Episode 6 หวั่นไหว

5.4K 120 10
                                    

"ฮื้อ..." เสียงแหบเบาๆครางออกจากลำคอของผม เมื่อรู้สึกเหมือนมีมืออุ่นๆของใครสักคนกำลังลูบผมของผมอยู่ ผมค่อยๆปรือตาขึ้นช้าๆ ภาพแรกที่ผมเห็นคือหน้าของพี่แมท คนที่กำลังนั่งข้างๆตัวผมแล้วมองผมเงียบๆ แต่ใบหน้าดูผ่อนคลายด้วยรอยยิ้มอ่อนๆ มือปริศนาคู่นั้นก็เป็นของเขาที่กำลังลูบเส้นผมสีดำสนิทของผมอย่างอ่อนโยน ผมนอนมองมันอยู่แปปนึง สายตาสบสายตาแล้วยิ้มกันเงียบๆ มันทำให้ผมอยู่ๆก็ใจเต้นเรนขึ้นมาเสียอย่างงั้น
"อื้อ!" เมื่อผมทำท่าจะพลิกตัวหงาย เพราะตอนนอนอยู่ท่าถูกจัดเป็นนอนคว่ำโดยฝีมือใครผมก็ไม่รู้ แต่มันเมื่อยตัวเมื่อหน้าชะมัดเลย แต่ผมก็ต้องนอนคว่ำตัวดังเดิม เพราะอาการปวดจี้ดแล่นเข้าแผ่ซ่านแผ่นหลังท่อนบน
"อย่าขยับตัวสิ หลังระบมอยู่นะ นอนคว่ำไว้น่ะดีแล้ว" พี่แมทมันจับผมให้นอนลงเฉยๆเหมือนเดิม
"นี่ผมหลับไปนานแค่ไหนแล้ว?" ผมยอมว่าง่ายนอนลงเหมือนเดิม ตะแคงหน้าหันมองใบหน้าคมของพี่แมทมันแทน
"ไม่นานหรอก สองชั่วโมงกว่าเห็นจะได้"
"เห้ย! ไม่นานบ้าไรตั้งสองชั่วโมง เดี๋ยวอีกสักพักก็เลิกเรียนแล้ว ตายๆ โดนยัยสมรฆ่าแน่ๆ"
"เจ็บหลังแบบนี้ไม่เป็นไรหรอก ครูเขาไม่มาแหกอก ที่โดดคาบเขาหรอกน่า" มันส่ายหัวเอือมๆ ผมเลยยู่ปาก ใครจะรู้ล่ะ ครูสมรดุยังกับหมา ตอนเดินผ่านแล้วไม่ไหว้เนี่ย แกซวดใส่หน้าผมยับเลย =*=
"นี่อย่าบอกนะว่าพี่แมทก็โดดเรียนเหมือนกัน" ผมเลิกคิ้วตาโต
"คาบบ่ายไม่มีเรียนหรอก"
"แล้วที่บอกจะไปเฝ้าลูกทีมซ้อมบาส?"
"เดี๋ยวไอนัทมันก็คุมเองนั่นแหละ" พี่แมทมันทำหน้าคิ้วขมวด เหมือนผมจะถามมากมายไปเพื่ออะไร มาทำเป็นรำคาญ หมั่นไส้ ถามนิดถามน่อยเอง -^-
"บัดเบี่ยงงานให้คนอื่นเขาทำนี่นิสัยไม่ดีเอาส้ะเลยนะ"
"ถ้านิสัยไม่ดีเพราะเป็นห่วงคนบาดเจ็บตรงหน้า คงต้องยอมนิสัยไม่ดี"
"..." ผมเงียบไปกับคำพูดประโยคนั้น อ้าปากเถียงไม่ออก เมื่อเริ่มรู้สึกถึงการทำงานของหัวใจที่เต้นรัวเร็วครั้งแล้วครั้งเล่าเพราะคนตัวโต นี่มันยอมทิ้งหน้าที่มาเฝ้าผมเพราะเป็นห่วงผมเลยหรอ... ความรู้สึกประทับใจและความดีใจถูกดึงดิ่งลงเมื่อความคิดหนึ่งฝุดขึ้นมา มันเป็นไปไม่ได้หรอก ในเมื่อผมไม่ใช่ผู้หญิง...และมันไม่ได้ชอบผู้ชาย...เอ้ะ! แล้วทำไมผมต้องเป็นผู้หญิงด้วยล่ะ! นี่ผมคิดอะไรของผมอยู่ จะไปตัดพ้อมันทำไมกัน =~=*
