FULL

1.4K 33 3
                                    

 
 


 
 
2015
 
 
 
 
 
“หมอขอแสดงความยินดีด้วยนะครับ คุณปาร์คจีมินตั้งครรภ์ได้ 6 สัปดาห์แล้ว”
 
แม้ว่าตอนที่พูด คุณหมอคิมจะคิดว่าเป็นข่าวดีสำหรับคุณพ่อคุณแม่มือใหม่ แต่เมื่อพูดออกไปแล้วเห็นปฏิกิริยาตอบกลับของคนทั้งสอง คุณหมออาจจะต้องคิดใหม่ว่า สิ่งที่คุณหมอพูดนั้น เรียกว่าข่าวดีได้หรือเปล่า
 
 
 
 
 








 
 
 
 
“จองกุกใช่ไหม”
 
แทฮยองถามคนที่ยังตกใจกับเรื่องที่ได้ยินเมื่อครู่ ไม่ใช่แค่จีมินหรอก เขาเองก็ตกใจเหมือนกัน เขาคิดว่าเขาก็ไม่ใช่คนหัวโบราณอะไร แต่จองกุกกับจีมินเพิ่งจะเรียนจบมัธยม...
 
 
เห้อ ...
 
เด็กพวกนี้มันไม่รู้จักวิธีป้องกันกันหรือไงนะ อยากจะด่าไปให้ถึงอเมริกาเสียจริง
 
 
 
“เรื่องนี้อย่าให้จองกุกรู้นะครับ” เป็นคำแรกที่จีมินพูดตั้งแต่รู้เรื่อง จีมินเงียบตั้งแต่อยู่ในห้องตรวจ เป็นแทฮยองที่ต้องพูดคุยกับคุณหมอแทน
 
“อืม” แทฮยองเห็นด้วย หากจองกุกรู้ คงได้โร่กลับมาวันนี้พรุ่งนี้แน่
 
 
 
“พ่อกับแม่ ก็ห้ามรู้เหมือนกันนะครับ” จีมินบอกอีก
 
“ห๊ะ จะเป็นแบบนั้นได้อย่างไง จะท้องโตทั้งๆ ที่ไม่รู้ว่าเด็กในท้องเป็นหลานเขาหรอ” แทฮยองเข้าใจว่าจีมินจะไม่ยอมบอกว่าจีมินท้องกับจองกุก
 
“นะครับ พี่แทฮยอง”
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
ภาพตัดกลับมาที่โต๊ะอาหารอีกครั้ง หัวโต๊ะยังคงเป็นประมุขของบ้านเช่นเคย
 
“วันนี้แทฮยองพาไปสมัครเรียนมาแล้วใช่ไหมจีมิน เรียบร้อยดีใช่ไหม” ผู้ใหญ่ท่าทางใจดี ถามความคืบหน้าเกี่ยวกับการเรียนของคนที่ตนเอ็นดู
 
จีมินนิ่งไม่ยอมตอบอยู่ครู่หนึ่ง ก่อนตัดสินใจลุกออกไปนั่งคุกเข่าข้างเก้าอี้ของคนที่ตัวเองนับถือเหมือนพ่ออีกคน
จอนยองกวังและคิมยูรีมองดูการกระทำนั้นอย่างประหลาดใจ
 
“จีมินขอบคุณคุณพ่อมากๆ นะครับ ที่เอ็นดูจีมิน แต่จีมินไม่อยากเรียนครับ”
 
ยองกวังมองเด็กที่ก้มหน้าพูดสิ่งที่คิดออกมาด้วยความตกใจ
“แต่ที่จองกุกยอมไปเรียนที่ต่างประเทศ เพราะต้องการให้จีมินได้เรียนนะ”
 
จีมินไม่ได้สนใจคำพูดนั้น แต่กลับพูดประโยคถัดไปที่ทำเอาทุกคนตรงนั้นตกใจ
“จีมินจะออกไปอยู่ที่อื่นครับ”
 
