'Cheer up baby Cheer up baby'
นี่คือเสียงนาฬิกาปลุกของฉันที่แสนจะน่ารำคาญ เพราะมันเป็นนาฬิปลุกที่ปลุกให้ฉันตื่นไปโรงเรียนยังไงละ
ฉันเริ่มอาบน้ำ แต่งตัว ทำกิจวัตรประจำวันก่อนไปโรงเรียน ฉันเดินไปโรงเรียนตามปกติ พอถึงโรงเรียน ผอ.และอาจารย์ท่านอื่นได้เรียกประชุมโรงเรียนของฉันกับโรงเรียนชายล้วนข้างโรงเรียน เพราะ ผอ.ของโรงเรียนสองโรงเรียนนี้สนิทกัน เลยคิดว่าจะตั้งโรงเรียนไกล้ๆกัน โดยแยกเป็นชายหญิง
'สวัสดีค่ะ นักเรียนทุกคน ยินดีต้อนรับเข้าสู่ปีการศึกษาไหม่นี้นะคะ'
นี่คือเสียงอันน่าเบื่อของคนส่วนมาก เพราะเสียงนี้ จะถือเป็นเสียงที่ผอ.บรรยายเกี่ยวกับเรื่องของโรงเรียน จุดประสงค์ต่างๆ โดยใช้เวลาอันยาวนานมาก
'เฮ้อออ'
ฉันถอนหายใจอย่างเสียงดัง ไม่แปลกที่อาจารย์ท่านอื่นได้ยิน
'ใครถอนหายใจเมื่อกี้คะ'
ไม่..เปิดเทอททั้งที จะมีเรื่องซวยๆแบบนี้เกิดขึ้นแล้วหรอ
'ครูถามว่า..ใครถอนหายใจเมื่อกี้คะ'
ทุกคนหันมองมาที่ฉัน ถ้าอาจารย์ไม่สงสัยว่าฉันเป็นคนถอนหายใจเมื่อกี้ละก็..ก็แปลกแล้ว
'หนูเองค่ะ'
ฉันยอมรับอย่างน่าอาย
'ออกมานี่ค่ะ'
อาจารย์เรียกฉันให้มาตรงเวที ฉันอายเหลือเกินน ต่อหน้าคนอื่นอีกหลายๆคน มีทั้งผู้หญิงและผู้ชาย หันมามองที่ฉันกันหมด
'ทำไมเมื่อกี้ หนูถึงพูดออกมาคะ'
อาจารย์ถามฉัน ฉันก็ไม่อยากจะโกหกอาจารย์ แต่..
'หนูหายใจไม่ออกเฉยๆค่ะ เลยพูดออกมาอย่างนั้น'
คำตอบที่ฉันตอบไปเป็นคำตอบที่ฟังไม่ขึ้นเลยจริงๆ
'เอาละ ในเมื่อวันนี้เป็นวันเปิดภาคเรียน ครูจะไม่ลงโทษเธอละกัน แต่อย่าทำแบบนี้อีกนะ เข้าใจมั้ย'
'เข้าใจค่ะ..'
ฉันรีบกลับไปนั่งที่อย่างรวดเร็วด้วยความเขินอาย
'เห้ยๆ เธอ เพื่อนเราชอบอ่ะ'
น้ำเสียงของผู้ชาย เป็นน้ำเสียงที่แสดงถึงความเจ้าชู้และความหยอกล้อไปในน้ำเสียงเดียวกัน
'อื้ม..'
ฉันตอบด้วยน้ำเสียงเซ็งๆนิดๆ เพราะพวกผู้ชายที่หยอกล้อฉัน ไม่มีอะไรน่าสนใจเลยซักนิด แต่..ฉันกลับไปสนใจนายผู้ชายข้างหลังนั่นนะสิ...
ฉันก็อยากจะทักทายนะ แต่..นายนั่นนั่งห่างไกลจากฉันเกินไป จะทักก็ดูยังไงๆอยู่นะ เอาไว้คราวนหน้า ค่อยทักก็ละกัน
[1ชม ผ่านไป]
เลิกแถวขึ้นห้องเรียนแล้ว ฉันเดินเข้าห้องเรียนเหมือนคนขาเป๋ เพราะเท้าฉันมันชายังไงละ นั่งนานซะขนาดนั้น ฉันเชื่อว่า ต้องมีคนเท้าชากันบ้าง เฮ้ออ...
'ว้ายยย'
ไม่...ความซวยมาเยือนอีกแล้ว 'ตุ้บบบ' ฉันเสียหลักเดินสะดุดกีะเบื้องพื้นที่มีความไม่เท่ากัน แต่โชคดีที่มีคนรับตัวฉันได้
'เป็นไรหรือเปล่า'
น้ำเสียงที่มีความเป็นห่วงและความอ่อนโยนในน้ำเสียงเดียวกัน ทำให้ฉันใจละลายขึ้นมาในระดับหนึ่ง
'ม..ไม่เป็นไรค่ะ'
'อ๋อ..งั้นวันหลังก็ระวังตัวบ้างนะ'
'นาย...'
'เร็น'
ไม่นะ..เขาชื่อเร็น แม้จะชื่อแปลกก็เถอะ แต่ความน่ารักในตัวเขา ทำให้ฉันสติเลื่อนลอยไปนิดนึง
'แล้วเธอละ'
เขาถามชื่อฉัน จึงทำให้ฉันดึงสติกลับมาอีกครั้ง
'มิโนริ'
'อื้ม.. ฉันไปก่อนนะ'
ฉันไม่พูดอะไรเพราะกำลังเก็บอาการเขินนั้นอยู่ ฉันโบกมือลาเขาอย่างเป็นกันเอง แต่...เขาทำให้ฉันสติเลื่อนลอยไปอีกครั้ง ด้วยการส่งยิ้มอ่อนๆมา.. กรี้ดดด.. ฉันหวังว่าจะได้เจอนายอีกครั้งนะ เร็น..
YOU ARE READING
[FENCE]รักคนละรั้ว[End]
Teen Fictionฉันมิโนริ ฉันหลงรักนักเรียนข้างๆโรงเรียนของฉัน เพราะโรงเรียนของฉันเป็นโรงเรียนหญิงล้วน แต่โรงเรียนของนายคนนั้นคือ โรงเรียนชายล้วน โรงเรียนหญิงล้วนกับโรงเรียนชายล้วน ถูกกั้นกันแค่รั้ว เพราะฉนั้น เรื่องนั้นก็ไม่ใช่ปัญหาระหว่างฉัน กับนายคนนั้น