ฉันหยุดเรียนไปได้สามวันแล้วตั้งแต่ออกมาจากบ้านของฮัตโตริ แน่นอนว่าฉันรอการตอบรับจากพายุเรื่องการดำเนินการพาฉันกลับประเทศไทย เพราะฉันได้ส่งอีเมลล์ไปอีกครั้งหลังจากที่ออกมา
ฉันได้รับเงินจากพายุมาแล้วส่วนหนึ่งซึ่งเธอโอนเข้ามาให้พร้อมกับอีเมลล์ที่ตอบกลับมาแค่เพียงว่า 'เอาไว้ใช้ระหว่างรอการดำเนินการละกัน' ฉันก็เลยได้ใช้เงินส่วนนั้นเปิดห้องพักที่โรงแรมแห่งหนึ่ง แล้วในแต่ละวันฉันก็จะออกไปเที่ยวที่ต่างๆในญี่ปุ่นไม่ว่าจะใกล้หรือไกล ด้วยข้อมูลจากหนังสือไกด์และแผนที่ เพื่อไม่ให้คิดฟุ้งซ่านอะไรมากมายไปกว่านี้ ถึงแม้ว่าฉันจะจำได้ว่า เคยมีใครรับปากไว้ว่าจะพาไปเที่ยวก็ตาม
และวันนี้ก็เช่นเดิม ฉันตื่นขึ้นมาอาบน้ำ แต่งตัว ออกจากโรงแรมเวลาเดิมเหมือนตลอดสามวันที่ผ่านมาเพราะไม่อยากอุดอู้อยู่ในห้อง แวะกินข้าวร้านข้างทาง แล้วก็ว่าจะไปขึ้นรถไฟไปดูภูเขาไฟฟูจิที่เขาล่ำลือกันนักหนาว่าสวยมากมาย
ในขณะที่อเมซกำลังจะข้ามถนนนั้นเองกลับมีรถยนต์คันหนึ่งแล่นมาด้วยความเร็วสูงก่อนจะชนเข้ากับร่างของอเมซแล้วแล่นหนีไปโดยไม่มีการจอดลงมาดูแต่อย่างใด
พลเมืองดีที่อยู่ใกล้เหตุการณ์รีบโทรแจ้งรถพยาบาลและตำรวจทันที ไม่นานรถพยาบาลก็มารับเอาร่างไร้สติของอเมซขึ้นรถไป
ทางฮัตโตริก็ไม่ได้ต่างกัน สามวันที่ผ่านมา วันๆเอาแต่นั่งเหม่อลอยอยู่ในบ้าน ไม่เป็นอันทำอะไร กินก็ไม่ค่อยกิน จากปกติเป็นคนที่เงียบอยู่แล้ว ยิ่งเงียบและเยือกเย็นลงกว่าเดิม จนเพื่อนคนสนิทที่คอยสังเกตอยู่ห่างๆต้องเข้าไปคุยให้รู้เรื่อง เพราะตลอดสามวันที่ผ่านมา ฮัตโตริพยายามหลีกเลี่ยงการพูดถึงหรือเล่าอะไรก็ตามที่เกิดขึ้นระหว่างเขากับอเมซ
พายุเดินเข้าไปหาฮัตโตริที่นั่งอยู่ม้านั่งในสวนหลังบ้านที่ล้อมรอบด้วยบรรยากาศที่ดูอึมครึมและเศร้าสร้อยหงอยเหงา
أنت تقرأ
Burn จุดไฟรักเผาใจเจ้าชายน้ำแข็ง
عاطفية"ฉันชื่อ อเมซ(Amaz)ที่เป็นได้ทั้งความมหัศจรรย์ และเป็นเขาวงกต(Maze)ทำให้นายหลงไหลจนหาทางออกไม่ได้เช่นกัน" "พร่ำอะไรของเธอ" อร๊ายยยยย ไอ้แข็งก้อนยักษ์ ไม่เคยมีใครกล้าตัดสะพานที่ฉันทอดให้ แต่นายทำให้ฉันรู้สึกทั้งอับอายและเสียหน้า มาคอยดูละกันว่านายจะท...