เวลาข้างนอกผ่านไปนานเท่าไหร่แล้วก็ไม่รู้
นานแค่ไหนก็ไม่อาจจะบอกได้สำหรับไมเคิลแล้ว ถ้าลองได้ปิดไฟในห้อง นั่งอยู่ริมหน้าต่างมองดูฝนตกพรำๆผ่านกระจกบานใส
กาลเวลาก็เสมือนหยุดนิ่งเขาชอบนั่งคิดอะไรเงียบๆตรงนี้คนเดียว
มุมโปรดปรานที่สุดในห้อง
มองผ่านกระจกลงไปจะเห็นภาพเมืองกรุงที่แสนจะวุ่นวาย ทั้งรถรา การจราจรติดขัด ไหนจะผู้คนที่เร่งรีบ
มันเหมือนกับว่าเขาได้เข้าไปอยู่ในอีกโลกหนึ่งโดยสิ้นเชิงโลกที่มองเห็นความโกลาหลเบื้องล่างผ่านจากหน้าต่างในอพาทเม้นชั้น24
โลกที่ไม่มีเสียงใดๆกระทบเข้าโสตประสาท
โลกที่มีเพียงความคิดอันเงียบงันของผู้ชายที่ชื่อไมเคิล คลิฟฟอร์ด
และเป็นโลก... ที่ปราศจากแอชตัน เออร์วินผ่านไปนานแค่ไหนแล้วนะ?
สองสัปดาห์? หรือว่าสองเดือน??กาลเวลาดูเหมือนจะเป็นอะไรที่บอกได้ยากเมื่ออยู่ในห้องมืดๆแบบนี้
แต่ไมเคิลก็ไม่ได้สนใจว่าเวลาจะผ่านไปนานสักเท่าไหร่
เขาแค่พอใจที่จะนั่งอยู่ตรงนี้เงียบๆคนเดียวความสบายใจที่ไม่ค่อยจะมีความสุขสักเท่าไหร่
แต่คนเราก็ไม่ได้มีทางเลือกมากนัก
จะให้ความสุขมาพร้อมความสบายใจ ดูเหมือนจะเป็นอะไรที่มากเกินไปที่ไมเคิลจะได้รับเขาถึงได้เลือกความสบายใจมากกว่าความสุข
แต่มันก็แลกมาด้วยห้องที่เงียบเหงาเงียบ
เงียบจนได้ยินแม้กระทั่งเสียงหัวใจของตน
เสียงหัวใจทึ่เต้นเป็นจังหวะเดียวกับสายฝนด้านนอก
ทั้งแผ่วเบา และก็แทบจะไม่ได้ยินหน้าจอมือถือที่ปรากฎแสงสว่างวาบขึ้นมาดึงความคิดให้หลุดจากห้วงภวังค์ ไมเคิลละสายตาจากหน้าต่าง เบนดวงตาที่เรียบเฉยมายังมือถือเครื่องหรูของตน
ปลายนิ้วเรียวจัดการสไลด์หน้าจอออกเพื่อเปิดดูข้อความล่าสุดก่อนที่ริมฝีปากจะเหยียดยิ้มออกมาเมื่ออ่านข้อความดังกล่าวจบ
9.54 pm
"Im drunk"
"I miss you"
- Ashtonก้อนเนื้อในอกเสมือนว่าถูกสั่นไหว
พร้อมๆกับสายฝนด้านนอกที่เริ่มโปรยปรายหนักขึ้นเรื่อยๆ
หยาดน้ำยามที่ร่วงหล่นจากท้องฟ้าและกระทบผืนดินแทบไม่ต่างอะไรจากหัวใจของไมเคิลในตอนนี้
ทั้งวูบดิ่ง และถูกกระแทกอย่างรุนแรงคิดถึงงั้นหรอ?
นายคิดถึงฉันมากพอที่จะเมา
หรือเมามากพอที่จะคิดถึงฉันล่ะแอชตัน____________________________________