15

11 0 0
                                    

ทันทีที่พวกเค้ากินอาหารกันเสร็จ จองกุกกับลลิษาก็เดินเล่นกันสักพักระหว่างทางเดินกลับไปที่หอแบล็กพิงค์ ตอนแรกลิซ่าไม่เห็นด้วยแต่จองกุกอยากทำตัวเป็นบอยเฟรนด์ในอุดมคติ ลิซ่าเลยปล่อยๆเขาทำไป
"นายยังไม่บอกฉันเลย" ลิซ่าเริ่มบทสนทนา มือล้วงกระเป๋ากางเกงยีนส์ "ว่านายไปที่ริมน้ำฮันทำไม? มีเรื่องอะไรกวนใจนายรึเปล่า?"
"จองกุกยักไหล่ คัมแบ็กนี้ฉันค่อนข้างลำบาก เส้นเสียงไม่ค่อยเป็นใจและเราต้องอัดเพลงซ้ำเพราะเหตุผลนี้"
"นายได้พักเสียงบ้างรึเปล่า"
"ป่าว" เขาสั่นหัว ลิซ่าเกือบจะรู้สึกสงสารเขา เธอเข้าใจความรู้สึกนี้เป็นอย่างดี ปัญหาที่เกิดจากเส้นเสียงเป็นเรื่องสำคัญมากเพราะไอดอลคงไม่มีค่าอะไรถ้าขาดมัน (เรื่องจริงที่น่าเศร้า) ในฐานะไอดอลเธอจะหมั่นจิบชาหลังซ้อมเสียงเสมอเพื่อดูแลเสียงของเธอเองให้คงสภาพที่ดีอยู่เสมอ ซึ่งมันก็ได้ผลจนถึงตอนนี้อ่ะนะ "เธอก็รู้ว่าการจะได้พักเสียงมันยากแค่ไหนยิ่งคัมแบ็คใกล้เข้ามาแบบนี้แทบเป็นไปไม่ได้"
"งั้นก็หยุดพูดได้แล้ว" เธอบอกเขาง่ายๆ "เริ่มพักเสียงตั้งแต่ตอนนี้เลย"
"เฮ้" เขาเรียก "เมื่อไหร่ก็ตามที่เราอยู่ด้วยกัน การพักเสียงมันไม่มีอยู่จริงหรอก"
"ก็มาคอยดูกัน พรุ่งนี้เสียงนายคงเหมือนกบร้อง"
เขามองเธอแล้วอมยิ้ม "ที่รักใจเย็นนะครับ ไม่ต้องกังวลหรอก ฉันจัดการกับปัญหานี้ได้ ฉันจะไม่เป็นไรหรอก"
เธอกลอกตา "อยากจะพูดอะไรก็ตามใจ แต่อย่ามาโทษกันทีหลังนะ ฉันเตือนนายแล้วด้วย"
"ถึงแม้ว่า" เขาพูดเสริมโดยไม่ฟังคำเตือนของเธอ "ช่างเถอะ"
"บอกมาเลยนะ"
"โอเคก็ได้ แต่ห้ามขำนะ ตกลงมั้ย?"
"แน่นอน"
"ฉันคิดว่าคัมแบ็คนี้ของเราคงไปได้ไม่สวยเท่าไหร่" เขายอมรับเสียงหม่น "ฉันว่าฉันคงทำให้ทั้งวงต้องพังเพราะเสียงที่ไม่สมบูรณ์แบบของฉัน"
ลิซ่าเงียบฟังให้เขาพูดต่อ "แฟนๆของเราคาดหวังจากเราเยอะ คาดหวังกับฉันมากๆ เพราะฉันเป็นมักเน่ทองคำหรืออะไรนั่นล่ะ และฉันก็ไม่อยากให้พวกเค้าต้องหวังผิด นี่เป็นหนึ่งในคัมแบคที่ยิ่งใหญ่ที่สุดที่เราจะมีได้ โดยเฉพาะตอนนี้ที่เราเป็นที่รู้จักในระดับโลก "เขาพรั่งพรูคำพูดออกมาเร็วจี๋เหมือนว่าคำพูดของเขาส่งตรงมาจากในหัวโดยไม่ผ่านการคิดคำนวณใดๆ "เราจะเป็นตัวแทนของประเทศชาติ แต่วงวารเนอะฉันยังทรมานกับปัญหาเส้นเสียงอยู่อย่างนี้ ฉัน คิดว่-"
"นายก็เว่อร์ไปกุก" เธอตัดบท "นายก็รู้ว่านายกำลังกดดันตัวเอง เพราะทุกคนกำลังมองมาที่นาย เฝ้าดูทุกสิ่งที่นายทำ นั่นทำให้นายคิดแบบนั้นและรู้สึกกแบบนั้น นายรู้สึกเหมือนว่าพวกเขากำลังรอให้นายทำพลาดและนำความผิดพลาดมาบดขยี้นายสินะ" เขาพยักหน้า "แต่นั่นไม่ใช่ประเด็น ประเด็นคือถ้านายมัวแต่คิดแบบนั้น คิดแต่ด้านลบนายก็จะมีแต่แย่ลง กลับกันถ้านายคิดให้เป็นบวกเรื่องต่างๆก็จะกลับกลายเป็นดี"
