เสียงถอนหายใจอันแผ่วเบาถูกกลบเลือนหายไปกับเสียงเครื่องดนตรี และบรรดาผู้คนนับพันที่ส่งเสียงหัวเราะอย่างเบิกบานอยู่บนเรือสำราญลำใหญ่ ซึ่งล่องออกจากท่าเรือเมืองมาดริคประเทศสเปน เพื่อมุ่งตรงไปยังมลรัฐนิวยอร์กประเทศสหรัฐอเมริกา อันเป็นดินแดนสิวิไลในความคิดของใครหลายๆคน และอาจหมายรวมถึงเด็กหนุ่มผู้เป็นเจ้าของเสียงถอนหายใจนี้ด้วย
บริเวณชั้นด่านฟ้าของเรือ เด็กหนุ่มอายุสิบเจ็ดที่ชื่อราเอล มิลาคอฟ กำลังนอนแผ่ร่างอยู่บนเก้าอี้ตัวยาวที่อยู่ในมุมมืด มือทั้งสองข้างซุกอยู่ใต้ศีรษะแทนหมอนใบนุ่ม ผมสีดำสนิทนั้นลู่โอนไปตามแรงลมที่พัดมาเอื่อยๆ แสงไฟสลัวๆ บนชั้นด่านฟ้าส่องกระทบกับใบหน้าที่คมเข้ม นัยน์ตาสีเทาทั้งสองข้างกำลังจับจ้องอยู่กับดวงดาวนับล้านที่ส่องแสงในคืนที่ม่านฟ้ากลายเป็นสีดำสนิท พลางคิดถึงอดีตของตัวเอง ที่ต้องสูญเสียบุคคลอันเป็นที่รักไป ทุกคนค่อยๆ หายไปจากชีวิตของเขา เริ่มจากแม่ที่ประสบอุบัติเหตุทางรถยนต์ เรื่อยมาจนถึงปู่และย่าที่จากไปด้วยโรคมะเร็ง และล่าสุดเมื่อสองสัปห์ดาก่อน พ่อของ ราเอลได้เสียชีวิตลงด้วยโรคมะเม็งเช่นเดียวกัน
เมื่อต้องกลายเป็นเพียงหนึ่งเดียวที่เหลืออยู่ ถึงไม่จะไม่เคยต้องการเลยก็ตาม แต่เขาก็ต้องมีชีวิตอยู่เพื่อวันต่อไป ราเอลจึงตัดสินใจไปเริ่มต้นชีวิตใหม่ที่นิวยอร์ก และทิ้งอดีตที่แสนหดหู่นี้ไว้ที่สเปน
"ถ้าพระเจ้ามีอยู่จริง ผมยอมทุกอย่าง ขอให้แค่พวกเขากลับมา"
เสียงที่เต็มไปด้วยความทรมานจากการสูญเสียถูกระบายออกมาจากความปราถนาในก้นบึ้งของหัวใจ ราเอลหลับตาลงแน่นสนิท ใบหน้าที่คมคายกำลังแสดงถึงความเจ็บปวดจนแทบจะทนรับต่อไปไม่ไหว
"ขอแค่ให้พวกเขากลับมา"
สิ้นคำอธิษฐาน ท้องฟ้าเบื้องบนก็คำรามกึงก้อง ตามด้วยเสียงหวีดร้องด้วยความตื่นตกใจของผู้คน เช่นเดียวกับราเอลที่สะดุ้งสุดตัว เขาลุกขึ้นนั่งหลังตรงอย่างรวดเร็ว และทันทีที่มองไปเบื้องหน้าเหนือผืนน้ำมหาสมุทรแอ๊ตแลนติกอันกว้างใหญ่ ราเอลจึงได้เห็นกลุ่มเมฆสีดำสนิทที่แผ่กระจายเป็นบริเวณกว้างหลายกิโลเมตร มันเป็นกลุ่มพายุที่ดูน่ากลัวมากที่สุดจนทำให้ทุกคนที่ได้เห็นถึงกับขนลุกยืนตาค้าง
YOU ARE READING
Fercianut
Fantasyใครจะไปคิดว่าแค่ตกทะเลก็ทำให้หลุดไปอยู่ที่ดาวดวงอื่นได้ ราเอลเด็กหนุ่มธรรมดาบนดาวโลกจึงกลายเป็นคนเด่น จนทำให้สารพัดเรื่องยุ่งเข้ามาพัวพันกับเขา รวมทั้งเรื่องทีว่าทำไมเขาถึงมาอยู่ทีดาวเฟอร์เซียนัทด้วย