ขอกล่าวย้อนกลับไปในสมัยที่การละเล่นโขนกำลังรุ่งเรืองถึงขีดสุด ในสมัยที่ศิลปะโขนนั้นเป็นของสูงส่งยิ่งนัก กฏกำหนดให้มีเพียงลูกขุนมูลนายที่สามารถร่ำเรียนโขน และต้องเป็นชายชาตรีเท่านั้น ถึงจะสามารถทรงเครื่องโขนได้
เรื่องราวของตำนานคนโขน เริ่มต้นขึ้นในสมัยรัชกาลของพระมหากษัติร์ย์ในกรุงรัตนโกสินทร์ตอนต้น รัชกาลที่หนึ่ง ฉะนี้แล
----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
อันจะกล่าวเล่าขานตำนานโขน คนโขนโลดแล่นในแดนสยาม
ขออรัมภบทถึงโมงยาม คราวสหายทั้งสามได้พบพาน
วงปี่พาทย์โหมโรงเร่งเร้าอารมณ์เมื่อได้ฤกษ์เปิดฉากแสดง ระนาดเอกตีเป็นทำนองเพลงไทยโบราณ เหล่านางฟ้าเทวดามากมายเดินออกจากหลังม่าน จับคู่ร่ายรำกันอย่างสนุกสนาน ท่าทางอ่อนช้อยงดงามตามแบบแผนนาฏยะไทย
เพลงขับเห่กลอนเล่าที่มาที่ไป อ้างถึงสวรรค์ชั้นดาวดึงษ์ ที่พำนักของเหล่าเทวาอัปสร ท้าวถึงเชิงเขาไกรลาส ที่ประทับขององค์อิศวรผู้มีเดชมากล้น
เมื่อนั้น ยักษ์นนกทกรำกรุยกรายออกจากหลังม่านแดง วนไปมารอบพื้นเวทีท้องพระโรงในพระบรมหาราชวัง หัวโขนครอบรอบศรีษะมาจนถึงปลายคาง ปิดบังใบหน้าของผู้เล่นจนมิด
เมื่อ"โขน"นนทกนั่งลงที่พื้นไม้ขัดมัน จำลองกล่าวถึงเหตุการณ์ในโขนรามเกียรติ์ เสียงเซ็งเซ่รอบๆเบาลงเมื่อถูกแทนที่ด้วยบทเห่พากย์ของผู้พากย์โขน
มาจะกล่าวบทไป ถึงนนทกน้ำใจกล้าหาญ
YOU ARE READING
คนโขน (Zarry-Lirry Fan Fiction)[End]
Fanfictionศิลปะไทยโบราณ ถูกกล่าวขานผ่านบทเพลง เห่กล่อมขับบรรเลง ร่ำร้องเล่นเป็นทำนอง หัวโขนที่สวมใส่ ทรงเครื่องไทยใส่ภูษา กวัดแกว่งตะบองท่า จีบขึ้นหน้าตั้งวงรำ จะกล่าวอ้างถึงตำนาน ที่กล่าวขานกันนานนับ พี่น้องเอยจงสดับ รับเรื่องราวที่รอคอย มิตรรักเป...