"นายมีปัญหาเรื่องการร้องเพลงใช่มะ? ก็ได้ เสียงของนายต้องได้พักบ้างบางคราวและนั่นก็เป็นเรื่องปกติของไอดอลอย่างเราๆ นายจะคาดหวังให้เมนร้องที่ต้องใช้เสียงเต็มที่อยู่ตลอดมีสภาพเสียงที่สมบูรณ์แบบไม่ได้หรอก อีกไม่นานความสมบูรณ์แบบนั้นก็ต้องหายไปอยู่ดี ฉันรู้แค่ว่าอีกสัปดาห์จากนี้นายก็จะร้องเพลงบัลลาดหรืออะไรสักอย่างนั่นคือทั้งหมดที่ฉันรู้ ทุกสิ่งที่นายกำลังเจออยู่ตอนนี้จะผ่านไป เชื่อฉันสิ ชีวิตให้เส้นทางแบบนี้กับเราเป็นบางคราวแต่มันก็ไม่คงอยู่ตลอดไปหรอก เพราะงั้นเลิกหงุดหงิดแล้วสงบใจก้าวต่อไปจะดีกว่า" หลังจากพูดจบเธอก็เดินต่อไปปล่อยให้เขายืนแข็งค้างนิ่งอยู่ที่เดิม
จองกุกจ้องดูเธออย่างฉงนสนเท่ห์ นอกจากแม่ของเขาแล้วไม่เคยมีผู้หญิงคนไหนพูดกับเขาแบบนี้มาก่อน "เธอควรไปเป็นนักพูดเสริมสร้างแรงใจหรืออะไรทำนองนั้นนะ"
"แค่ฟังนายฉันก็เริ่มจะปวดหัวแล้ว" เธอพูดโกหก ความจริงแล้วเธอเป็นห่วงเขาและเป็นกังวลเรื่องของตัวเธอเองด้วย โคเชลลาใกล้เข้ามาแล้วและเธอเองก็รู้สึกเหมือนตัวเองเป็นลูกระเบิดที่พร้อมระเบิดออกมาได้ทุกขณะ ความกดดัน ความเครียดของการเป็นเกิร์ลกรุ้ปวงแรกที่ขึ้นแสดงในงานเทศกาลดนตรีระดับโลกอย่างโคเชลลาเป็นเหมือนน้ำหนักที่กดทับเธอให้ค่อยๆจมลง และเธอก็ไม่อยากเป็นคนที่ขึ้นชื่อว่าทำให้คนดูถูกกระแสฮันรยู
"แย่หน่อยนะ แต่จู่ๆฉันก็รู้สึกเหมือนได้รับแรงใจ" เขาฉีกยิ้มกว้าง "ขอบคุณนะที่รัก"
"เอาที่สบายใจเหอะ ไม่ได้เหลือบ่ากว่าแรงอะไร" เธอยักไหล่ตัดบท
"เธอจะว่างอีกทีเมื่อไหร่?" เขาถามเพื่อจะนัดเธอครั้งต่อไป "ฉันอยากตอบแทนเธอเรื่องมื้อเช้าคราวก่อนแต่ไม่รู้ว่าเราจะได้ออกมาเจอกันอีกเมื่อไหร่"
"ตอบแทนตูดแน่ะ" ลิซ่ากลอกตา "อย่าใส่ใจเลย"
"เธอเดินกลับหอคนเดียวประจำเลยเหรอที่รัก? มันออกจะน่าหวาดเสียวนะที่เดินเดี่ยวดึกๆดื่นๆแบบนี้ เธอต้องหาใครสักคนเดินกลับด้วยรู้มั้ย"
ริมฝีปากของเธอกระตุก "บางครั้ง ส่วนมากเลยล่ะ ค่ายจะให้ขึ้นรถตู้แล้วไปส่งเราที่หอ ทุกอย่างดีไม่มีปัญหา ไม่ต้องห่วงหรอกน่าจังเกิลบุค"
พวกเขาผ่านปล่องบันไดหนีไฟนั่นทำให้จองกุกชลอฝีเท้า "ที่รัก" เขาเรียกเธอ "มานี่หน่อยสิ"
"อย่าบอกนะว่านายจะเก็บแต้มเร็วในนั้นอ่ะ นี่นายมีอาการแอบจิตนิดๆหรืออะไรทำนองนั้นป่ะ?" เธอชำเลืองมองช่องบันไดหนีไฟแล้วมองกลับมาที่เขา "นายจะทำอะไร?" เธอถามตอนที่เดินไปหาเขา
เธอเลิกคิ้วสูงอย่างประหลาดใจที่เห็นเขาดึงกล้องออกมาจากเสื้อฮู้ดของเขา ลิซ่าจ้องดูกล้องที่เธอไม่รู้เลยว่ามันอยู่ตรงนั้น "ขอถ่ายรูปเธอหน่อยสิ" เขาเสนอพร้อมส่งตาวิ้งค์
"ถ่ายไปทำไม"
เขายักไหล่ "เดาว่าเป็นความทรงจำล่ะมั้ง?" เธอพ่นพรืดและเขาเสริมว่า "เธอก็รู้ว่าไม่ใช่ทุกวันที่จะได้เดินมาส่งเธอ"
"เอาที่สบายใจเหอะ" เธอเดินไปนั่งลงตรงบันไดหนีไฟแล้วถอดผ้าปิดหน้าออก "ถ่ายให้สวยๆนะ ทำได้ใช่มะ"

NUDES. (ฟิคแปล)Where stories live. Discover now