บรรพ 4
ว่าด้วย...นิติศาสตร์ปืนใหญ่
วันนี้พวกผมมีเรียนภาษาอังกฤษรวมกับคณะอื่นที่ตึกของวิชาศึกษาทั่วไปช่วงเก้าโมงถึงสิบโมงครึ่ง เมื่อเรียนเสร็จจึงมีเวลาพอที่จะออกไปตระเวนหาร้านข้าวแถวๆหลังมอกินควบเช้าเที่ยงไปเลย
พอมองดูนาฬิกาบนมือถืออีกทีก็เหลือเวลาอีกตั้งชั่วโมงครึ่งกว่าจะถึงบ่ายโมง พวกเราชาวหมาโสด(แต่กิ๊กเป็นกองทัพ) เลยเลือกพากันยกแก๊งมายังร้านที่สามารถหาอะไรทานเล่นๆ รองท้องเพื่อรอเรียนคาบบ่ายแทน
"กูม้ามืดปีนี้คือนิติว่ะ พี่โด้ยังพูดเลย" เป็นไอ้แจ็คนั่นเองที่พูดขึ้นพร้อมกับเปิดประตูรถเบาะหลังลงไปก่อน ต่อด้วยพี่สิงห์และไอ้คีมผู้ทำหน้าที่คนขับ ผมซึ่งเป็นเจ้าของรถ(แต่ไม่เคยคิดจะขับเอง) รีบควานหากระเป๋าสตางค์ได้ก็รีบตามลงไปสมทบ
"หรอ กูว่าเฉยๆ" ผมยักไหล่ แล้วก็โดนพี่สิงห์มันเบิ๊ดกะโหลกไปทีหนึ่ง หัวนี่แทบคว่ำลงไปกระแทกกับทางเดินหินลูกรังหน้าร้านเลย
ไอ้พี่ห่า ชอบใช้ความรุนแรงกับน้องนุ่งตลอด สมองไหลขึ้นมาจะทำไง ผมก็ต้องใช้เรียนใช้คำนวณไหม
"เป็นแค่หมาโง่มึงไม่มีสิทธิ์มาออกความเห็นครับ" เออ กูอ่ะหมาโง่ แต่พวกมึงอ่ะหมาเ**้ย
ก็ได้กลอกตาไปหนึ่งทีหลังฟังตรรกะโง่ๆของพี่มันจบ
อย่าคิดว่ามีแค่ไอ้คีมและไอ้แจ็คที่รู้ พวกแม่งโคตรทำงานกันเป็นทีม เสือกก็เสือกเป็นทีม ล้อก็ล้อกันเป็นทีม สโลแกน 'แจ็ครู้...โลกรู้' นี่ก็ใช้ได้ตลอดทั้งปี เมื่อคืนหลังจากที่ผมออกจากแชทไอ้แจ็คไป แชทของพี่สิงห์แม่งก็เด้งขึ้นมารัวๆ แล้วทั้งคาบภาษาอังกฤษผมก็โดนพวกมันล้อมายันตอนนี้เนี่ย
"ดูก็รู้ว่ากาก"
"เชิญถอดหน้ากากอคติออกครับเพื่อนครับ กากของมึงนี่คือเอาชนะบัณฑิตวิทยาลัยรองแชมป์เก่าได้หรอครับ" ไอ้แจ็คทำหน้าเอือมใส่ ก่อนจะเปลี่ยนมายกยิ้มล้อเลียน "เออ แล้วก็ถอดหน้ากากหมาขี้เรื้อนกับหมาโง่ของมึงด้วยนะครับ"