เขาจำไม่ได้ว่าตัวเองกลับมาห้องตั้งแต่เมื่อไหร่ สิ่งเดียวที่จำได้คือสั่งทหารคนสนิทที่ยืนรออยู่หน้าห้อง ให้เข้าไปรับพระบัญชาแทนเขา
หลังจากนั้นเขาก็ขังตัวเองอยู่ในห้องเกือบสองสัปดาห์ ปล่อยให้ทหารคนสนิทดำเนินการตามพระประสงค์ขององค์ฮ่องเต้ รอจนถึงวันที่เขาต้องทำตามแผนของฝ่าบาทด้วยตนเอง ฝ่าบาทก็เสด็จเดินทางออกจากเมืองหลวงแล้ว
แผนการของฝ่าบาทถูกวางไว้หลายชั้น ขั้นแรกสุดคือ เขาดำรงตำแหน่งผู้สำเร็จราชการแทนพระองค์ ด้วยเหตุผลที่ว่า ฮ่องเต้ทรงประชวรหนักไม่สามารถออกว่าราชการได้ เขาได้รับการแต่งตั้งให้ดูแลกิจการภายในทั้งหมด พร้อมทั้งดูแลองค์ชายน้อยที่ยังไม่สามารถดำรงตำแหน่งองค์รัชทายาท
ขั้นสองคือข่าวที่คนในราชสำนักร่วมกันรับรู้แต่ช่วยกันปกปิดให้มิดชิด เพื่อไม่ให้สั่นคลอนถึงความมั่นคงของประเทศ เขาวางแผนลอบปลงพระชนต์องค์ฮ่องเต้ ใช้สิทธิพระปิตุลาควบคุมองค์ชายน้อย ส่วนฮองเฮาไม่รู้เป็นตายร้ายดี อาจถูกกักขังอยู่ในตำหนัก
และขั้นที่สามคือข่าวที่เฟิ่งเหรินอ๋องแอบรับรู้คือ... ฮ่องเต้ทรงสวรรคต และเขาส่งหนังสือยืนยันบอกไปว่าไม่ต้องการให้เหมยผิงกลับเข้าเมือง
ขั้นตอนทุกอย่างที่ฝ่าบาทวางแผนไม่มีตรงไหนเป็นรอยรั่วซักนิด คนทรยศมีอยู่รอบตัวเขาแค่ปล่อยข่าว ทุกคนก็พร้อมที่จะคาบข่าวไปบอกเจ้านายที่แท้จริง
เขาใช้เวลาถึงเกือบครึ่งปีจึงจะดำเนินการตามแผนและลากขุนนางกังฉินเข้ามาร่วมมือได้สำเร็จ จะเล่นบทเจ้าครองแคว้นที่ทรยศต่อแผ่นดินก็ต้องเล่นให้สมจริงถึงจะหลอกศัตรูได้ ตอนนี้เขาถูกพวกขุนนางตงฉินตราหน้าว่าเป็นคนขายชาติ สมคบคิดกับเฟิ่งเหรินอ๋องเพื่อยึดครองแผ่นดิน
ถึงตรงนี้เขาคงเป็นชินอ๋องที่เลวทรามที่สุดในประวัติศาสตร์ เขาออกว่าราชการแบบนับครั้งได้ และเอาแต่ขลุกอยู่ในตำหนักในกับนางกำนัล ทุกครั้งที่ได้ขึ้นนั่งบนบัลลังก์ จะต้องมีขุนนางโชคร้ายซักคนที่ถูกเขาเนรเทศ แต่พวกขุนนางเหล่านั้นจะมีซักกี่คนที่รู้ว่า ที่เขาทำไปก็เพื่อปกป้องตำแหน่งขุนนางคนสำคัญของประเทศ เพราะหากยังรั้งอยู่ในสมัยของเขา คงมีซักวันที่ต้องถูกพวกขุนนางกังฉินกลั่นแกล้งจนตาย