เด็กหนุ่มเรือนผมสีส้มนั่งมองชายหนุ่มผมสีมิ้นเดินถือกระเป๋าเป้ใบใหญ่เข้าห้องนู้นออกห้องนี้เป็นว่าเล่นอยู่ตรงโซฟารับแขกกลางบ้าน ข้างตัวมีแมวสีสวยตัวปุกปุยนอนเบียดขา ก้มไปมองมันก่อนจะเกาท้อง เกาคางให้หลับสบาย
"จีมิน นายเห็นเสื้อโค้ทสีน้ำตาลพี่ไหม" คนหัวมิ้นท์เดินออกมาจากห้องนอนของเขาที่แต่ก่อนมันเคยเป็นของเรา เอ่ยถามถึงเสื้อโค้ทตัวโปรด จีมินนิ่งคิด
"พี่เอาไปที่นู่นตั้งนานแล้วนะครับ"
"ไม่ดิ พี่มีสองตัว อีกตัวนึงอ่ะอยู่ที่นี่"
"อา.." เด็กหัวส้มนึก
"หลังบ้านมั้งครับ.. เมื่อวันก่อนผมเอาเสื้อผ้าออกมาซัก คงจะติดไปด้วย"
"งั้นเหรอ? โอเค" ว่าแล้วก็หันหลังเดินไปหลังบ้าน ปาร์คจีมินมองตามไกล..
คนตรงหน้าเขาน่ะ..
ไปไกลจากเขามากแล้วนะ..พี่ยุนกิน่ะ..
ไปไกลจนเขาเอื้อมไม่ถึงแล้ว..หลับตาลงอดีตที่งดงามก็แล่นเข้าสู่สมองโดยฉับพลัน เราเป็นแฟนกัน ไม่สิ เราเคยเป็นแฟนกัน ปาร์คจีมินกับมินยุนกิน่ะ เคยเป็นแฟนกัน เขาจำได้ว่าตอนนั้นเรารักกันมากแค่ไหน จำได้ว่าตอนนั้นที่มีกันมันมีความสุขมากมายเท่าใด จำได้เหมือนเรื่องราวมันเพิ่งเกิดขึ้นเมื่อวาน เรื่องราวที่อยู่ด้วยกันมาเกือบห้าปี.. แต่วันนี้มันจบลงแล้ว..
เรื่องมันเริ่มจากตรงไหนน่ะเหรอ?
จะว่ายังไงดีล่ะ? เคยได้ยินคำว่ารักแท้แพ้ระยะทางไหม? คำๆ นี้มันน่าจะบอกเรื่องราวระหว่างเขากับอีกคนได้ดีที่สุดแล้วล่ะ"ให้ผมช่วยไหม?" เอ่ยถามอีกคนที่เดินกลับมาจากหลังบ้าน ยุนกิยิ้มบางก่อนจะพยักหน้ารับ
"เดี๋ยวพี่เก็บเสื้อผ้าอีกแป๊ปนึงแล้วเดี๋ยวจีมินไปช่วยพี่เก็บของในห้องเก็บของได้ไหม?" จีมินพยักหน้า"พี่จะเอาของไปหมดเลยเหรอ?" เอ่ยถามอีกคนหลังจากที่พากันมาเก็บของในห้องเก็บของแล้ว ห้องนี้เป็นห้องที่เขากับพี่ยุนกิใช้เก็บของต่างๆ ทั้งของที่ซื้อด้วยกันและของที่ซื้อใครซื้อมัน รวมทั้งอัลบั้มรูปถ่ายที่เขาทั้งสองเคยได้ถ่ายด้วยกัน
"พี่จะเอาแค่ของของพี่ไปน่ะ ไว้ที่นี่มันก็รกเราเปล่าๆ" คนหัวสีมิ้นท์เอ่ยตอบ นั่งกับพื้นไล่ดูแผ่นเพลงที่ถูกเก็บไว้อย่างดี
"ถ้าพี่จะเอาแผ่นเพลงไปก็เลือกก่อนนะครับว่าอันไหนมันมีรูปคู่เราอยู่หรือเปล่า เดี๋ยวเขาเปิดเห็นแล้วจะดราม่า" ยุนกิชะงัก
"นั่นสิ.." จีมินทิ้ตัวลงนั่งข้างๆ ก่อนจะหยิบแผ่นเพลงแผ่นหนึ่งออกมาจากชั้น เปิดมันออกก็พบกับรูปของเขากับพี่ยุนกิหล่นออกมา
"พี่ลืมเลยว่าซื้อเพลงมาแล้วก็เอารูปเรามาใส่ไว้ตามอารมณ์เพลง" ยุนกิว่าก่อนจะไล่เปิดแผ่นเพลงทีละแผ่น จีมินหัวเราะ
"พี่ก็ขี้ลืมมาแต่ไหนแต่ไรแล้วนี่ครับ"
"ไม่สิ" ยุนกิเถียง
"ช่างมันเถอะครับ เก็บของเถอะนะ" เอ่ยตัดบทก่อนจะค่อยๆ ทยอยเปิดแผ่นเพลงออกมาดูว่ามีรูปของเขากับพี่ยุนกิหลงเหลืออยู่หรือไม่
เขาเป็นคนชอบฟังเพลง เวลางอนกันพี่ยุนกิก็จะไปซื้อแผ่นเพลงมาง้อด้วยการใส่รูปคู่ลงไป พี่ยุนกิบอกว่าเวลาฟังจะได้นึกถึงกัน
"มีอะไรเหรอครับ?" เอ่ยถามอีกคนที่นิ่งไปไม่ยอมเก็บของเหมือนเคย
"จีมิน.."
"ครับ?" พี่ยุนกิกลืนน้ำลายลงคอ
"แน่ใจนะว่าถ้าพี่ไม่อยู่แล้วเราจะอยู่ได้?"
"ถ้าพี่คิดจะไปก็อย่าถามเลยครับ"
"ไม่ประชดดิ"
"ผมไม่ได้ประชด แต่ผมพูดจริง" จีมินตอบเสียงนิ่ง
"พี่ขอโทษนะ"
"รีบเก็บของเถอะครับเดี๋ยวเขารอนานนะ" เอ่ยตัดบทอีกทีก่อนจะฝืนยิ้มแล้วช่วยอีกคนเก็บของ
ไม่มีพี่ยุนกิน่ะ เขาอยู่ได้อยู่แล้ว ก็แค่ไม่เหลือใคร..
ไม่เหลือใคร..