“พ่อทำอะไรให้จีมินไม่พอใจหรือเปล่า” ยองกวังถามออกไป เขายอมรับว่าบางครั้งก็รู้สึกเหมือนตัวเองโดนเด็กคนนี้ขโมยความรักไป แต่นั้นไม่ได้ทำให้เขาเกลียดเด็กคนนี้ มีการกระทำอะไรของเขาที่ทำให้จีมินลำบากใจที่จะอยู่ด้วยกันหรือเปล่า
“ไม่ครับๆ ไม่ใช่ๆ” จีมินรีบโบกมือ เงยหน้าขึ้นมาปฏิเสธ
คิมยูรีลุกมาพยุงจีมินให้มานั่งที่นั่งตัวเอง แล้วเธอก็ขยับไปนั่งเก้าอี้ตัวถัดไป
 
“เรื่องนี้ไม่ตกลงนะจีมิน ถ้าจองกุกรู้คงไม่อยู่เรียนจนจบแน่ๆ” พ่อรีบบอกไป ลำพังจีมินไม่ยอมเรียนก็แทบจะไม่อยากให้จองกุกรู้อยู่แล้ว และนี่ถ้าจองกุกรู้ว่าจีมินจะไม่ยอมอยู่ด้วยกันอีก จองกุกคงบินกลับมาวันนี้พรุ่งนี้แน่
 
“จองกุกต้องไม่รู้เรื่องนี้ครับ อย่าบอกจองกุก” จีมินพูดเสียงเศร้า
 
“เรื่องนี้พี่ไม่เห็นด้วยนะจีมิน” แทฮยองที่นั่งฟังเงียบๆ อยู่นานเอ่ยขึ้นเสียงเข้ม เขาคิดว่าวันนี้จีมินจะบอกพ่อกับแม่ว่าไม่เรียน และจะบอกเรื่องที่ท้อง แต่เรื่องที่จะออกจากบ้านนี้ จีมินไม่ได้ปรึกษาเขาเลย
 
จีมินเงยหน้าขึ้นมา พูดเสียงสั่น “เห็นด้วยกับจีมินอีกสักเรื่องเถอะครับ”
 
แทฮยองถึงกับพูดอะไรไม่ออก ถ้าเป็นแบบนี้ พ่อแม่จะไม่รู้เลย ว่าจีมินกำลังตั้งท้องหลานของพวกเขา
 
 
“แล้วจีมินจะไปอยู่ที่ไหน ถ้ากลับไปอยู่ที่บ้าน พ่อไม่ยอม” ยองกวังถามเมื่อเห็นว่าแม้แต่แทฮยองก็ดูเหมือนจะยอม เขายังไม่ตัดสินใจว่าจะให้จีมินออกไปอยู่ข้างนอกหรือไม่ เขายังจำคำพูดของลูกชายได้ ที่บอกว่าจีมินไม่เหลือใครอีกแล้ว
 
“จีมินจะอยู่ที่โซลนี่แหละครับ” คนตัวผอมบอกด้วยสายตาอ้อนวอน
 
 
“คุณเห็นว่าอย่างไง” จอนยองกวังหันไปถามภรรยาของตน ที่นั่งลูบบ่าลูกชายคนเล็ก
“ฉันไม่ยอมให้จีมินไปเด็ดขาดค่ะ” คิมยูรีตอบหนักแน่น
จีมินที่ได้ฟัง ก้มหน้าน้ำตาไหล มือเรียวรีบยกมาปาดออก
 
“แทฮยองล่ะ ว่าอย่างไง” พ่อเปลี่ยนมาถามลูกชายอีกคนด้วยคำถามเดียวกัน
 
แทฮยองมองจีมินที่นั่งสูดน้ำหูน้ำตาอยู่ฝั่งตรงข้ามของโต๊ะอาหาร เขาเข้าใจจีมินดี ... เข้าใจทุกอย่าง
 
“ผมตามใจจีมินครับ”
 
คิมยูรีขัดใจในคำตอบของลูกชาย แต่ก็เชื่อและเคารพในคำตอบ
 
จอนยองกวังที่ได้ฟังความคิดเห็นของทั้งภรรยาและลูกชายแล้ว ก็ถึงเวลาที่ต้องตัดสินใจ เขาค่อนข้างตกใจที่ได้ยินว่าจีมินจะไม่เรียนต่อ ส่วนหนึ่งก็เป็นเพราะการเรียนต่อของจีมิน เป็นเหตุผลเดียวที่ลูกชายของเขาไปเรียนต่อต่างประเทศตามคำสั่งของตัวเอง แต่เมื่อได้ยินว่าจีมินจะออกไปอยู่ข้างนอกคนเดียว นั่นทำให้เขาตกใจมากขึ้นไปอีก จีมินเป็นเพียงแค่เด็กอายุสิบแปดเท่านั้น เขายอมให้ลูกชายตัวเองไปเรียนไกลๆ แต่กับจีมินเขากลับเป็นห่วง
 
