หนึ่งอาทิตย์ผ่านไปเร็วกว่าที่คิด
และตอนนี้ผมอยู่ที่หน้าร้านซึ่งเป็นสถานที่นัดหมายเรียบร้อย
ผมได้รับคำเชิญชวนจากเสี่ยวมู่เป็นครั้งสุดท้ายเมื่อชั่วโมงก่อน
ผมค่อนข้างคิดหนักและลังเล แต่ผมก็คิดว่ามันมีความเป็นไปได้สองอย่าง คือหนึ่งสวี่เว่ยโจวอาจจะไม่มา ซึ่งถ้าเป็นอย่างนั้นผมคงจะสามารถกินเลี้ยงพูดคุยกับเพื่อนๆในงานได้อย่างสบายใจ
สองคือเขามา และผมยังคิดไม่ออกว่าตัวเองจะเป็นยังไงต่อไปแต่ชีวิตของคนเรามันก็ขึ้นอยู่กับความเสี่ยงอยู่แล้ว ผมเลยคิดที่จะลองเสี่ยงดู
รู้ตัวอีกทีก็มายืนอยู่นี่แล้ว ...
ผมเดินลงจากรถของเสี่ยวมู่มาเป็นเวลาร่วมนาทีได้ แต่ขาของผมมันไม่ยอมขยับสักที
แรงตบดังป้าบที่กลางกบาลจากด้านหลังเรียกผมให้หลุดออกจากภวังค์
"ยืนบื้ออยู่ทำไมล่ะครับเพื่อน เข้าไปสิ"
เสี่ยวมู่ที่เพิ่งหาที่จอดรถหน้าร้านได้กระทุ้งไหล่ผม ผมจึงศอกมันกลับไปทีนึง
"ก็รอนายนั่นแหละ"
ผมอ้างไปอย่างนั้น ทั้งที่ความจริงข้างในแล้ว .. ผมรู้สึกประหม่าที่จะเดินผ่านประตูบานนั้นเข้าไปต่างหาก
"งั้นเข้าไปกันเถอะ ฉันหิวแล้ว"
เสี่ยวมู่คล้องแขนมาที่คอผม กึ่งเดินกึ่งลากให้ผมเดินไปข้างหน้า ผมขืนตัวเองเล็กน้อยเพราะขาทั้งสองข้างมันแข็งไปแล้ว
หัวใจผมเต้นเร็วผิดปกติ เหงื่อตามข้างขมับเริ่มซึมขึ้นมา นี่มันลุ้นระทึกยิ่งกว่าเข้าบ้านผีสิงซะอีก
ประตูไม้สีดำขลับของร้านได้ถูกผลักให้เปิดออกโดยมือของเสี่ยวมู่ สายตาหลายคู่ภายในร้านหันมามองเราแทบเป็นตาเดียว
ไม่น่าเชื่อเลยว่าทุกคนในร้านคือเพื่อนสมัยม.ปลายของผมล้วนๆ นี่วันนี้พวกเขาเหมาร้านนี้ไว้เลยรึยังไง ?
KAMU SEDANG MEMBACA
... Again ... [Jingyu X Weizhou]
Fiksi Penggemarอยากจะรู้เธอเป็นอย่างไร ตั้งแต่วันนั้นที่เลิกกันไป โลกใบเก่าๆ ...ที่ฉันยังอยู่และวนอยู่ที่เดิม เธอเป็นอย่างไร ? เรื่องที่เคยคุยกับเพลงที่เคยฟัง ยังจำได้ฉันไม่ลืม.