Heat : Part 1เด็กหนุ่มมองก้อนผ้าห่มสีเปลือกมังคุดที่อยู่บนแคร่ไม้ไผ่พร้อมกระพริบตาปริบๆอย่างไม่เข้าใจ นี่ถ้าหากไม่มีเส้นผมสีอ่อนที่เหมือนหงอนของนกกระตั้วโผล่พ้นขึ้นมากับผิวสีม่วงอ่อนนั่น เขาก็คงไม่รู้หรอกว่านั่นคือพรานทมิฬหรือบาก อดีตนักล่าอันดับหนึ่งของทัพยักษาแห่งกรุงคีรีกัณฑ์ แต่ประเด็นที่สำคัญมากกว่านั้นคือ ร่างโปร่งเอาตัวขดเข้าไปในผ้าห่มทำไมเวลากลางวันแสกๆขนาดนี้ อากาศร้อนอบอ้าวขนาดนี้
มือกร้านเกาท้ายทอยน้อยๆก่อนตัดสินใจนั่งลงบนแคร่ เสียงแกรกกรากทำให้คนที่ทำการจับจองอยู่ก่อนหน้าสะดุ้งพลางกระถดหนีราวกับว่าเขาเป็นภัยร้ายที่คืบคลาน บางทีการมีผ้าห่มปิดทั่วร่างขนาดนี้เจ้าตัวคงจะไม่รู้ว่าผู้ที่อยู่ข้างๆเป็นเขาเอง ไม่ใช่คนแปลกหน้า ซึ่งอันที่จริงก็ควรจะรู้อยู่แล้ว เพราะบนเกาะก็มีกันอยู่สองคน แถมเขายังไม่ได้คิดที่จะมากวนในพรานหนุ่มเสียหน่อย ไม่จำเป็นที่จะต้องกระถดหนีขนาดนั้นก็ได้
อาการประหลาดนี้เกิดขึ้นเมื่อสองวันก่อน จู่ๆอีกฝ่ายที่กลับมาจากการหาปลาก็แทบจะโยนอุปกรณ์หากินทุกอย่างทิ้งแล้วหนีเข้าไปในป่า ติดตรงที่เขารั้งเอาไว้และอ้อนวอนว่าให้มาอยู่ที่เรือนจะดีกว่า บนเกาะที่ร้างผู้คนมานานป่านนี้ในป่าคงเต็มไปด้วยสัตว์ร้าย ลืมไปว่าเผ่าทมิฬมีความสามารถในการควบคุมสัตว์ ถึงกระนั้นต่อให้จะมีความสามารถที่หักคอกระทิงป่าได้ด้วยมือข้างเดียวหรือเตะหัวงูยักษ์จนกระโหลกแตกเป็นลูกมะพร้าวอย่างไร เขาคงไม่ปล่อยให้ร่างสั่นเทิ้มนั่นหนีเข้าไปในป่าที่เต็มไปด้วยอันตรายเพียงลำพังอีกแล้ว
ตอนนี้บากมีเขา เขาก็มีบาก ไม่ต้องต่อสู้เพื่อเอาชีวิตรอด เป็นเพียงสองเผ่าที่อาศัยอยู่ร่วมกันได้อย่างธรรมชาติ
"พี่บากจ๊ะ..."เสียงแผ่วเอ่ยเรียก ขยับเข้าไปใกล้ก้อนผ้า มือที่เต็มไปด้วยกรงเล็บยิ่งกระชับผ้าห่มแน่น ราวกับนั่นเป็นเกราะป้องกันอย่างดี หารู้ไม่ว่าแรงกระตุกเพียงเล็กน้อยของอ๊อดก็ทำให้ผ้าสีตุ่นนั่นหลุดออกจากการห่อหุ้มนั่นแล้ว
YOU ARE READING
SF / OS of Nine Satra
Fanfictionตามชื่อเรื่อง จะเอาไหดองสั้นๆมาลงให้นะ จะมาบ่อยๆ ไม่เกี่ยวกับเรื่องหลัก 555555