เนื้อเรื่อง

568 21 2
                                    

เมื่อ 1 ศตวรรษที่แล้วมีรถไฟขบวนหนึ่งซึ่งเป็นขบวนที่น่าแปลกประหลาดมาก รถไฟขบวนนี้อาจจะมีอาถรรพ์บางอย่างที่ไม่มีใครรับรู้ได้ เนื่องจาก 1 ศตวรรษที่ผ่านมาคนขับรถไฟได้เกิดอาการแปลกๆขึ้นทำให้ขับรถไฟชนเด็กผู้หญิงคนหนึ่งและจู่ๆ ทั้งคนขับ และ ผู้โดยสารก็สูญหายไปพร้อมกับรถไฟ ทั้งขบวนเหลือเพียงแต่ความอ้างว้างวังเวง และ วิญญาณของเด็กสาวผู้นั้นที่ยังสิงสถิตอยู่ที่สถานีรถไฟ "มิสทรี"ผ่านมาจากวันนั้นไม่นานมากนัก ก็ได้มีข่าวลือกันว่า รถไฟขบวนนี้ได้สูญหายไปยังอีกมิติหนึ่ง เพื่อหนีออกจากเด็กผู้หญิงผู้เสียชีวิตที่ตามอาฆาตแค้นคนขับรถไฟอยู่ รถไฟขบวนนี้มีชื่อว่า "เอพัช" มีสีขาวทั้งขบน แต่ทว่าตอนนี้รถไฟขบวนนี้ได้กลายเป็นสีแดงทั้งขบวน เนื่องจากไปชนเด็กหญิงอย่างรุนแรงจนเสียชีวิต แต่จนทุกวันนี้ก็ยังไม่มีใครรู้เลยว่ารถไฟขบวนนี้หายไปอีกมิตินึงจริงหรือไม่ ? แล้วที่ๆนั้นมันอยู่ที่ไหน ?ผมก็เป็นหนึ่งในนั้นที่เชื่อเรื่องข่าวลือเหล่านั้น ผมชื่อ " มาร์ดิส ทอร์ล " หรือ " มาร์ค " ผมมีรูปร่างสูง ผอม ผมสีบลอนด์ทอง สายตาสั้น ใส่แวนทรงเหลี่ยมๆ บ้านค่องข้านที่จะมีฐานะ แต่หลังจากที่ผมได้ไปร่วมรบในสมรภูมิที่ผมคิดว่ามันสวยหรู แต่จริงๆแล้วมันชั่งน่าโหดร้ายยิ่งนัก ผมก็เริ่มเบื่อกับชีวิตที่แสนสุขสบาย เปลี่ยนตัวเองมาใช้ชีวิตอยู่แบบคนธรรมดาทั่วไป ผมเรียนอยู่ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 โรงเรียน เคอร์เวต ผมมักจะขึ้นรถไฟไปเรียนทุกๆวันเพื่อความประหยัดเพราะผมคิดว่าเราควรจะประหยัดไว้ก่อนที่จะไม่มีอะไรกินเหมือนในสมรภูมิรบ แต่ก็มีปัญหาเกิดขึ้นกับผมจนได้ ตั้งแต่ที่มีข่าวลือรถไฟมิติ อะไรนั่น ทำให้ผมไม่กล้าที่จะเข้าไปในสถานีรถไฟ มิสทรี สักเท่าไหร่ แต่สถานีอื่นๆ ก็อยู่ห่างไกลจากบ้านของผมมากเกินไป ผมจึงจำเป็นต้องไปสถานีนี้ต่อไป ผมก็พยายามที่จะทำตัวให้เหมือนกับทุกๆวัน แต่ผมก็ทำไม่ได้จริงๆ เมื่อเหลือบไปเห็นบางอย่างอยู่บนรถไฟ สิ่งนั้นคือเด็กหญิงที่มีชิ้นส่วนขาด เลือดอาบท่วมตัว ผมเริ่มไม่มั่นใจ พอรถไฟขบวนนั้นหยุด ห้ะ นั่นคือรถไฟขบวนที่ผมต้องขึ้นนี่นา ผมทำอะไรไม่ถูกตัวสั่น ขาสั่นไปหมด ถอดแว่นออกเพื่อไม่ให้เห็นอะไร แต่มันกลับเห็นสิ่งนั้นชัดยิ่งขึ้น ! "ผู้โดยสารขบวน เอพัช รถไฟเทียบชานชาลาแล้ว กรุณาขึ้นรถไฟภายใน 1 นาทีนี้ด้วยค่ะ" เสียงประกาศจากเจ้าหน้าที่ทำให้ผมรีบวิ่งไป ขึ้นรถไฟ โดยไม่สนใจอะไรทั้งสิ้น ขณะที่ผมกำลังนั่งรถไฟไปเรียนก็ยังไม่มีอะไรเกิดขึ้นผมโล่งใจ แต่ผมดันคิดทบทวนคำพูดของเจ้าหน้าที่ "รถไฟขบวน เอพัช"ทำให้ผมรู้ว่า ! รถไฟคันนี้มันเป็นชื่อเดียวกันกับที่เคยสาบสูญไปใน 1 ศตวรรษก่อน !! ผมตกใจมาก ใจสั่น ตัวชาไปทั้งตัว จนกระทั่งมีเสียงดังเกิดขึ้น ! เอี้ยดดดด ! ด้วยความสงสัยผมจึงหันไปมองริมหน้าต่าง ทำให้ผมพบว่ารถไฟขบวนนี้ขับชนเด็กหญิงที่ผมเห็นบนรถไฟก่อนที่จะขึ้นมาเหมือนในข่าวลือจริงๆ ! ผมสติแทบจะหลุดออกมา ได้แต่สวดมนต์ภาวนา นึกถึงพ่อกับแม่ แต่มันก็ไม่เป็นผลเมื่อผมเห็นปรัตูใหญ่ๆบานหนึ่งที่เปิดกว้าง ภายนอกนั้นเป็นเพียงอากาศ ไม่กี่นาทีหลังจากนั้นรถไฟก็หยุดวิ่ง คนขับลงมาจากรถไฟ ทำให้ผู้โดยสารเกิดความสงสัยลุกไปดูคนขับทันที ผมจึงรีบวิ่งตามไปและได้พบว่าบรรยากาศที่นี่ มันไม่ใช่แถวโรงเรียนผมนี่นา ผมมองไปรอบๆ มันเหมือนความฝันที่มีเมืองสวยงาม เหมือนในนิทาน ผมแทบไม่เชื่อสายตาตนเองเลยว่าจะมีที่นี่อยู่จริงๆ ผมใฝ่ฝันที่จะมาที่ๆนี้มากเพราะผมชอบเมืองลักษณะแบบนี้ ปราสาทสูงใหญ่ ถูเขาเขียวขจี ท้องฟ้าสีคราม สายน้ำไหลผ่านอย่างสวยงาม วิวรอบๆนั้นชวนให้ผมเพลิน ทำให้ผมลืมเรื่องที่ผ่านมาไม่นานไปสนิท ผมสะดุ้ง จู่ๆก็นึกขึ้นว่าที่นี่คือที่ไหนกันแน่ ผมหันไปมองซ้าย ขวา ผู้คนรอบตัวผม ชุลมุนวุ่นวายไปหมด ผมนึกขึ้นได้ว่ามีข่าวลือ รถไฟทะลุมิติ แล้วจึงนึกถึงเรื่องราวที่ผ่านมา หันไปมองสีรถไฟ รถไฟนั้นเป็นสีแดง สีเลือดจริงๆ ทำให้ผมมั่นใจว่านี่คือรถไฟขบวน เอพัช จริงๆ พ่อครับ แม่ครับ ผมขอโทษที่ไม่อาจจะกลับไปได้แล้ว ผมคิดถึงพ่อกับแม่นะครับ ผมรีบวิ่งไปทั่วเมืองตามหาประตูมิติที่เคยข้ามมา แต่ก็ไม่มีแม้แต่เงา ผมร้องไห้คร่ำครวญทั้งวัน