“พ่อยอมให้จีมินไปอยู่ที่อื่นได้ แต่ต้องติดต่อมาตลอด และที่สำคัญ ต้องให้แทฮยองเป็นคนดูแล”
 
สุดท้ายก็ยอมปล่อยไป ถ้าไม่ต้องการอย่างนั้นจริงๆ คงไม่ถึงกับยอมมานั่งคุกเข่า
 
“ขอบคุณครับ ฮึก” จีมินก้มหัวขอบคุณทั้งน้ำตา
 
 
“จีมิน”
“ครับ”
“ขยับมาใกล้ๆ พ่อ”
 
จีมินลุกออกไปนั่งคุกเข่าข้างเก้าอี้คนที่เรียกตน คนเป็นใหญ่ลูบหัวคนที่ตนเอ็นดู
 
“จีมิน ต่อให้จองกุกไม่บอกให้พ่อดูแลเราให้ดี .. พ่อก็รักเราเหมือนลูกอยู่แล้ว รู้ใช่ไหม”
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
“กลับเลยไหมจีมิน เราเดินมาชั่วโมงนึงแล้วนะ คุณหมอยิ่งบอกว่าไม่ให้เดินนาน” คิมแทฮยองบอกว่าที่คุณแม่ ที่ดื้อดึงจะเดินเลือกซื้อข้าวของเพื่อต้อนรับลูกน้อยที่ห้างสรรพสินค้า โซนของใช้เด็ก
 
ก่อนหน้านี้เขาก็บอกให้กลับอยู่หลายครั้งแล้ว แต่จีมินก็ไม่เคยฟังเขาเลย นี่ถ้าหลานเขาออกมาแล้วดื้อได้แม่ล่ะก็ จะตีให้ตายเลย
 
 
 
อืดดด อืดดดดดด อืดดดดดดดด
 
มือเรียวของคนตัวเล็กลูบคลำแถวๆ กระเป๋ากางเกง เมื่อรู้สึกถึงแรงสั่นสะเทือนของสมาร์ทโฟนเครื่องเก่าที่ผ่านการใช้งานมาร่วมสองปี
 
“จองกุก... อันยอง...” เสียงใสพูดผ่านโทรศัพท์กับคนที่โทรมาทางวีดิโอ จีมินพยายามหันโทรศัพท์ให้ด้านหลังเป็นโซนเสื้อผ้าผู้ใหญ่
 
“อันยอง...” จองกุกโบกมือตอบคนที่โบกมือให้ผ่านแอพลิเคชั่นดัง
 
 
“อยู่ข้างนอกหรอ” จองกุกถามเมื่อเห็นบรรยากาศข้างหลัง ตอนนี้ที่เกาหลีบ่ายสามแล้ว
“อืม มาเดินตากแอร์ในห้างน่ะ” จีมินตอบคนที่อยู่อีกซีกโลก พวกเขาคุยกันอยู่บ่อยๆ ผ่านข้อความ ถึงจะถามวันนี้ ตอบมะรืนนี้ แต่ก็ยังมีความสุขดี
 
“ไปกับใคร”
“มาคนเดียว”
 
 
ห๊ะ มาคนเดียวหรอ แทฮยองที่เดินล้ำอยู่ข้างหน้าหันมาเบะปากใส่
จีมินเห็นแล้วล่ะว่าแทฮยองทำหน้าอย่างไร แต่ตอนนี้ ตอนที่กำลังคุยกับจองกุก พี่ช่วยทำเหมือนจีมินมาคนเดียวได้ไหมครับ
 
 
“เจ็ดเดือนแล้วนะ คิดถึงจีมินจัง” จองกุกเฝ้านับวันนับเดือนที่จะได้กลับไปเจอ
“ชู่ว เบาๆ สิ จีมินอยู่ข้างนอกอยู่นะ” จีมินรีบห้ามคำหวานของจองกุก พวกเขาคุยกันผ่านวีดิโอ มาบอกคิดถึงกันอย่างนี้ คนอยู่ใกล้ๆ ก็ได้ยินกันพอดี
“ก็คิดถึงจริงๆ นี่นา” จองกุกบอกความรู้สึกอีกครั้ง
“รู้แล้ว ... คิดถึงเหมือนกัน” จีมินทำมือป้องปาก กระซิบใกล้ๆ โทรศัพท์
 
