เดรโกแสยะยิ้มมุมปากในขณะที่ลูน่าถอนหายใจเฮือกใหญ่ด้วยความโล่งอก ก่อนจะพูดประโยคที่ทำให้ร่างสูงยิ้มออกมาและขยับเก้าอี้ให้เลื่อนเข้ามาเพื่อจะได้ฟังได้ถนัดขึ้น
"ก็ได้...นายมันบ้าชอบข่มขู่ชิ!!?"
เดรโกแสยะยิ้มมุมปากอย่างเจ้าเล่ห์ก่อนจะแกล้งยื่นหน้าเข้าไปใกล้ลูน่าอีกครั้งอย่างแกล้งๆจนร่างบางที่ไม่ทันตั้งตัวย่นคอหนีแทบไม่ทัน ไหนจะเสียงทุ้มแหบที่กระซิบอยู่ข้างหูนั่นอีก ขนคอลุกตั้งเลย
"จะเล่าได้ยัง หืมมมม"
"อ๊ะ เล่าแล้วเล่าแล้วเอาจมูกออกไปนะเดรโก มันจั๊กจี้"
เมื่อเดรโกยอมผละออกมาอย่างเสียดายนิดๆ ลูน่าจึงถอยหายใจออกมาอย่างโล่งอก แล้วเริ่มเรียบเรียงเรื่องราวของเธอให้ร่างสูงฟัง
"ตอนนั้นที่คุณแม่ของฉันตายด้วยอุบัติเหตุการทดลอง ฉันเป็นคนหนึ่งที่อยู่ในเหตุการณ์แต่ก็ไม่สามารถช่วยอะไรแม่ของฉันได้เลย ตอนนั้นถ้าฉันร่ายคาถาอะไรสักอย่างเพื่อช่วยแม่ของฉันแทนที่จะร้องไห้อย่างเสียสติท่านก็คงรอด หลังจากคุณแม่เสียไปฉันกับพ่อก็แทบจะไม่มีเสียงหัวเราะและไม่ยิ้มเลย แต่ฉันยังมีฮอกวอต์สถานที่ที่ทำให้ฉันรู้สึกอบอุ่นใจและมีความสุข แต่พ่อฉันกลับอยู่คนเดียวอย่างเดียวดายและเฝ้าคิดถึงแม่อยู่ทุกวัน ฉันเลยคิดอยากจะเสกคาถาสะกดใจใส่ท่านเพื่อที่พ่อของฉันอาจจะลืมความทุกข์เหล่านี้ แต่คาถานี้มันคือคำสาปและสะท้อนเข้าหาจิตใจอันอ่อนแอของฉันเอง วันนั้นฉันจมลงไปใต้ทะเลสาปเหมือนตอนที่นายไปช่วยฉัน จากนั้นคำสาปก็เริ่มทำงานชองมัน ฉันกลายเป็นคนใหม่กลายเป็นลูน่าสติเฟื่องที่ใครๆก็ต่างพากันชี้นิ้วและหัวเราะ ถึงแม้มันจะดูน่าตลกแต่ถ้ามันทำให้พ่อของฉันหัวเราะได้มันก็คุ้มค่าล่ะ"
มือหนายกขค้นมากุมมือบางทั้งสองข้างไว้อย่างแผ่วเบาราวกับสะเทือนใจไปกับเหตุการณ์นั้น ลูน่ายิ้มออกมาน้อยๆในขณะที่เดรโกนั้นสังเกตุเห็นน้ำสีใสเริ่มไหลลงอาบแก้มนุ่มลงเรื่อยๆ มันทำให้เขารู้สึกอยากปกป้องเธอ
YOU ARE READING
[ HARRY POTTER ] THE LIGHT IN THE DARKNESS
Randomทุกคนต่างมีความลับและความรู้สึกที่ถูกปิดซ่อนไว้ในภายใต้ความรู้สึกส่วนลึกของจิตใจ อยู่ที่ว่าจะเลือกเดินทางไปยังเส้นทางใหม่หนือจมอยู่กับมันก็เท่านั้นเอง ลูน่า - เส้นทางของนายมันไม่มืดหม่นขนาดนั้นหรอกนะเดรโก แสงสว่างมันยังมีอยู่ที่ทางเดินข้างหน้าให้นาย...