ตอนที่ยี่สิบแปด การปรากฏตัวของผู้นำ และหญิงสาวจากกระทรวงเวทมนตร์
เฮอร์ไมโอนีทำงานจนลืมกินข้าว นอนไม่หลับ ยิ่งเพื่อนหายตัวไปถึงสองคนในเวลาไล่เลี่ยกัน ยิ่งไม่อยากทำอะไรทั้งนั้น นอกจากให้แน่ใจว่าเพื่อนกลับมาปลอดภัย เดรโกเองดูเหมือนจะส่งคนของเขาตามสืบแล้ว ซึ่งไม่ค่อยคืบหน้าเท่าไหร่ มีข่าวเพียงเรื่องราวของมหาเศรษฐีหนุ่มที่ดูเหมือนทรัพย์สินส่วนตัวของเจ้าของธุรกิจดังกล่าวเรียกว่าแข่งกับมัลฟอยทีเดียว ชายคนนั้นคือ วินเซนต์ มิคาอิล ด้วยหน้าตาที่หล่อเหลา และยังร่ำรวยตั้งแต่อายุน้อย ทำให้เป้นที่จับตามอง แต่น้อยคนที่จะรู้ว่าเขาเองก็มีสายเลือดผู้วิเศษเหมือนกัน เพียงแต่ไม่ค่อยมีใครเห็นวินเซนต์ปรากฏตัวในชุมชนผู้วิเศษหรือแม้แต่ในฮอกมี้ดเท่าไหร่นัก ดูเหมือนมีเรื่องกระซิบกระซาบว่าเขาเองก็เป็นสายเลือดบริสุทธิ์เก่าแก่ไม่แพ้ตระกูลมัลฟอย ทว่าไม่ยอมรับให้บันทึกในประวัติศาสตร์ด้วยเหตุผลบางประการ
"ตระกูลมิคาอิลให้การสนับสนุนช่วยเหลืออุปถัมภ์กระทรวงเวทมนตร์อย่างเงียบๆ ซึ่งไม่มีใครมาเก็บข้อมูลนี้ และทางนั้นก็ไม่ยอมให้เปิดเผยด้วย ถึงจะแปลกๆ แต่พวกเขาก็ช่วยเหลือเราอย่างมาตลอด ทั้งยัง...ทุกอย่างที่มิสเตอร์มิคาอิลทำก็สะอาด ตรวจสอบได้" พนักงานกล่าว "แต่อย่างที่คุณและทุกคนรู้สึกครับ มิสเกรนเจอร์ มิสเตอร์มิคาอิลลึกลับมาก ดูมีความดำมืดไปหมด"
เฮอร์ไมโอนี รู้สึกว่าสงสัย กองบังคับและควบคุมกฎหมายเวทมนตร์อย่างเธอที่เคยทำงานอย่างตรากตรำและมีจุดยืนอย่างภาคภูมินั้นไม่สามารถเข้าใจความรู้สึกผู้หญิงที่ปรารถนาเป็นแม่บ้านได้สามีที่ดีอย่างที่คนอื่นเป็น แต่เดรโกนั้นรู้สึกไม่ชอบหน้าชายหนุ่มผู้ที่ดวงตาสีเทา ทั้งผมสีทองแดงอย่างวินเซนต์ มิคาอิลเลย ว่ากันว่าทั้งตรอกไดแอกอน ทั้งหมู่บ้านฮอกมี้ด ไล่ไปที่ไหนๆ ในชุมชนผู้วิเศษต่างกล่าวขวัญว่าเขาคือภาพมิสเตอร์คริสเตียน เกรย์แห่งโลกความจริงและโลกพ่อมดแม่มด ในขณะที่ในโลกมักเกิ้ลมีเบรย์เดน โอลซัน เป็นหนุ่มหล่อร่ำรวยที่หญิงสาวปรารถนาจะแต่งงานเกือบทั่วโลก แต่น่าแปลก ทั้งเดรโกก็หน้าตาดูดีได้รูปทั้งร่ำรวยมีอำนาจเกี่ยวพันกับกระทรวงเวทมนตร์ แต่ไม่ยักมีหญิงสาวคนไหนแสดงออกว่าอยากจะยื่นไมตรีสานสัมพันธ์ด้วย ลูน่าก็ถาม ด้วยความซื่อ ขณะที่แวะเข้ามาเยี่ยมเพื่อนที่ทำงานในห้องออฟฟิศส่วนตัว โดยมีหนุ่มผมบลอนด์ ที่อยู่ข้างๆ ไม่ห่างไปไหน
YOU ARE READING
Fanfiction Dramione: Dark side of the Dragon
Fanfictionอารัมภบท หลังจากสงครามฮอกวอร์ทเล็กน้อย ทั้งเฮอร์ไมโอนี และเดรโก และทุกคนต่างพยายามอย่างหนักเพื่อฟื้นฟูสภาพสิ่งรอบตัวที่เกิดจากสงคราม และเรื่องราวดำมืดของเดรโกก็เริ่มทำให้เขากลัวและสับสน ในขณะที่เฮอร์ไมโอนียังมองเห็นว่า เดรโกยังเป็นคนที่ยากจะเข้าใจ...