ตอนที่เห็นหน้าพระแพงอีกครั้งที่บริษัท จากที่หงุดหงิดอยู่แล้ว เขาก็ยิ่งหงุดหงิดมากขึ้น เขาไม่ชอบให้เด็กเลี้ยงมายุ่มย่ามถึงในที่ทำงาน แถมนี่ยังลามปามถึงขนาดมาสมัครงานในบริษัทเขาด้วย เขาไม่สนหรอกนะว่าพระแพงจะเข้ามาด้วยวิธีไหน แต่ในเมื่อกล้ามาเขาก็กล้าตอบโต้ กล้ามาเหยียบถึงถิ่นเขา เขาคงต้องโยนให้ธนิตจัดการ เขาไม่ชอบทำอะไรที่ต้องเสียมือเปล่า แถมเขาลงมือเองพระแพงอาจไม่เจ็บจำเท่าธนิตลงมือด้วย และจะมาหาว่าเขาใจร้ายไม่ได้ พระแพงอยากเลือกมาเจอเขาตอนที่เขาหงุดหงิดเอง
แต่พอเห็นท่าทางของพระแพงที่ส่งสายตามาเขาก็ใจอ่อนวูบ จากที่หงุดหงิดก็รู้สึกดีขึ้นเล็กน้อย พระแพงเป็นเด็กขี้อ้อน และมีความจริงใจ ถึงเขาจะอ่านสายตาและบางประโยคที่พระแพงส่งมาไม่ออก แต่เขาก็พอสรุปใจความได้ว่า พระแพงไม่ได้ตั้งใจจะมาสมัครงานที่นี่
คิดแล้วก็อดหงุดหงิดขึ้นมาอีกหน่อยไม่ได้ เด็กคนอื่นที่เขาเคยเลี้ยงทุกคนรู้เรื่องเขาดีกันหมดทั้งนั้ มันก็เหมือนกับเป็นการทำการบ้าน ที่ทุกคนต้องรู้จักเสี่ยเลี้ยงของตัวเองเพื่อที่จะได้เอาอกเอาใจเสี่ยเลี้ยงของตัวเองได้ถูกต้องมากขึ้น แต่พระแพงนี่...ท่าทางนามสกุลเขาก็คงยังไม่รู้จักเลยมั้ง ถึงนามสกุลเขาจะไม่ได้ใหญ่มาก แต่ก็เป็นคนที่อยู่ในวงการส่งออกที่มีทรัพย์สินหลายพันล้าน แล้วพระแพงเป็นพนักงานประสาอะไร แค่หน้าตาท่านประธานหรือนามสกุลของท่านประธานก็ยังไม่รู้ มันช่างน่าจัดการนัก
แต่นั่นก็ถือเป็นเสน่ห์อย่างหนึ่งของพระแพงล่ะนะ พระแพงน่ะเป็นเด็กไม่คิดมาก คิดอะไรหรือมองอะไรก็มองแต่ในแง่ดี งานการ... เอาตรงๆ ก็คือสอนงานได้ง่ายมาก โดยเฉพาะกับเรื่องบนเตียงที่ตอนแรกน่ะพระแพงออกจะใสเอามากๆ ถึงขนาดอดทนข่มกลั้นแต่ก็ไม่ยอมเปิดปากส่งเสียงร้องขอให้เขาช่วย เขาที่อยากได้ยินเสียงเลยแกล้งไปเสียหลายชุด สั่งสอนไปอีกยกใหญ่ จนตอนหลังพระแพงก็มาถึงจุดที่จำได้ว่าเมื่อไหร่ควรจะเปิดปากเพื่อเพิ่มรสชาติของชีวิตเวลาอยู่บนเตียง
ESTÁS LEYENDO
เด็กเลี้ยง ( BL, YAOI, BOY LOVE, COMADY)
Historia Cortaเรื่องสั้น :: ถ้าไม่ฮาก็คงจะดราม่าแทน