เด็กหนุ่มยิ้มให้กันผ่านหน้าจอ
 
“ที่นั่นกี่โมงแล้วจองกุก” จีมินถาม
“ห้าทุ่มแล้ว”
“งั้นจองกุกรีบนอนเถอะ นอนดึกเดี๋ยวพรุ่งนี้เรียนไม่รู้เรื่องนะ”
 
จองกุกหัวเราะชอบใจ คำนี้มันเป็นคำที่เขาเคยบ่นให้จีมินตอนที่จีมินติดโทรศัพท์แรกๆ นี่นา
 
“อืม จีมินก็เหมือนกันนะ อย่ากลับดึก” จองกุกสั่ง
“ครับ แค่นี้นะ บายบาย”
 
“บายย”
 
 
ร่ำลากันอยู่นาน จีมินถึงได้กดวางสายได้ ถึงจะวางสายไป ก็ยังยิ้มให้กับโทรศัพท์อยู่อย่างนั้น
 
 
“กลับเลยม้ะ” แทฮยองถามเหมือนใส่ใจ
 
แต่จีมินฟังอย่างไงก็ดูเหมือนประชด
 
“ดีเหมือนกัน จีมินปวดขาแล้ว” จีมินตอบยิ้มๆ
 
“ปวดขาหรอ พี่บอกให้กลับตั้งนานแล้วก็ไม่เชื่อ” แทฮยองถามปนบ่น ก็ห่วงใยทั้งนั้น
 
“พี่แทว่าจีมินหรอ” คนถูกบ่นถามตาแข็ง น้อยใจที่โดนดุ
 
“เปล่าๆ ไม่ใช่ๆ ... กลับเถอะ กลับได้แล้ว” แทฮยองรีบปฏิเสธ ไม่อยากให้คนตัวเล็กหงุดหงิด
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
ค่ำคืนที่แทฮยองหลับสนิท ถูกรบกวนด้วยเสียงโทรศัพท์ ปกติเขาไม่ใช่คนที่เปิดเสียงโทรศัพท์ตอนนอน แต่เพราะตอนนี้จีมินใกล้คลอดแล้ว ถึงแม้จะมีนัดผ่าคลอดหลังจากนี้ แต่เขาก็เปิดเสียงโทรศัพท์ไว้เผื่อมีเหตุฉุกเฉิน
 
กริ๊ง กริ๊ง
 
แขนยาวเอื้อมไปควานหาต้นเสียงที่วางอยู่บนโต๊ะตัวเล็กข้างหัวเตียง
 
ตัวหนังสือเบลอ เพราะเจ้าของตาสองชั้นไม่ได้ลืมเต็มที่
 
จองกุก
 
 
 
“อื้ม” แทฮยองส่งเสียงไปเมื่อกดรับสายน้องชาย
 
“ช่วงนี้จีมินไม่ค่อยรับสายผมเลย” จองกุกพูดสิ่งที่ตั้งใจจะพูดทันที
 
“ช่วงนี้จีมินก็ไม่ค่อยรับสายนายอยู่แล้วไม่ใช่หรอ” พี่ชายที่นอนอยู่พูดงึมงัมแต่พอฟังเข้าใจ
 
“รู้ครับ ผมถึงโทรมาถามพี่ว่าช่วงนี้จีมินเรียนหนักหรอ .. หรือว่าไม่สบาย”
ไม่รู้ว่าไม่รู้หรือตั้งใจ..
 
“ตอนนี้มันตีห้าโว๊ยยย อยากรู้ก็ดูเวลาหน่อยเหอะ เอ้อ” แทฮยองบ่นไป ตาก็ยังปิดสนิท
 
 
“ที่ผมขอให้พี่ดูแลจีมิน พี่ยังจำได้ใช่ไหมครับ” จองกุกพูดน้ำเสียงจริงจัง
 
“...”
 
“...”
 
