ไมเคิลภาวนาให้เช้าวันใหม่มาถึงช้ากว่านี้อีกสักนิดเขาจะได้ไม่ต้องตื่นมาพบรอยยิ้มเจ้าเล่ห์ของแอชตัน
แต่ก็นั่นแหละ
พระอาทิตย์ขึ้นได้ไม่นานก็มีอันต้องสะดุ้งตื่น
ไม่ใช่เพราะแสงแดดที่แยงตาหรอกนะ
เพราะแขนหนักๆกับขายาวๆที่พาดลงมาต่างหากที่ปลุกไมเคิลแต่เช้า
แอชตันบอกว่าวันนี้มีสอบย่อยตอนเก้าโมง
ไมเคิลพยักหน้ารับและบอกว่าจะออกจากห้องไปพร้อมๆกับแอชตัน
แม้แอชตันพยายามรั้งให้ไมเคิลนอนค้างอยู่ที่ห้องอีกสองสามชั่วโมง รอจนกว่าแอชตันจะสอบเสร็จและมารับออกไปทานข้าวด้วยกัน แต่ไมเคิลเขินอายเกินกว่าจะปล่อยให้ตัวเองอยู่ในห้องที่เขากับแอชตันพึ่งจะ... อ่า... ทำอย่างนั้นกันไปเมื่อคืน จึงยืนยันเสียงแข็ง ไม่ว่ายังไงก็จะกลับไปรอที่ห้องของของตนให้ได้
แอชตันเอ็นดูคนที่เขินจนแก้มแดงก่ำ อดใจไม่ไหวจนต้องมอบจูบหวานๆยามเช้าให้สักทีก่อนจะแยกกันไปทำหน้าที่ของตน
ไมเคิลใช้เวลาเดินทางกลับมายังห้องพักของตัวเองเกือบๆชั่วโมง
บานประตูห้องที่คุ้นเคยกับเสียงเพลงดังกระหึ่ม
กลิ่นเบคอนไหม้ติดกระทะ
เสื้อผ้าเปียกชื้นที่แขวนอยู่กลางห้องพัก
ไมเคิลแทบจะอยากหันหลังกลับออกไปเอาเสียตอนนี้
แต่ก็ช้าเกินกว่าเจ้าของห้องอีกคนที่เดินงัวเงียออกมาจากห้องนอน
แทบจะนับได้ว่านี่เป็นครั้งแรกในรอบเกือบเดือนที่พวกเขาเผชิญหน้ากันอย่างจริงๆจังๆ
ลูคยังเหมือนเดิมทุกอย่าง
โดยเฉพาะสายตาที่เฉยชา