นข้างนอก
เจ้าชายมาร์คพาเดินมายังคอกม้าท้ายวัง
"หู้ววว เยอะมากก มีกี่ตัวเนี่ย ของท่านหมดเลยหรอเจ้าชาย ว้าววว"แบมแบมวิ่งไปมาดูตัวนู้นตัวนี้ทีอย่างตื่นเต้น ม้าเกือบร้อยตัวที่อยู่ในคอกมีคนคอยดูแลอย่างดี
"อืมก็ใช่"ม้าพวกนี้ก็ใช้สำหรับศึกสงครามด้วย แต่ไม่รู้จะได้ใช่รึป่าวเพราะเมืองก๊อตเป็นเมืองที่สงบสุข และเป็นมิตรกับเมืองรอบข้าง
"ว้าวววอย่างงี้ข้าขอขึ้นไปขี่มันได้ไหม ข้าไม่เคยขี่เลย ข้าอยากขี่น้าาเจ้าชาย"แบมแบมเคยฝันที่จะขี่ม้าด้วย แต่ตัวเองเป็นแค่นายพรานหาไก่ป่ามีเงินพอแค่ซื้ออาหารไว้กินให้อยู่ท้องจะไปหาม้าที่ไหนมาขี่ได้
"ไม่"
"อ้าวว แล้วท่านจะพาข้ามาทำไมละ"นายพรานแบมแบมยู่ปากอย่างขัดใจ หึ คนใจร้าย-3-
"ข้าจะไม่ให้เจ้าขี่คนเดียวนะสิ เกิดตกลงมาคอหักตายข้าจะไม่รับผิดชอบนะ มา ข้าจะพาไปรู้จักกับสโนว์"เจ้าชายมาร์คเดินมาจับมือนายพรานแบมแบมจูงมือพาไปดูม้าที่ได้รับการดูแลดีที่สุด แถมยังสง่าและสวยที่สุด นานพรานแบมแบมมองตาค้าง เพราะตะลึงในความสวยของเจ้าสโนว์ผิวขาวมุกเนียนเงาจนน่าจับตามอง เจ้าชายมาร์คเดินไปประเปิดตูและจับเชือกจูงม้าออกมา แบมแบมรีบวิ่งไปหลบหลังชายเพราะกลัวม้าจะทำอะไร
"เหตุใดเจ้าจึงหลบหลังข้า"เจ้าชายมาร์คมองคนตัวเล็กที่มองม้าตัวโตตาปริบๆ มือเล็กๆจับชายเสื้อเจ้าชายมาร์คไว้แน่น
"ไหนเมื่อกี้เจ้าบอกว่าอยากขี่ไง ทำไมถึงมาหลบหลังข้าเช่นนี้"เจ้าชายนึกขำในความใสซื่อของคนตัวเล็ก
"ขะ..ข้าอยากขี่ แต่ข้าไม่เคยขึ้นเลยสักครั้ง แถมพอมองใกล้ๆแบบนี้ม้าตัวใหญ่จนข้ากลัวมันจะทำร้ายข้าไหมเจ้าชาย"
นายพรานแบมก้มหน้างุด เจ้าชายมาร์คเลยอุ้มนายพรานแบมขึ้นบนหลังม้า โดยที่เจ้าตัวยังไม่ทันตั้งตัว
"มีข้าอยู่จะไม่มีอะไรทำร้ายเจ้าได้นะแบมแบม"
"ทะ ท่านทำอะไรนะ ข้ากลัวนะ"นานพรานแบมแบมโวยวายอยู่หลังม้าแต่ก็ไม่กล้าขยับตัวเพราะกลัวตก แล้วเจ้าชายมาร์คก็กระโดดขึ้นไปขี่ซ้อนข้างหลังเหมือนโอบนายพรานแบมแบมเอาไว้ในอ้อมแขน นายพรานแบมแบมกอดแขนเจ้าชายมาร์คแน่น เพราะกลัวตกลงจากที่สูง
"ท่านอย่าปล่อยข้านะ ข้ากลัวจริงๆ"
"ข้าจะกอดเจ้าไว้แบบนี้แหละ อย่ากลัวไปเลย"เจ้าชายมาร์คพูดแล้วก็ยิ้มน้อยยิ้มใหญ่อยู่คนเดียวกับความน่ารักของแบมแบม
"ท่านจะพาข้าไปไหนหรอ"