 
“เออๆๆๆ จำได้ๆ เดี๋ยวพรุ่งนี้เช้าไปดูให้ แค่นี้นะ”
 
แทฮยองกดวางสายไปหลังจากพูดคุยอีกไม่กี่คำ
 
วางสักที พี่คนนี้จะได้นอน
 
 
 
 
กริ๊ง กริ๊ง
 
หืมมมมมม ไอ้น้องคนนี้ จะปล่อยให้พี่นอนหน่อยไม่ได้หรือไง
 
คนขี้โมโหกดรับสายโดยที่ไม่ได้ดูว่าใครโทรมา
 
“มีอะไรอีก!!!”
 
 
 
 
“พี่แท! ช่วยจีมินด้วย”
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
จีมินกลับมาบ้านของตัวเอง หลังจากนอนที่โรงพยาบาลอยู่เกือบอาทิตย์ ครั้งนั้นเขาเจ็บท้องแบบที่ไม่เคยเป็นมาก่อน จึงได้โทรเรียกแทฮยอง แต่สุดท้ายก็คลอดตามกำหนดที่คุณหมอให้ไว้
 
บ้านหลังไม่ใหญ่นักแต่ก็มีพื้นที่ทั้งในบ้านและนอกบ้านมากพอ ที่จะให้เด็กน้อยที่เป็นเลือดเนื้อเชื้อไขของตัวเองได้วิ่งเล่น ต้อนรับเพื่อนบ้านที่มาเยี่ยมสมาชิกใหม่
 
“พี่ขอมาช่วยเลี้ยงเจ้าหนูนี่ด้วยนะ จีมิน” จองโฮซอก ว่าที่คุณแม่ที่อยู่บ้านข้างๆ บอก
“ได้อยู่แล้วครับ” จีมินตอบรับคำขอของพี่ชายที่แสนดี ตั้งแต่ที่จีมินย้ายมาอยู่ที่บ้านหลังนี้ ก็มีจองโฮซอกและคิมนัมจุนนี่แหละ ที่คอยดูแล
 
“แล้วหนูนี่ชื่ออะไรหรอ จีมิน” คิมนัมจุน ว่าที่คุณพ่อถาม
 
จีมินยิ้มไปที่แทฮยอง ก่อนหันมาตอบ
 
“ยอนจุนครับ พี่แทฮยองเขาตั้งให้”
 
 
“อืม ชื่อเพราะดีนะ” นัมจุนชม
 
“ครับ พ่อเขาจะได้ไม่มาว่าทีหลัง” แทฮยองว่าขำๆ
 
ทุกคนที่ได้ยินต่างพากันหัวเราะขบขัน เรื่องนี้จีมินไม่ได้ปิดบังนัมจุนและโฮซอก ตอนแรกโฮซอกไม่เห็นด้วยที่จะปิดบังปู่ย่าของยอนจุน แต่เมื่อจีมินอธิบาย ก็พอเข้าใจ
 
 
 
 
 
“โฮซอก เรากลับกันเถอะ จีมินกับยอนจุนจะได้พัก” คิมนัมจุนเอ่ยชวนภรรยาตัวเอง
“ครับ ... จีมิน พี่กลับก่อนนะ ยอนจุน.. อากลับก่อนนะครับ” โฮซอกจิ้มแก้มเด็กน้อยที่อยู่ในอ้อมกอดแม่ของเขาอย่างเอ็นดู ก่อนขอตัวกลับไป
 
 
“พี่แทครับ” จีมินเรียกคนที่กำลังทำท่าเก้ๆ กังๆ อุ้มลูกชายเขา
“หืม” คนถูกเรียกขานทั้งกำลังมองเด็กตัวเล็กน่าตาจิ้มลิ้ม ดูๆ ไปก็หน้าเหมือนจองกุก ดูอีกทีก็หน้าเหมือนจีมิน
 
“พี่โฮซอกกับพี่นัมจุนเป็นพี่จีมิน เขาต้องเป็นลุงไม่ใช่หรอครับ”
“อืม .. ก็ใช่ แต่เขาอยากให้เรียกอา ก็ช่างเขาเถอะ” แทฮยองเงยหน้าขึ้นมาตอบ
 
“แต่ยอนจุนต้องเรียกพี่ว่าลุงนะครับ พี่เป็นพี่จองกุก” จีมินทวงความถูกต้อง
 

[END] Grow KookminWhere stories live. Discover now