ตอนที่4 ทำลายความเงียบ
การถ่ายภาพในรอบที่ 3 ดูเหมือนว่าจะดีกว่ารอบที่ผ่านมา มันดีเกินกว่าที่เจ้ไข่กับช่างภาพได้คาดหวังไว้ ผมรู้สึกได้ถึงแรงกดดันที่เพิ่มขึ้น เพราะพวกเราต้องทำงานแข่งกับเวลา โดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงฤดูหนาวแบบนี้ ที่ช่วงเวลาที่กลางวันจะสั้นกว่ากลางคืน ตอนนี้ก็ปาไปครึ่งค่อนวันแล้ว ผมคิดว่าพวกเรามีเวลามากกว่า 2 ชม. ก่อนที่ฟ้าจะมืด
พวกเราถูกจัดท่าให้ยื่นอยู่ข้างกันอีกครั้ง ครั้งนี้ผมวางมือลงเป็นไหล่อของเว่ยโจวแล้วพยายามดึงเขาเข้ามาใกล้ๆ แต่ดูเหมือนเว่ยโจวจะต่อต้านมัน เป็นบ้าอะไรอีก!!
"เขาวางแขนโอเคแล้วใช่ไหม?" ผมได้ยิน เสี่ยวหลงเกอ ผู้จัดการของผมถามขึ้น
"เว่ยโจว นายเป็นอะไร เว่ยโจว?" เจ้ไข่ตะโกนออกมา
ผมมองไปที่เขา หน้าของเขาตอนนี้กำลังกลายเป็นสีแดง ตัวเขาแข็งทือ เว่ยโจววางมือที่อยู่ด้านหน้าดัวเขาอย่างเก้งๆกังๆ ถ้าเว่ยโจวปล่อยให้มันเป็นไปตามธรรมชาติ มือของเขาก็ควรอยู่ที่เอวหรือที่ไหล่ผม
"ผ่อนคลายหน่อย" ผมพูดขึ้นอย่างช้าๆ "วางมือนายที่เอวหรือบนไหล่ฉัน"
เว่ยโจวทำหน้าบูด
ผมถึงกลับต้องกลั่นขำ ความมั่นใจเมื่อกี้มันหายไปไหนซะแล้วล่ะ? เว่ยโจวมั่นใจนักหนาว่าเขาเก่งกว่าผม
ยังไม่ทันไรเลย ถ่ายรูปแค่นี้ก็แข็งทื่อซะละ
"นายบอกเองไม่ใช่หรอว่าอยากชนะพนัน หรือว่า..." ผมยิ้มเยาะ
"นายอยากให้ฉันเป็นราชาในวันนี้"
เว่ยโจวทำเสียฮึดฮัดใส่แล้วยังส่งสายตาเครียดแค้นมาให้อีก แต่เขาก็ยอมอ่อนข้อให้และเอามือของเขามาจับที่เอวผม
เห็นแบบนี้ผมก็ดึงเว่ยโจวเขามาใกล้อีกจนได้กลิ่นโคโลนของเขา ผมสูดหายใจลึกๆเพื่อที่จะสงบสติอารมณ์ของตัวเองไม่ให้จมูกตัวเองก้มลงไปสูดดมกลิ่นของเว่ยโจว ตากล้องต้องไม่ชอบแน่ถ้าหน้าของผมถูกบังด้วยผมของเว่ยโจว
ESTÁS LEYENDO
Love that Bloom (Thai trans.)
Fanficแฟนฟิคเรื่องนี้ได้รับอนุญาตจากเจ้าของเรื่องให้สามารถแปลเป็นภาษาไทย This fan fiction is allowed by the author to translate in Thai already. ไม่อนุญาตให้นำออกไปใช้ในเชิงพาณิชย์ ผู้แปล ไม่ใช่นักแปลเมืออาชีพ ดังนั้น คำพูดอาจจะไม่สวยหรู แต่พยายามที่จะขุด...