"พาไปชมสวนไง สวนกว้างใหญ่ถ้าเดินเห็นทีจะเหนื่อยตาย ข้าเลยพาเจ้ามาเอาม้าไง" นายพรานแบมแบมพยักหน้าเข้าใจ ม้าสีขาวนวลพาเดินตรงมายังสวนพฤษาที่กว้างใหญ่แถมยังมีผีเสื้อสีสวยๆบินเต็มไปหมด อย่างกับภาพฝันแหนะ และยังมีศาลาสีขาวใกล้ๆกับน้ำตกด้วย ในนั้นเหมือนมีคนนั่งอยู่เลย ม้าสีขาวที่มีเจ้าชายมาร์คคอยควบคุมให้เดินตรงไปที่นั้น และคนที่นั่งอยู่ก็คือองค์ราชินีจินยองนั้นเอง เจ้าชายมาร์คอยากจะบังคับม้าให้เดินไปอีกทาง แต่องค์ราชินีเห็นซะก่อน เจ้าชายมาร์คเลยบังคับม้าให้ตรงไปที่ศาลานั้น นายพรานแบมแบมแอบได้ยินเจ้าชายมาร์คถอนหายใจดังพรืดด
"ไงทำไมถึงมาอยู่ตรงนี้ได้ เจ้าชายเจบอมของเจ้าไปไหนซะละ"เจ้าชายมาร์คเอ่ยทักเจ้าหญิงจินยองที่กำลังปักบางอย่างบนผ้า เงยหน้าขึ้นมาแบบไม่สบอารมณ์สุดๆ
"ไปงานราชการในเมืองกับเจ้าชายแจ็คสัน ว่าแต่เจ้าเถอะ ไม่ทำงานทำการหรอถึงมาเที่ยวเล่นแถวนี้"นายพรานแบมแบมเริ่มเกร็งทันทีที่สองคนนี้อยู่ด้วยกัน หรือเค้าจะไม่ถูกกัน?
"พอดีข้าพา'คนของข้า'มาเปิดหูเปิดตาหน่ะ แต่ข้าไม่อยากกวนเจ้าละ งั้นข้าไปก่อนนะองค์ราชินี"
"ส่งแบมแบมมาแล้วข้าจะให้ไป"
"เรื่องอะไรข้าจะยกให้"นายพรานมาร์คว่าและหันให้ม้าเดินไปอีกทาง นายพรานแบมแบมทำหน้าไม่สบายใจ
"เอ่อ เจ้าชายไม่ชอบราชินีจินยองหรอ"นายพรานแบมแบมรวบรวมความกล้าเอ่ยถามออกไป
"ทำไมถึงจะไม่ชอบละ"เจ้าชายมาร์คยิ้มนิดๆ เค้าไม่คิดติดใจอะไรเพราะทุกคนก็คิดแบบนั้นเหมือนกัน แต่ก็ชายไม่ได้ไม่ชอบองค์ราชินีจินยองนะแค่หมั่นไส้ในความก๋ากั่น ดูอีกฝ่ายก็ชอบกวนประสาทเค้าเหมือนกัน
"แล้วทำไมท่านทั้งสองคนถึงมีท่าทีไม่ชอบกันละหรือจะเป็นเพราะข้าหรือ"นายพรานแบมแบมทำท่าตกใจ ตายแล้วนี่ข้าทำสองคนนี้ทะเลาะกันอย่างนั้นหรือ ข้ามีความผิด
"ไม่ใช่เพราะเจ้าหรอกแบมแบมข้าคุยกันแบบนี้เป็นปกติอยู่แล้ว"เหมือนเจ้าชายจะรู้ว่าคนตัวเล็กคิดไปถึงไหนต่อไหนเลยรีบเบรคความคิดนั้น
"อ่อออ"
จากนั้นเจ้าชายก็พาไปเรือนกระจกท่ามกลางสวนดอกไม้
"ที่นี่คือที่ไหนหรือเจ้าชาย"
"เรือนเพราะพันธ์ ข้ามาเพราะที่นี่ก่อนนำไปปลูก"เจ้าชายกระโดดลงจากหลังม้าแล้วจูงไปพูกกับต้นไม้ จากนั้นก็อุ้มนายพรานแบมแบมลงจากบนหลังม้า
"ฟู่ว น่ากลัวใช้ได้"นายพรานแบมแบมถอนหายใจอย่างโล่งอกที่ได้ลงจากหลังม้าสูงๆนั้น
"มาข้าจะพาไปดูข้างใน"
"ว้าวว มีแต่ต้นไม้แปลกทั้งนั้นเลย"แบมแบมถึงกับตาโตเมื่อได้เห็นภายในที่สวยงาม มีต้นไม้หลากสีมากมาย แถมมีแต่แปลกๆทั้งนั้น
"ข้าเป็นคนคิดขึ้นมานะ"
"ท่านเก่งจัง นี่คือต้นอะไรหรอน่ารักจัง ผลมันเหมือนหน้ากระต่ายเลย กลมๆเป็นหน้าแล้วมีหูสองข้าง"
"ต้นนั้นชื่อต้นรับบี้"
"อ่อออ รับบี้!"
