อาการเดินกะเพลกนิดๆที่ถ้าไม่จับสังเกตก็แทบไม่รู้สึกของคนที่เดินเข้าบ้านโดยไม่หันมาใส่ใจเขาสักนิดทำให้โชกุนลอบถอนใจเบาๆ ป้ามาลินีบอกว่าหลังจากอุบัติเหตุครั้งร้ายแรงที่ทำให้ขาของรัมกลับมาเดินเป็นปกติไม่ได้ทำให้เขาเปลี่ยนไปมาก...ไม่ใส่ใจตัวเองอารมณ์ฉุนเฉียวและเก็บตัวจนแทบจะไม่ยอมพบใคร หลายครั้งที่มาลินีพยายามขอร้องให้รัมเปลี่ยนแปลงตัวเองแต่ก็ทำไม่สำเร็จสักครั้ง ป้ามาลินีจึงเตือนให้เขาทำใจและยังบอกกับเขาอีกว่าถ้าอยู่ไม่ได้ก็ไม่จำเป็นต้องอดทน....แต่โชกุนบอกกับตัวเองว่าอยู่ได้สิทำไมจะอยู่ไม่ได้ในเมื่อตลอดเวลาที่ยาวนานเขารอมาตลอดที่จะได้พบคนคนนี้คนที่เป็นดังแสงตะวันที่ฉายเข้ามาในชีวิตเขา แม้จะถูกรังเกียจ ถูกลืม หรือไม่ว่าอีกฝ่ายจะทำยังไงเขาก็จะอยู่ตรงนี้อยู่ในที่ๆใจบอกเขามาตลอดว่าที่ตรงนี้คือที่ที่เขาอยากอยู่......อยู่ใกล้ๆรัม
โชกุนชะงักอยู่แค่หน้าห้องรับแขกทั้งๆที่ไม่แน่ใจว่าจะเรียกมันแบบนั้นได้หรือเปล่าเพราะมันอยู่ในสภาพที่ไม่พร้อมจะรับใครได้เลยโต๊ะเก้าอี้ดูโทรมและมีขี้ฝุ่นจับหนาอย่างขาดการดูแลถุงเท้าและรองเท้าถูกวางเกะกะไปทั่วเก้าอี้บางตัวมีเสื้อผ้าที่ใช้แล้วกองระเกะระกะขณะเจ้าของบ้านเดินหายเข้าห้องไปแล้วปิดประตูปังราวกับจะตอกย้ำให้เขารู้ว่าอีกฝ่ายไม่ยินดีต้อนรับแต่ถ้ายังหน้าด้านหน้าทนจะอยู่ให้ได้ก็เชิญ....
"ครับ...แม่...."ชายหนุ่มรับโทรศัพท์ขณะเดินช้าๆข้ามข้าวของไปหาประตูอีกบานที่มันน่าจะเป็นห้องของเขา
"ถึงแล้วเหรอจ๊ะโช...เป็นไงมั่งบ้านคุณป้าน่าอยู่ไหมจ๊ะ" เสียงสดใสของมารดาที่ถามมาทำให้เขากวาดตามองห้องนอนขนาดใหญ่ที่ถูกทิ้งร้างซึ่งตอนนี้เต็มไปด้วยขี้ฝุ่น
"ครับแม่...ก็ดีครับ...."
"พี่รัมละจ๊ะ...ต้อนรับโชดีหรือเปล่า??...แล้วเขาจำโชได้ไหมลูก...."