..
..
ราวกับดิน ฟ้า อากาศในเวลานั้นจะรู้ความ
ลมที่เคยที่เคยโกรกพัดก็สงบนิ่งเสียราวกับว่าไม่เคยได้โชยชื่นมาก่อน เหล่าใบไม้ที่เคยไหวต้องแรงลมก็แทบไม่กระดิกแม้สักกระผีก เสียงอื้ออึงจากเรือเครื่องและเรือในลำคลองกว้างนั้นก็ดูจะเบาบางลงไปทั้งสิ้น
ชั่วยามในศาลาริมคลองนั้นดูราวกับชะงักงันไปเมื่อเนตรงามสองคู่ได้สบกัน
และเมื่อดวงพักตร์คมสันต์แย้มสรวลอีกครั้ง สิ่งต่างๆ ที่หยุดนิ่งไปชั่วครู่ก็กลับไปเป็นตามครรลองของมันอย่างเก่า
ลมเอื่อยอ่อนพัดมาต้ององค์ของคนที่อยู่บนหัวกระได เนตรคู่งามตรึงค้างอย่างนั้นด้วยไม่คิดไม่ฝันว่าคนที่ห่างกันไปถึง 9 ปี จะมาปรากฎองค์ให้ได้พบพักตร์รวดเร็วปานนี้
คนที่นั่งพับเพียบอยู่บนโป๊ะไม้เอี้ยวองค์ไปผูกเงื่อนเชือกให้เรือติดกับกระไดขั้นสุดท้าย หัตถ์ที่ใหญ่ยาวกว่าแต่ก่อนกระพุ่มขึ้นและค้อมองค์ไหว้อย่างงดงามหมดจดแม้จะห่างไปนานแต่ก็ไม่ลืมทำเนียมประเพณีที่เคยฝังรากอยู่ในทัยโดยแท้ เนตรคมคู่นั้นทอประกายตรึงรั้งเนตรคู่งามให้ไม่อาจเสไปทอดเนตรที่ใดได้ องค์สูงใหญ่ขยับคลานเข้ามาจนชิดสนับเพลาขององค์เล็กจ้อยที่คะเนด้วยสายเนตรขององค์เองแล้วนั้นคนที่ประทับอยู่หัวกระไดมิได้โตขึ้นแต่น้อย พักตร์น้อยนวลจิ้มลิ้มนั้นก็คงเหมือนแต่ก่อน ที่แปลกไปในยามนี้คงมีแต่เพียงพักตร์ที่ดูตกตื่นทัยเท่านั้นเอง
YOU ARE READING
ดุจเมฆา
Fantasyนภาภาคผืนใดไร้เมฆา ดังยลยินผสุธาไห้อาสัญ แม้จำฝืนกงเกวียนแลเทวัณ ขอเพียงครองคู่กันนิรันดร