อากาศอบอุ่นในห้องกล่อมให้นิโคลและลีนนูสผล็อยหลับเนิ่นนาน นานจนฝนที่โหมกระหน่ำเมื่อช่วงบ่ายหายไป เหลือไว้เพียงเมืองซูริคที่เฉอะแฉะและเจิ่งนองด้วยน้ำ ท่อนแขนของลีนนูสยังคงพาดผ่านช่วงเอวนิโคลไม่เคลื่อนไปไหน ราวกับว่าเป็นผ้าห่อห่มร่างบางไว้ไม่ให้หนาวเหน็บ แผนการทุกอย่างของลีนนูสเหมือนมลายหายไปเมื่อได้รู้จักนิโคลมากขึ้น
แต่ความลับไม่มีในโลก...สุนัขจิ้งจอกเป็นภัยต่อกระต่ายน้อย ไม่ช้าก็เร็ว...กระต่ายจะไหวตัวทัน และไม่มีวันย้อนกลับมาเป็นเหยื่อของสุนัขจิ้งจอก
ลีนนูสหลับไปพร้อมกับความกังวล เขากังวลว่า วันใด...วันหนึ่ง...นิโคลจะรู้ว่าเขาไม่ได้เป็นผู้ชายแสนดีอย่างที่คิด เธอคงเสียใจและผิดหวังในตัวเขามาก
ร่างสูงสะดุ้งตื่นขึ้นมากลางดึกเพราะเสียงปิดประตูห้อง เสื้อโค้ชของนิโคลหายไปจากตะขอข้างประตู พร้อมกับอ้อมแขนของเขาที่ว่างเปล่า ดวงตาคมกวาดมองหานิโคลทั่วห้องพลางเรียกหาด้วยความกังวล
ไร้วี่แวว ไร้คำตอบ มีเพียงกระดาษใบเล็กที่ทิ้งไว้บนโต๊ะหัวเตียง มือหน้าคลี่กระดาษเปิดอ่าน
ฉันรู้สึกความจริงทุกอย่างแล้ว สิ่งที่ฉันเพิ่งรู้มาฉันรับไม่ได้จริงๆ ต่อไปนี้อย่ายุ่งกับฉัน ฉันไม่อยากจะตกเป็นเหยื่อคนใจร้ายอย่างนาย
ลีนนูสทิ้งกระดาษลงพื้นพรม ลูบหน้าอย่างคนสิ้นหวัง ความเครียดปะทุอยู่ใต้เรือนผมทองจนแทบระเบิด
นิโคลรู้ความจริงแล้ว...
เธอหนีไปจากชีวิตเขาแล้ว...มือหนาทุบหน้าผากตัวเองซ้ำๆ หวังลงโทษตัวเองที่คะนองดึงตัวนิโคลเข้ามาในเกมพนันตั้งแต่ทีแรก หากเขาไม่ทำอย่างนั้นเธอคงไม่เสียใจแบบนี้
ลีนนูสตั้งสติ เขารีบหยิบเสื้อโค้ชแล้ววิ่งออกจากห้องอย่างรวดเร็ว หวังว่าจะตามเธอไปให้ทันก่อนที่นิโคลจะขึ้นรถรางกลับบ้าน ความกดดันประดังเข้ามาเมื่อต้องเดินฝ่าผู้คนที่เริ่มทยอยเดินตลาดคริสต์มาสอีกครั้งเมื่อฝนหยุด