"ตั้งแต่เมื่อไหร่?" อยู่ๆมันก็เปร่ยขึ้นเบาๆกับผมที่กำลังนอนเอาหัวโขกหมอนอยู่
"ตั้งแต่เมื่อไหร่คืออะไร?" ผมเลิกคิ้วงงๆ
"ตั้งแต่เมื่อไหร่ที่เริ่มเรียกพี่ว่าพี่แมท" มันสบตาผมเงียบๆ แต่ทำไมผมกับรู้สึกว่าดวงตาคู่นี้นั่นมีอิทธิพลต่อการเต้นของชีพจรผมนักนะ แล้วทำไมมันชอบมองมาที่ตาผมตลอด ผมเขินยังไงก็ไม่รู้ -//-
"ก็...ไม่รู้สิ เป็นรุ่นพี่ ก็ต้องเคารพ ไม่ใช่หรอ (_//_)" ผมหลู่ตาลงตอบอ้ำๆอึ้งๆ ไม่ใช่แค่เพราะมันสงสัย ผมเองก็อยากรู้ว่าตั้งแต่เมื่อไหร่ที่ผมเลือกที่จะเรียกมันว่า 'พี่แมท' แต่เวลาเรียก ก็ไม่ได้รู้สึกแย่อะไร แม้จะขัดเขินอะไรก็ไม่รู้เป็นบางครั้งบางคราวเท่านั้น
"เป็นรุ่นพี่ที่ไหนล่ะ เป็นแฟนต่างหาก ทำไมต้องให้ย้ำหลายๆรอบ" อยู่ไอพี่แมทมันก็ยื่นหน้าเข้ามากระซิบข้างหูผมแผ่วๆ
"รู้แล้วน่า! เอาหน้าออกไปเลยไป๊!! >O<" โอยยย แค่มันพูดหรือมองตาก็เขินจะตายแล้ว ยิ่งเข้ามาใกล้หัวใจวายตายกันพอดี ผมเลยรีบผลักหน้าหล่อๆของมันออกไปทันที
"ถอดเสื้อสิ" มันอมยิ้มขำๆแล้วพูดขึ้น
"ถอด? ถอดทำไม?" ผมเลิกคิ้วมองหน้ามัน
"จะทายาให้ มันจะได้บรรเทาอาการปวด" พี่แมทโยนหลอดเจลทายาแก้ฟกช้ำไปมาในมือแล้วมองหน้าผมเป็นเชิงให้ถอด
"ไม่เป็นไร เดี๋ยวมันก็หาย ไม่ต้องทาหรอก" ผมส่ายหน้าไปมา
"จะถอดไม่ถอด?" ทีนี้ผมต้องกลืนน้ำลายดังอึก เพราะเสียงของมันเริ่มดุดันบวกกับสายตาน่าสยดสยองที่จ้องเขม้งด้วยแล้ว ผมเลยหันหน้าหนีไปอีกทาง อึ๋ย ทำไมดุจัง จะแก้ผ้าเขาท่าเดียวเลย -_-;;
"โอ้ยยย ยอมแล้วๆ อย่ากระชากดิมันเจ็บนะเว้ย =O=" ผมรีบโวยวายยกมือขึ้นอย่างยอมแพ้เมื่อไอพี่แมทมันเริ่มดึงเสื้อนักเรียนผมแรงๆจนแอบสะกิดแผลจี้ดๆ โหย จะป่าเถื่อนไปไหน! ผมค่อยยันตัวขึ้นช้าๆพร้อมกับมีมือมันมาช่วยประคองให้ลุกนั่ง มันกำลังจะเอื้อมมือมาปลดกระดุมออกให้ผม แต่ผมส่ายหัวหมายจะทำด้วยตัวเอง แต่มันจ้องหน้าผมอีกครั้ง ผมเลยต้องยอมให้มันปลดให้ มือผมก็ไม่ได้เป็นง่อยสักหน่อย ทำไมต้องทำให้ด้วยก็ไม่รู้ =_= แต่เป็นรุ่นพี่รุ่นน้องกันทำให้กันคงไม่เป็นไรหรอกมั้ง อืมมม -.-?