คืดหาทางออก แต่ก็เหมือนว่าจะไม่มีทางออกใดๆเลย ผมใช้ชีวิตอยู่กับผู้โดยสารที่มารถไฟขบวนเดียวกันมานานนับ 10 ปี อาการของพวกเขาไม่ต่างกับผมเลย เวลาที่ผ่านมา ทุกคนเอาแต่ร้องไห้จนไม่ได้ยินเสียงใดๆนอกจากเสียงผู้คนร้องไห้คร่ำครวญตลอดเวลา ทุกคนดูเครียดมาก บางคนถึงกับป่วยกันเลยทีเดียว ผมได้แต่นั่งสมาธิ สงบสติอารมณ์ได้สักพัก ผมก็ได้ยินเสียงบางอย่าง เป้นเสียงเล็กแหลม ดังขึ้นในหัวผมว่า "ฉันให้อภัยพวกเธอ โปรดกลับมาที่เดิม พวกท่านจงไปหาสร้อยคอนาฬิกาเล็กสีทองสิ่งนั้นจะสามารถทำให้พวกท่านกลับมายังมิติเดิมได้ ขอให้โชคดี" เสียงนี้วนเวียนอยู่ในหัวผมโดยตลอก ทำให้ผมตัดสินใจบอกเรื่องนี้ให้กับผู้โดยสารทุกคนฟัง ทุกคนทำท่าดีใจ หยดน้ำตานั้นหายไปจากใบหน้าของพวกเขาทันที ทุกคนรีบออกตามหาของสิ่งนี้พวกเขาตั้งใจมากๆไม่กี่วันพวกเราก็เจอของสิ่งนี้ทุกคนร้องเฮ ดีใจที่จะได้กลับไปตามเดิม นั่งกอดกันไปร้องไห้ไป ผู้คนที่ป่วยเริ่มแข็งแรงขึ้น ทุกคนดูสดใส มีชีวิตชีวา แตกต่างจากวันแรกที่เราหลุดมิติมา พ่อครับ แม่ครับ ผมจะกลับไปแล้วนะครับ รอผมอีกสักพักนะครับ ผมคิดถึงนะครับ ผ่านมา 2-3 วันพวกเราก็กลับมาอยู่ ณ ที่เดิม ผมได้ยินเสียงเล็ก เสียงเดิมดังขึ้นว่า ขอบคุณนะ ผมมั่นใจว่าจะต้องเป็นเสียงเด็กสาวคนนั้นอย่างแน่นอน ผมน้ำตาคลอ ดีใจที่เธออภัยให้กับพวกเรา จนผมกลับถึงบ้านเข้าไปไม่พบใคร พบเพียงน้องสาวที่นั่งดูรูป ผมและพ่อแม่ เมื่อน้องสาวเห็นผมเธอรีบเข้ามาโผกอดผม เธอร้องไห้พูดว่า "พี่น่าจะกลับมาเร็วกว่านี้ พ่อกับแม่ท่านเสียไปแล้วฮือๆ"ผมตกใจมากในเรื่องที่น้องสาวพูด"พ่อครับ แม่ครับ ผมกลับมาแล้ว ทำไมพ่อกับแม่ไม่รอผมก่อนล่ะครับ ทำไมครับ ทำไมฮือๆ" เราสองคนกอดกันกลม เมื่อรู้ว่าพ่อกับแม่ต้องจากไป แววตาของน้องนั้นเศร้าโศรกใจมาก น้องคงจะรอผมมานานแล้ว"ต่อไปพี่จะดูแลเธอเองน้องสาวของพี่"

You've reached the end of published parts.

⏰ Last updated: Jan 04, 2015 ⏰

Add this story to your Library to get notified about new parts!

รถไฟอาถรรพ์แห่งมิสทรีWhere stories live. Discover now