บทที่1:ตราตรึงใจมิรู้ลืม

9 0 0
                                    


หุบเขาไร้ลักษณ์นั้นเป็นที่ตั้งวิหารเฟยหมิงของคนสกุลหานซึ่งเชี่ยวชาญการปราบภูติผีวิญญาณร้ายและปรามคนชั่ว มีลูกศิษย์มาก มายมาขอเรียนที่สกุลหานส่วนที่เรียนจบจะออกไปแสวงหาประสบการณ์ต่อก็ตามใจตนแต่ต้องไม่ทำให้เฟยหมิงเสียชื่อเด็ดขาดมิเช่นนั้นจะถูกทำลายวรยุทธ์และทำลายจินตันให้เป็นคนธรรมดาตลอดชีวิตหากตั้งใจจะอยู่ศึกษาต่อและใช้ชีวิตในเฟยหมิงก็ต้องปฏิบัติตนเฉกเช่นคนในสกุลหานอย่างเคร่งครัดเช่นกัน

ในวันหนึ่งที่ฟ้าหม่นแสงท้องฟ้ากลายเป็นสีเทาอมดำอึมครึมชวนให้หม่นหมองใจอยู่ไม่น้อยแต่บรรดาลูกหลานสกุลหานและลูกศิษย์ที่กำลังเดินกลับห้องหลังเรียนจบบทเรียนกลับชื่นชอบอากาศดีเยี่ยงนี้ไม่ได้รู้สึกอะไรกับธรรมชาติที่แปรปรวนมากนักดังเช่นเด็กหนุ่มทั้งสองคนที่ต่างฝ่ายต่างเดินออกจากที่เรียนคนละห้อง

"สุ่ยหมิง เจ้าว่าคนพเนจรนั่นจะฟื้นหรือยัง"
เด็กหนุ่มในชุดสีฟ้าอ่อนรีบวิ่งตามมาถามเพื่อนสนิทที่เดินออกมาจากห้องคัดลายพู่กันด้วยกลัวว่าอีกฝ่ายจะหนีไปก่อนอีก

"...ไม่รู้สิ อาจจะยังไม่ฟื้นก็ได้เห็นว่าเจ็บหนัก
นี่"หานสุ่ยหมิงส่งยิ้มน้อยๆให้เพื่อนอย่างอ่อนใจกับความอยากรู้ที่เจ้าตัวเคยโดนลงโทษเพราะมันมาแล้วแต่กลับไม่เคยหราบจำ

"ไปโดนอะไรมานะ เนื้อตัวงี้ถลอกปอกเปิกไป
หมดแถมยังโดนพิษอีกด้วย"

"....หลิงเซียว เจ้ายังจำเรื่องที่ร้านจิ่นเปาได้ใช่
มั้ย"

เพียงแค่ได้ยินชื่อจิ่นเปาถังหลิงเซียวก็ทำหน้าแหยหุบปากโดยทันใด หากวันนั้นไม่มีหานสุ่ย
หมิงไปด้วยคาดว่าเขาคงได้โดนท่านอาจารย์ฟาดด้วยแส้เป็นแน่แท้แต่ว่าความอยากรู้ก็ทำ ให้สงบปากได้ไม่นานนักซึ่งดูเหมือนเจ้าตัวจะลืมไปอีกแล้วเพราะเดินกันมาไม่เท่าไหร่ถัง หลิงเซียวก็เปิดปากชวนคุยอีก

"จะว่าไปที่นี่ก็ไม่เคยมีคนบุกรุกมาก่อนดูอย่างประมุขทั้งหลายยังต้องฝ่าด่านยามเฝ้าทางถึงจะเข้ามาได้แล้วเด็กนั่นเป็นใคร ทำไมถึงแอบ
เข้ามาในอาณาเขตได้"

บุปผา ดารา จันทราเคียงใจWhere stories live. Discover now