"แล้วครูห้องพยาบาลไปไหน ทำไมไม่ให้ครูมาทาให้" ผมถามคำถามที่พึ่งนึกออก บวกกับหาเรื่องแก้เขินระหว่างมันแกะรังดุมเสื้อให้
"ตั้งแต่ไหนแต่ไร ครูพยาบาลเคยอยู่เฝ้าห้องพยายาลหรือไง มีบุญเท่านั้นแหละ ถึงจะเจอ" ผมขำออกมากับคำพูดที่มันใช้เปรียบเทียบ นั่นครูไม่ใช่ผี เปรียบเปรยส้ะเสียเลย ถ้าเขามาได้ยินไม่ถลกหนังหัวไอพี่แมทตายห่าเรอะ แต่อย่างว่าล่ะนะ มันเป็นที่รักของครูๆเขา เอาหน้าตาเป็นที่ตั้งก็แบบนี้แหละ -^- แต่แล้วผมก็เลิกคิ้วคิดๆ ก็จริงอย่างที่พี่แมทมันพูด เวลาผมหกล้มหรือปวดหัวปวดท้อง มาหายากินที่ห้องพยาบาลทีไร ไม่มีใครอยู่ทุกที พอเด็กขึ้นเรียน ครูก็พากันไปหาไรกินข้างนอกทุกที อู้เวรห้องพยาบาลประจำ นานๆครั้งจะได้เจอที คอยดูนะ ผมจะเอาเรื่องไปฟ้องผู้อำนวยการโรงเรียนเข้าสักวัน =_=
ผมปรายตาก้มมองผมสีบลอนด์ธรรมชาติและตามลงมาที่ใบหน้าคมคายลูกครึ่งฝรั่งของพี่แมทมันเงียบๆ ไม่ใช่อะไรนะ แต่มองๆไปมันไม่เหมือนเด็กมัธยมปลายธรรมดาเท่าไหร่ ดูมีภูมิฐานและมีความเป็นผู้ใหญ่มากๆเลย ถึงจะอยู่ในคราบชุดนักเรียน และผมคิดว่าไม่ว่าจะอยู่ในชุดไหนๆก็ยังหล่อและดูดีไม่ต่างกัน แต่ความน่าเกรงขามก็มีให้เห็นอยู่เต็มเปี่ยม บวกกับบุคลิกท่าทางที่ตัวสูงใหญ่และกำยำเหมือนคนดูแลร่างกายและออกกำลังอย่างสม่ำเสมอ ผมปฎิเสธไม่ได้จริงๆ ว่าคนตรงหน้าดูดีไม่มีที่ติ ไม่แปลกใจเลยที่สาวน้อยสาวใหญ่อย่างเด็กนักเรียน หรือแม้กระทั่งคุณครูก็พากันคลั่งไคล้คนๆนี้ เป็นผมผมก็ห้ามใจไม่ให้เต้นแรงไม่ได้เหมือนกัน
"ผิวขาวเนียนน่าทิ้งรอยไว้จริงๆ..." ผมตื่นขึ้นจากภวังความคิดตัวเองเมื่อได้ยินเสียงอีกคนพึมพำพร้อมกับใช้สายตาคมกริบคู่สีเทานั่นจดจ้องที่เนื้อตัวท่อนบนที่ผิวเนื้อขาวเนียนเปลือยเปล่าเพราะเสื้อนักเรียนที่บัดนี้ล่นลงไปอยู่ข้างตัวผมตอนไหนก็ไม่รู้เป็นที่เรียบร้อย
"เห้ย! อย่ามองนะ >//<" ผมรีบเอามือสองข้างปิดหน้าอกตัวเองทันทีก้มหน้าเขินอาย
"ทำเป็นอาย ถามจริงมีไรให้น่ามอง ไอที่ปิดๆไว้เนี่ย - -" มันพูดแล้วทำหน้าเฉย โห่ หมดอารมณ์เลย นี่อุส่าต์สวมบทสาวน้อยโดนเปลื้องผ้า คนเลว ทำลายจินตนาการฉันได้ลงคอ =*=
ผมนั่งหันหลังให้พี่แมทเพื่อจะให้มันทาเจลให้อย่างไม่เหนียมอาย จริงๆผมก็ข่มใจไม่ให้อายอยู่ แต่จะเป็นอะไรไป ในเมื่อเราทั้งสองคนเป็นผู้ชายทั้งคู่ จะแก้ผ้าด้วยกันก็ไม่มีอะไรให้ต้องเขินอาย
"..." ผมสะดุ้งนิดๆเมื่อรู้สึกถึงของเหลวเย็นๆถูกผิวหนังที่ช้ำแดงของผม ทำให้รู้สึกทั้งเย็นทั้งจี้ด แต่ก็ผ่อนคลายขึ้นในนาทีต่อมาเมื่อคนทาเจลพยายามเบามืออย่างถึงที่สุด ผมหลับตาพริ้มอย่างสบายๆแต่ก็มีบางครั้งที่แอบเสียวแปล๊บๆที่รอยช้ำเวลาพี่แมทลากนิ้วผ่าน ผมรู้สึกตัวอีกทีเมื่อนิ้วมืออุ่นๆห่างหายจากแผ่นหลังผมไปสักแปป แล้วจู่ๆก็มีอะไรสักอย่างที่นุ่มละมุนแตะที่รอยช้ำของผมอีกครั้ง มันอุ่นและอ่อนนุ่มจนผมมั่นใจว่าไม่ใช่นิ้วของพี่แมทมันแน่ๆ
"ทำอะไร..." ผมพึมพำแล้วเอี้ยวหน้าหันไปมองข้างหลังตัวเอง ตาผมถึงกับเบิกกว้างเมื่อเห็นใบหน้าคมแนบชิดใกล้แผ่นหลังของผม เขากำลังจูบตรงรอยแผลช้ำๆของผม ลมหายใจอุ่นร้อนผ่อนรดผิวเนื้อเป็นระยะก่อนที่ร่างสูงจะผละออกแล้วสบตาผมเงียบๆ
"หายไวๆนะ" พี่แมทอมยิ้มละมุนอย่างอ่อนโยนก่อนจะปิดฝาเจลแล้วทำทีลุกออกไปอีกห้องเพื่อจะเก็บมันเข้าตู้ดังเดิม ส่วนผม.....ผมก็นั่งอยู่ที่เดิมนั่นแหละ เพียงแต่จิตลอยไปไหนต่อไหนแล้ว หึยยยยยยย ทำไมต้องมาจูบด้วย ทำไมต้องมาจูบบบ กูเขินนะว้อยยย ผมหยิบหมอนมากอดแล้วเอาหน้าซุกหมอนเงียบๆ ใจนี่ก็ขยันเต้นจังเลย เต้นแม่งเข้าไป๊ (_////_    )~~
"อยากนอนอีกน่อยไหม?" พี่แมทมันพูดข้ามห้องพร้อมกับเสียงขลุกขลักๆเหมือนกำลังค้นดูอะไรสักอย่างดังมาเป็นระยะๆ
"ไม่เอาแล้ว อยากกลับบ้าน" ผมส่ายหน้าเบาๆ จะให้นอนอะไรอีก นี่มันจะบ่ายสามแล้ว ถ้านอนอีกสักสองสามชั่วโมงจนถึงเย็น ผมไม่เอาด้วยหรอก ตอนเย็นที่นี่คงวังเวงน่าดู สภาพโรงเรียนที่มืดๆเงียบกริบ แค่คิดก็ขนลุกแล้ว =_=
"ลุกไหวไหม จะให้อุ้มหรือเปล่า?" พี่แมทเดินเข้ามาพร้อมกับถือกระเป๋าเป้นักเรียนของผมในมือ
"บ้า ไม่ต้อง เดินเองได้"
"ตัวบางยังกับขาดสารอาหาร จะไหวเร้อ - -" ผมจ้องหน้ามันทำฮึดฮัดไม่พอใจเลยจับหัวเตียงยันตัวลุกขึ้น แต่แล้วก็เกือบจะทรุดลงไปเหมือนเดิมแต่ดีที่พี่แมทจับแขนไว้ทัน
"นอนมาตั้งนานจะรีบลุกพรวดๆไม่ได้ ร่างกายยังไม่ปรับตัว" ผมพยักหน้าเบาๆอมยิ้มน้อยๆมองใบหน้าที่ดูเงียบขรึมของอีกคนที่ดูจะใส่ใจทุกลายละเอียดเกี่ยวกับผม จนมันดูน่ารักนัก คิ้วเข้มๆที่ขมวดเป็นปมก็ยิ่งดูน่าเอ็นดูเข้าไปใหญ่ ทำไมถึงต้องใส่ใจกันขนาดนี้ด้วยนะ หรือว่ามันก็ทำแบบนี้กับคนอื่นๆ?