"ดูตรงนั้นสิ นั้นคือต้นไม้ที่ข้าคิดค้นขึ้นมาแต่ยังไม่มีชื่อเลย"
"ว้าววววว ดอกมันใหญ่และสวยมากก"เป็นดอกไม้สีแดงสดที่ใหญ่กว่าตัวนายพรานแบมแบมเสียอีก
"เป็นต้นที่ทนต่อทุกอุปสรรคการเจริญเติบโตสามารถโตได้ในที่ ที่ไม่มีอะไร ไม่มีน้ำไม่มีแดดก็ไม่ทำให้ตายได้"
"สวยจังท่านคิดได้ยังไง"
"เพราะข้าเก่งไง"
"แล้วท่านจะตั้งชื่อว่าอะไรดีละ"นายพรานแบมแบมเอียงหัวถามเพราะความสงสัย
"แบมแบม"เจ้าชายมองคนตัวเล็กนิ่ง จะว่าไปแบมแบมก็เหมือนเจ้าดอกอันนี้นะ เติบโตได้โดยที่ที่ไม่มีอะไรแถมยังเติบใหญ่มาได้สวยงาม
"เจ้าชายท่านเรียกข้าหรอ"นายพรานแบมแบมถึงกับงง ว่าเจ้าชายจะเรียกทำไมเรียกก็ไม่พูดเอาแต่ยิ้มอยู่นั้นแหละ
"ป่าวนะ"
"ก็ข้าได้ยินอยู่เมื่อกี้นี้"
"ชื่อต้นไม้ต่างหาก" เจ้าชายยักไหล่แล้วเดินหันหลังออกมาจากเรือนกระจกปล่อยให้นายพรานแบมแบมยืนงงอยู่ตรงนั้นคนเดียว"เจ้าชายยยทำไมไม่บอกข้าละว่าคิดยังไงทำไมถึงตั้งชื่อดอกไม้เป็นชื่อข้า"นายพรานแบมแบมตามตื่อถามถึงชื่อดอกไม้ตั้งแต่เมื่อกี้แต่เจ้าชายก็ไม่ยอมบอก บอกให้คิดเอง จะคิดเองได้ยังไง เจ้าชายเป็นคนตั้งอ่า
"ไม่บอก"
"ชื่อมีเป็นล้านชื่อทำไมต้องเป็นชื่อข้าด้วยละ"แบมแบมทำแก้มป่องเหมือนโดนขัดใจ
"เจ้าเดือนร้อนงั้นหรือ"
"กะ..ก็ป่าวนะ"
"งั้นข้าจะตั้ง พรุ่งนี้ข้าจะไปแจกเมล็ดพันธ์ุให้กับประชาชน ให้ปลูกต้นแบมแบมทุกครัวเรือนเพราะความสวยงาม"
"จริงหรอ! งั้นข้าได้ด้วยไหมอ่า"ของฟรี! ของแจก!
"ได้สิเจ้าเป็นประชาชน'ของข้า'"
"เย้!!"
______________________________________
YOU ARE READING
[Fiction markbam] องค์ชายเจ้าเล่ห์กับนายพรานป่าตะมุตะมิ
Fanfiction"งั้นหรอ ข้าไม่รู้เพราะข้าไม่สนใจ เอาเป็นว่าข้ารู้แล้วทีนี้ปล่อยข้าไปได้รึยังข้าต้องหาสัตว์ก่อนฟ้ามืดนะ" "คงปล่อยไปไม่ได้หรอกเพราะข้าสนใจในตัวเจ้า" "ห้ะ!!" "ไปอยู่กับข้าเถอะ ไปสร้างเสียงหัวเราะให้ข้า"