Taehyung POV.
หลังจากที่ผมจัดการคุยธุระกับพี่จินเป็นที่เรียบร้อยแล้วผมจึงค่อยๆก้าวขึ้นรถแวนคันใหญ่ด้วยท่าทีเบื่อหน่ายพร้อมกับทิ้งตัวลงบนเบาะที่นั่งด้านหลังสุดทันที สายตาคมเหลือบมองคนร่างบางข้างๆที่นอนเอาหัวพิงกระจกด้วยท่าทีสบายใจ คงหลับอยู่สินะ...หากแต่ในความคิดของผม ผมคิดว่ามันไม่น่าจะนอนได้สบายเท่าไหร่นัก เอาหัวทิ่มกระจกไปขนาดนั่นคงปวดคอแย่ มือหนาของผมจึงค่อยๆประคองศรีษะเล็กของซึลกิไว้เบาๆพร้อมกับเอนหัวของเธอให้พิงมาที่ไหล่ของผมแทนแล้วกระชับร่างบางให้นอนราบมาที่ตัวของผมเพื่อที่ซึลกิจะได้สบายขึ้น
จึงกลายเป็นว่าตอนนี้ผมกำลังกอดซึลกิจากด้านหลังอยู่ พอได้มากอดและใกล้ชิดกับซึลกิมากๆขนาดนี้ถึงได้รู้ว่าตัวของเธอนั้นผอมและเล็กกว่าที่ผมคิดไว้เยอะเลย คงต้องจับขนมยัดปากให้อ้วนแล้วล่ะแบบนี้ผมยังสงสัยอยู่เลยว่าถ้าผมรัดร่างของซึลกิให้แน่นกว่านี้กระดูกของเธอจะโผล่มาทิ่มมือผมหรือเปล่า
ไม่รู้ว่าถ้าเธอตื่นมาแล้วผมจะโดนฆ่าทิ้งหรือไม่แต่ตอนนี้ผมขอใช้ช่วงเวลาอันน้อยนิดนี้โอบกอดซึลกิไว้ให้นานที่สุดแล้วกัน ยิ่งอยู่ใกล้กันมากเท่าไหร่ผมก็ยิ่งได้กลิ่นหอมอ่อนๆจากร่างบางในอ้อมกอดนี้มากขึ้นเท่านั้น สายตาของผมไล่มองตามกรอบใบหน้าสวยของคนที่นอนหลับไม่รู้ตัวอยู่นิ่งก่อนจะซบใบหน้าลงกับเรือนผมนุ่มแล้วหลับตาลงทันที
ห้าวินาทีต่อจากนี้ไปจะถึงเวลาที่แทฮยองคนนี้หลับเป็นตายแล้ว...!
.
.
.
.
.ร่างสูงของแทฮยองได้หลับไปแล้วหลังจากผ่านไปห้าวิ(จริงๆ) หากแต่ร่างบางในอ้อมกอดที่เขาคิดว่าหลับไปแล้ว จริงๆไม่ได้หลับมาตั้งแต่ทีแรก แถมยังพยายามกลั้นยิ้มไว้ตลอดกับทุกการกระทำของของแทฮยองอีกต่างหาก
Seulgi POV.
ฉันเงยหน้าขึ้นไปมองใบหน้าหล่อเหลาของแทฮยองที่อยู่ห่างกับใบหน้าของฉันเพียงเล็กน้อยเท่านั้น การขยับตัวนั้นดูเหมือนจะยากลำบากไปสักหน่อยเมื่อฉันเอนหัวพิงกับไหล่หนาของแทฮยองแถมใบหน้าของแทฮยองเองก็ฝังอยู่ที่เรือนผมของฉันเช่นเดียวกันพร้อมกับท่อนแขนแกร่งที่โอบกอดรอบเอวบางไว้แน่น ยิ่งทำให้ฉันรู้สึกเกร็งเข้าไปใหญ่กับระยะที่ใกล้ชิดกันมากขนาดนี้ นิ้วเรียวของฉันไล่วนสัมผัสไปตามสันจมูกโด่งและสันกรามของแทฮยองไปเรื่อยๆพลางพูดออกมาเสียงแผ่งเบา
YOU ARE READING
That Was Sweet Start #Vseul
Fanfiction- ให้ฉันเจ็บซะเองยังไม่เจ็บปวดเท่ากับการต้องเห็นเธอร้องไห้แบบนี้เลย คิดว่าแบดบอยก็รักไม่เป็นหรืออย่างไง - แทฮยอง