"ขอบคุณนะ โอเคแล้วครับ" ผมพึมพำเบาๆแล้วยันตัวขึ้นอีกครั้งจากเตียงช้าๆจนสามารถตั้งหลักได้มั่นคง มือก็จะคว้ากระเป๋าจากมืออีกคนมาถือเอง แต่แล้วมันก็ยื้อมาสะพายเองแล้วส่ายหน้าเป็นเชิงบอกไม่ต้อง
"กระเป๋ามันหนัก หลังเจ็บอยู่ไม่ใช่หรอ"
"กินยาผิดมาหรือเปล่า ทำไมเดี๋ยวนี้ใจดี๊ใจดี" ผมเอะใจมองหน้ามันแต่มันกลับยักไหล่แล้วเดินนำออกจากห้องพยาบาลไป แหม่ ทีก่อนหน้าล่ะเทคแคร์ส้ะดิบดี ทีนี้ล่ะประคองยังไม่มี ความมีน้ำใจของมึงนี่ผีเข้าผีออกจริงๆ =_=*

"กระเป๋านักเรียนหายไปไหน ทำไมไม่ค่อยเห็นเอาติดตัว" เราเดินๆกันมาเกือบจะถึงลานจอดรถผมก็ถามขึ้นด้วยความสงสัย เพราะปกติมันก็หาตัวยากเหมือนกัน สาวๆพากันซุบซิบตั้งคำถามว่าทำไมถึงเจอพี่แมทมันยากมาก ช่วงพักนี่แทบไม่ค่อยเห็นหน้านอกจากจะฟลุคเจอจริงๆ แต่หากเจอมันจริงๆ เวลาผมเห็นมันไปนู่นไปนี่ในโรงเรียนแวบๆ ไม่ค่อยพกกระเป๋านักเรียนเท่าไหร่หรอก ต่างจากเด็กนักเรียนมัธยมปลายคนอื่นๆที่มักจะต้องมีกระเป๋าติดตัวไปทุกที่ เพราะช่วงนี้อยู่ในช่วงใกล้สอบเข้าไปทุกที ต้องอ่านหนังสือกันตลอด หน้าดำค่ำเครียดกันไปหมด แต่นี่ผมไม่เห็นพี่แมทมันจะอะไรนอกจากเดินตัวปลิวทำหน้าชิวแบบไม่มีอะไรต้องคิด
"อยู่บนห้องเรียน"
"เอ้า แล้วจะทิ้งไว้แบบนั้นอ่ะนะ?"
"เดี๋ยวไอนัทมันก็เก็บไว้ให้"
"แล้วตอนพักไปไหน ทำไมไม่ค่อยเจอตัว"
"อยากเจอหรือไงถึงถามแบบนี้?" ผมชะงักไป ชิบหายล้ะ เผลอพูดอย่างที่คิดออกไปจนได้ กลายเป็นว่าผมอยากเจอหน้ามันจนต้องเอ่ยปากถามไปเลย
"ไม่ใช่แบบนั้น เห็นพวกผู้หญิงในห้องเรียนเขาคุยกัน"
"ก็เลยอยากรู้ไปด้วย -_-^?"
"โอ้ย ไม่อยากรู้ก็ได้ =^=" ผมโวยวายอย่างเซ็งๆ ไม่อยากบอกก็ไม่ต้องบอกดิว้ะ ไม่อยากจะถามแล้วเหมือนกัน =_=
"ดีแล้วที่ไม่อยากรู้ ไม่ใช่เรื่องของเด็ก" มันพูดออกมาแล้วเดินนำผมออกไป
"เด็กบ้าไร อายุห่างกันแค่ปีเดียวเองนะโว้ย อย่าทำมาเป็นแก่กว่าหน่อยเลย!" ผมตะโกนตามหลังพี่แมทมันดังๆ อายุไล่ๆกันแค่ปีเดียวทำมาเป็นสงเป็นสอน หน้าหมั่นไส้ -^-
"รู้ได้ไงว่าแค่ปีเดียว..." อยู่ๆมันก็หยุดเดินจนผมเดินตามมาทัน
"ทำไม หรือว่าอายุห่างกันเป็นสิบปี เอ้ะหรือว่ายี่สิบปีน้า?" ผมแกล้งทำเป็นประชดประชัน แต่มันกลับยืนนิ่งๆ
"หึๆ" มันขำในลำคอเบาๆพร้อมเหยียดยิ้มที่ปากก่อนจะส่ายหน้าแล้วเดินต่อไป อะไรของมัน ยิ้มแบบนั้นหมายความว่าไง มันเริ่มทำผมงงแล้วนะ =_=
"โอ้ย จะรีบเดินไปไหน ควายที่บ้านหายรึไง" ผมพยายามทั้งเดินสลับวิ่งตามมันให้ทัน แต่ก็เร็วมากไม่ได้เมื่อรู้สึกปวดที่หลังเพราะมันสะเทือน สายตาของผมมองแผ่นหลังกว้างๆของพี่แมทเงียบๆพร้อมกับตั้งคำถาม รอยยิ้มนั่นมันคืออะไร ผมรู้สึกว่ามันต้องมีอะไรซ่อนอยู่แน่นอน หรือว่าผมจะคิดมากไปเอง...

My husband สามีของผม (yaoi)Où les histoires vivent. Découvrez maintenant