เพียงแค่ไม่กี่วันมิตรภาพ ระหว่างพวกนายและฉันแน่นปึกมาก ฉันรู้สึกมีความสุขอย่างบอกไม่ถูก
" เออนี่ พวกเธอสองคน คืนนี้4 ทุ่มว่างไหม?"
ไมค์กี้ถามฉันกับแพมม่า
" ทำไมเหรอไมค์ จะชวนพวกเราไปไหนอีกล่ะ พรุ่งนี้ฉันมีเรียนนะ "
" นั่นสิ นี่ก็ 2 ทุ่มแล้วนะ "
แพมม่าชำเลืองมองนาฬิกาที่แขวนอยู่บนผนัง
แล้วไมค์ก็หันไปซุบซิบกับสามหน่ออย่างมีพิรุธ
จะมาหลอกล่อพวกเราไปไหนอีกเนี่ย
ฉันกับแพมม่ามองหน้ากันไปมา" โอเค เราไปกันเถอะถึงเวลาแล้ว"
ไมค์หันมาบอกพวกเรา สามหน่อยิ้ม
" เดี๋ยวสิ นี่พวกนายจะพาพวกฉันไปไหนห้ะ! "
ไม่มีสัญญาณตอบรับจากหมายเลขที่คุณเรียก
คาลเดินเข้ามาจับมือฉันเดินออกจากบ้าน
ฉันยังไม่ทันได้ถามอะไรนายเลยนะ วัยรุ่นใจร้อนเอ้ยยย ฉันเดินตามนายคาลออกมาอย่างแมวเชื่องที่ โดนล่อด้วยอาหารสุดโปรด ยัยแพมม่านี่น่าอิจฉาสุดๆ เฮียแอชตันเล่นอุ้มนางเลยทีเดียว หืมมม
ไม่ค่อยจะเปิดเผยสักเท่าไรเลยจริงๆ
ทั้งหมดอยู่ในรถเรียบร้อยแล้ว ส่วนคนมีคู่อย่างเรานั่งเบาะหลัง มันแน่นอนอยู่แล้วล่ะ ยัยแอลวี่! คิดอะไรแปลกๆฟะ! งานนี้ลุคเป็นคนขับ น่ารักจริงๆ แต่ฉันรู้สึกว่านายไม่ค่อยพูดเลยนะลุค ทั้งที่ภายในรถทุกคนพากันพูดจอแจหมด
คาลพาฉันคุยโน่น นี่ นั่น ตลอดทางนายนี่คุยเก่งชะมัดยาก บางทีฉันก็แอบชำเลืองเห็นลุคมองมายังฉันโดยผ่านกระจกมองหลังเบาะ สีหน้าของนายนี่แปลกจริงๆ ฉันบอกได้เลยนะ
ทุกครั้งที่ฉันคุย หยอกล้อกันกับคาล ลุคจะมองผ่านกระจกตลอดเลย คืออะไรกัน?
หรือฉันคิดไปเองนะ" ลุค นายไม่คิดจะพูดอะไรหน่อยเหรอ?
เห็นนายนิ่งเงียบตลอดเลยนะ "ลุคหัวเราะหึหึ ในลำคอ แต่นายก็ไม่ตอบอยู่ดี
" จะบอกอะไรให้นะ แอลวี่ ไอ้ลุคน่ะมันไม่มีปากหรอก นึกจะพูดก็พูด
บทจะไม่พูดมันก็ไม่พูดเลย ฉันยอมมันเลยจริงๆนะ ใช่ไหม? ลุค"
YOU ARE READING
Love Revolution
Fanfictionถึงแม้ 'แอลวี่' จะไม่ใช่ติ่ง5sos เต็มตัว เหมือนกับเพื่อนคนอื่นๆสักเท่าไหร่ แต่การเข้ามาอยู่ในอเมริกากับเพื่อนสาว แล้วยังบังเอิญมาเจอ4หนุ่มตัวจริงในงานคอนเสิร์ต เล่นทำเอาเธอ อึ้งและทึ่ง แถมยังได้มาเป็นแฟนกับมือเบสสุดเฟี้ยว อย่าง 'คาลัม' เพียงแค่ในระ...