แฟ้มรายงานสีน้ำตาลเข้มค่อยๆ ถูกส่งเข้ามาในห้องทำงานส่วนตัวของเขาเล่มแล้วเล่มเล่า มันถูกส่งผ่านมาหลายต่อหลายมือเพื่อมาจบลงที่เขาให้ไล่ดูความสำเร็จที่มาจากกลิ่นคาวเลือดของศัตรู แม้แค่มองผ่านตัวอักษรก็ยังคงเห็นความตายแทรกผ่านขึ้นมาจนชวนคลื่นเหียน
ชายหนุ่มเองก็ได้เพียงแต่ภาวนาว่าจะมีน้อยกว่านี้เสียหน่อย
ทุกครั้งที่หยิบแฟ้มเล่มใหม่ขึ้นมา ทุกครั้งที่กรีดกระดาษที่เหม็นหมึกพิมพ์คลุ้งไปหน้าต่อไป หัวใจก็สั่นไหวด้วยความพรั่นพรึง เพราะน้ำหนักของสิ่งของในมือในไม่สัมพันธ์กันกับเนื้อหาข้างในเอาเสียเลย รายชื่อของคนที่ไม่รู้จัก ไม่เคยเห็นหน้าแต่ผมกลับต้องมายืนยันความตายที่เกิดจากน้ำมือของพวกเขา รูปภาพประกอบสิ่งของเล็กๆ น้อยๆ ที่เอามาจากร่างไร้วิญญาณ เพื่อยืนยัน 'ความตาย' ปะแปะเอาไว้มากน้อยตามผลงานของพลซุ่มยิง
ผมก็ได้แต่วาดหวังว่าจะไม่เจอชื่อ 'เขา' อยู่ในนั้น
แต่แล้วคำวิงวอนขอร้องต่อพระผู้เป็นเจ้าทรงมอบความยุติธรรมให้แก่ผม ก็เหมือนจะไปไม่ถึง แต่เหมือนว่าจะไม่มีประโยชน์อันใดในการสวดมนต์ภาวนา หัวใจก้อนน้อยในอกที่ไม่รู้ว่ายังแหลกสลายได้มากกว่าที่เป็นอยู่ มันบีบรัดจนแน่น จนไม่เหลือดี จนรู้สึกว่าผมกลายเป็นรายนามที่ไร้ชีวิตเหล่านี้ยังคงจะเจ็บน้อยกว่า เพราะไม่ต้องมาจมปลักกลับความเจ็บปวดเกินจะทานทนเหล่านี้ ตายไปโดยไม่ต้องรับรู้เรื่องราวเหล่านี้อีกต่อไป
ผมรู้ ใช่...ผมรู้ว่า คำโกหกอันโง่งมที่เฝ้าหลอกตัวเองนั้นไม่สามารถบิดเบือนความจริงนั้นได้ ไม่ว่าจะกู่ร้องเท่าไหร่ความจริงก็คือความจริงไม่บิดพลิ้ว
สิ่งที่เห็นในตอนนั้นไม่ผิดสายตา ไม่ได้ผิดพลาดจากที่คาดการณ์เอาไว้ ชายหนุ่มรู้โดยทันทีว่ามันต้องเป็น 'เขา' ไม่มีทางที่จะเป็นคนอื่นไปได้ เพราะในหิมะขาวมันไม่มีอะไรที่จะสะท้อนแสงได้มากขนาดนั้น นอกเสียจากแสงท้อนกระจกมัจจุราชของเขา
แม้จะผิดวิสัยของเขาคนนั้น แต่ทำไมนะ...ทำไมผมถึงรู้ว่าเขาคนนั้นจงใจ เจ้าโมซินนากังค์คู่ใจกระบอกนั้นเขาคงไม่แม้แต่ที่จะบรรจุกระสุนลงไปด้วยซ้ำ เห็นได้ชัดว่าจงใจที่จะวางคอบนเคียวของมัจจุราชให้คร่าชีวิตของเขาไป
คนโง่ โง่ โง่ โง่ โง่จนว่ากล่าวอย่างไรก็ไม่หาย...
โง่จริงๆ ทำไมเขาถึงไม่คิดบ้างว่าคนที่ยังต้องยืนอยู่อย่างผมจะสามารถก้าวเดินต่อไปได้ยังไงในเมื่อ 'หัวใจ' ส่วนหนึ่งได้หายไปเสียแล้ว พร้อมเงาร่างของเขาเอง
ผมมีอำนาจสามารถบังคับให้คนทำตามคำสั่งได้ แต่บังคับไม่ให้ตัวของผมเองรู้สึกไม่ได้ และบางทีก็ห้ามการกระทำที่อันเกิดจากความรู้สึกพาไปไม่ได้ อวัยวะไร้จังหวะในอกด้านซ้ายก็ดูเหมือนไม่มีความหมาย เพราะคนคนเดียวที่สามารถทำให้มันมีชีวิตได้ คนเดียวที่ทำให้รู้สึกว่ามันมีประโยชน์สำหรับผม เขาจากไปอย่างไม่มีหวนกลับ
ผมรู้...รู้ดีกว่าใครๆ
เพราะอย่างนั้น...ผมจึงปล่อยให้ทุกอย่างจบลง ยุติทุกสิ่งให้เลือนหายไปพร้อมกาลเวลา โดยปล่อยให้เสียงกรีดร้องในร่างของผมเองให้แหลกเหลวไปตามเวลา กดมันไว้ให้ลึก ลึกลงไปในตัวของผมคล้ายกับว่าความรู้สึกเหล่านั้นไม่เคยมีอยู่ ปล่อยให้ความจริงสุดท้าย...มีแค่ผมคนเดียวที่รับรู้
ว่า ผมรัก...
YOU ARE READING
SNIPER : zarry
Fanfictionหัวใจและหน้าที่ เสียงเรียกจากสิ่งไหนหนักแน่นกว่ากัน เราไม่เคยรู้เลยว่าสิ่งใดคือสิ่งที่ควรยึดถือ ทั้งๆ ที่เราไม่ควรได้เจอกัน แต่ทำไมกลับมาได้ใกล้ชิด อาจเป็นเพราะความบ้าคลั่งอันต่ำตมของมนุษย์ทำให้เราได้เจอกัน และความละโมบในอำนาจก็ทำให้เราต้องแยกจากกัน