จากที่คิดไว้ว่าผมคงจะออกจากห้องนี้ในตอนเช้าแต่ดูท่า มันคงจะไม่เป็นอย่างที่คิดเมื่อความปวดเมื่อยตามร่างกายมันตามหลอกหลอนจนขยับไม่ได้ แถมยาที่กินเข้าไปยังดูเหมือนยากล่อมประสาทชั้นดี ทำให้มีอาการเบลอขึ้นเสียอีก นี่มันยาแก้ไข้จริงรึเปล่าทำไมมันง่วงอย่างนี้ได้ล่ะ
แต่ไม่ได้ ยังไงผมก็ต้องกลับห้องผมใช้มือทุบหัวตัวเองเบาๆ เรียกสติ ดึงผ้าน่วมผืนหนาออกจากร่างกาย ลุกขึ้นยืนอย่างทุลักทุเล แต่ผมกลับซวนเซหน้ามืดจนต้องนั่งลงตั้งสติ ทำให้ความปวดร้าวตรงสีข้างมันยิ่งรู้สึกมากขึ้น
“ซี๊ดดด..อ่า”
“พี่จะไปไหนนะ” คนที่ผมลืมไปซะสนิทว่าอยู่ในห้องด้วยเปิดประตูห้องน้ำออกมาเจอผม ก็รีบวิ่งเข้ามาประคองทันที
“จะกลับห้อง แค่กๆ” เสียงไอที่เต็มไปด้วยความแหบแห้งของผมตอบออกไป ไม่เต็มเสียงเท่าไหร่
“กลับห้อง แล้วพี่ไปไหวรึไงสภาพอย่างนี้”
มือแกร่งที่ดูแข็งแรงกว่าผม ดึงแขนผมให้ขยับตัวพิงกับหัวเตียง ก่อนจะนั่งลงข้างกันจ้องหน้าผมนิ่ง ทำให้ผมได้แต่อึกอักมองอีกคนอย่างไม่เข้าใจ อะไรของมันทำไมต้องจ้องเหมือนผมทำผิดด้วยแค่จะกลับห้องอ่ะ กูจะกลับห้องไง
“แค่กๆ พอ ไปได้” ผมโบกมือบอกเป็นเชิงว่าไม่เป็นอะไร “นายไม่ต้องเป็นห่วงฉันหรอกฉันดูแลตัวเองได้ แค่กๆ ขอบคุณสำหรับเรื่องเมื่อคืนก็แล้วกัน”
หลังพูดจบก็ทำท่าจะขยับตัวลงจากเตียงอีกรอบ แต่ก็ไปไม่ได้เพราะถูกดึงแขนไว้อีก เอ่ะ ไอ้เด็กนี่!
สายตาคมตวัดมองผมแฝงความไม่พอใจอยู่หลายส่วน จนทำให้ความไม่พอใจของผมเปลี่ยนเป็นงงหนักขึ้นว่าเขาต้องการอะไรกันแน่ จึงมองอีกคนด้วยความสงสัย และสุดท้ายเกมจ้องตาของเราก็จบลงพร้อมการถอนหายใจของคนตรงหน้าผม เขาเสยผมที่ปรกหน้าผากตัวเองลวกๆ อย่างหัวเสีย
BẠN ĐANG ĐỌC
Talk to me ถ้ารักผมก็บอก(yaoi)
Lãng mạnผมมันพวกปากเเข็งซึนเเละมึน ไม่เคยชอบใครเเละรักใครง่ายๆ เเต่กลับต้องมาเเพ้ทางไอ้เด็กมหาลัย ปีสองจอมตื้อข้างห้อง ไม่จริงน่าา ผมไม่ได้ชอบผู้ชายนะโว้ย!!!