Title ; Promise
Paring ; #Cherik
---------ฤดูหนาวมักจะเป็นสัญญาณของงานเทศกาลเสมอ ภายนอกปกคลุมไปด้วยพื้นที่สีขาวมากมาย ธารน้ำต่างแข็งด้วยความเย็นจัง เด็กๆหลายคนพากันใส่เสื้อผ้าหนาๆและวิ่งเล่นปาหิมะใส่กันไม่รู้จีกเหนื่อย ผู้คนในเมืองขวักไขวกันราวกับมดแตกรัง ในย่านเมืองที่ห่างออกไปราวสามเมือง ในชุมชนที่แสนครึกครื้นมีร้านขายของเล่นอยู่ร้านนึงที่มีป้ายแขวนที่หน้าต่างบานประตูว่าปิด ทั้งๆที่เป็นเวลาเที่ยงวันแท้ๆแต่ร้านนี้กลับปิดเสียอย่างนั้น
"เสร็จแล้ว" จากหลังร้านที่แสงสามารถเล็ดลอดเข้าผ่านไปได้ ปรากฏให้เห็นชายวัยกลางคนกำลังปาดเหงื่อของตัวเองด้วยรอยยิ้ม เขากำลังมองสิ่งที่อยู่ตรงหน้าของเขาด้วยความภาคภูมิใจ ตุ๊กตาตัวเล็กที่ทำมาจากเรซิ่น ใบหน้าสละสลวยราวกับเด็กสาววัยเก้าขวบ ดวงตาสีฟ้า และแก้มสีแดงฉานราวกับถูกหยิกน้อย ริมฝีปากที่เผยอขึ้นนิดๆทำให้ตุ๊กตาตัวนั้นแลดูเป็นเด็กสาวที่แสนน่ารักมากยิ่งขึ้น เว้นเสียเพียงแต่เขาไม่ได้สร้างให้ตุ๊กตาตัวนั้นเป็นผู้หญิง เขาตั้งใจสร้างให้ตุ๊กตาตัวนั้นเป็นผู้ชาย
"ฉันชอบนายจัง" เขาพูดเจ้าตุ๊กตา "ต่อไปฉันจะทำเสื้อผ้าให้นายนะ แต่ตอนนี้นายคงต้องเอาผ้าพันรอบๆตัวไปก่อน" ผ้าสีหม่อนถูกห่อหุ้มตัวตุ๊กตาตัวนั้นไว้ ราวกับเด็กน้อยที่เพิ่งคลอดออกมา ชายหนุ่มยิ้มน้อยยิ้มใหญ่กับผลงานของตัวเอง เขาไม่ได้ตั้งใจที่จะปิดร้านในวันนี้ เพียงแต่เพราะเขากำลังทำตุ๊กตาตัวใหญ่อยู่ต่างหาก นาฬิกาเรือนใหญ่ที่ห้องตีบอกเวลาเที่ยงครึ่ง ชายหนุ่มลุกขึ้นจากตรงนั้นล้างมือและเตรียมตัวที่จะไปเปิดร้านถึงแม้เขาจะเปิดมันแค่ไม่กี่ชั่วโมงก็ตามเสียงกระดิงส่งสัญญาณบอกให้ชายหนุ่มไปรู้ว่ามีลูกค้าเดินเข้ามาเยี่ยมเยียนในร้านของเขา
"ยินดีต้อนรับครับ" เขาพูดและเมื่อเห็นว่าใครเขาก็ถึงกับต้องยิ้มด้วยรอยยิ้มเอ็นดูทันที เด็กหนุ่มตัวน้อยที่พันผ้าพันคอสีครีมและใส่เสื้อโค้ทตัวหนาสีน้ำตาล กางเกงขาสั้นและถุงเท้าขึ้นหัวเข่าราวกับว่าเพิ่งจะเลิกเรียนมา จมูกของเด็กน้อยแดงแจ๋เพราะอากาศหนาวข้างนอก แต่เขาก็ยังทำหน้าเคร่งขรึมทั้งๆที่มือทั้งสองข้างถูเข้าหากันด้วยความหนาวแล้ว "โอ้ วันนี้เธอก็มางั้นเหรอเอริค" ชายหนุ่มกล่าวและยกตุ๊กตาตัวใหญ่ไปวางที่เก้าอีกตรงหน้าต่าง เด็กหญิงสองคนกำลังมองตุ๊กตาของเขาผ่านกระจกหน้าต่างด้วยแววตาวิบวับราวกับอัญมณีเม็ดใสในท้องทะเลอันกว้างไกล
"วันนี้คุณเปิดร้านช้าจังครับชาร์ล" เอริคพูดด้วยน้ำเสียงที่ชาร์ลคิดว่าเขาคงกำลังโดนงอนแน่ๆเลย เมื่อคิดได้อย่างนั้นชายหนุ่มก็อดที่จะหัวเราะเบาๆไม่ได้ "เฮ้! คุณขำอะไรน่ะ! ผมมารอคุณตั้งแต่หกโมงแล้วนะ!"
"โอ้ ไม่ๆ ฉันขอโทษด้วยเอริค เพราะเธอน่ารักมากเวลาทำท่างอนฉัน" ชาร์ลหัวเราะด้วยความเอ็นดู เอริคได้ยินที่อีกคนพูดก็เถียงไม่ได้ว่าเขารู้สึกงอนจริงๆ แก้มผิวสีน้ำผึ้งแดงขึ้นสียิ่งกว่าเดิมเมื่อรู้ว่าตัวเองกำลังถูกหัวเราะเยาะอยู่
"ก็ผมอยากเจอคุณนี่นา ถึงมารอน่ะ" เอริพูดเบาๆ แต่ชาร์ลก็ได้ยิน "อย่างไรก็ตาม วันนี้ผมมาซื้อชุดให้ตุ๊กตาตัวเมื่อวานที่ผมเพิ่งซื้อไป" เด็กน้อยพูดพลางล้วงเงินในกระเป๋าเสื้อโค้ทของตัวเองออกมา
นี่เป็นเหมือนเรื่องปกติสำหรับเด็กอายุเก้าขวบอย่างเอริคไปปล้วหรือยังไงนะที่เอาเงินค่าจนมทีาพ่อกับแม่ให้มาซื้อของร้านเขาทุกวันๆแบบนี้ ชาร์ลถอนหายใจเล็กน้อย
"วันนี้ฉันไม่ให้เธอซื้อหรอกนะเอริค" เด็กน้อยขมวดคิ้วเข้าหากันหันมองเจ้าของร้าน
"แต่ผมมีเงินนะชาร์ล" เขาหยิบเงินออกมาจากกกระเป๋า มันเป็นแบงค์ที่ดูเหมือนว่าเขาต้องทำงานหลายวันมากกว่าจะได้มา แต่ชาร์ลก็ยังส่ายหน้าไปมาเบาๆ
"ไม่ได้นะเอริค เธอจะเอาเงินเหล่านั้นมาซื้อของพวกนี้ทุกวันไม่ได้นะ" ชาร์ลพูดด้วยน่ำเสียงดุๆ เด็กน้อยถึงกับหง่อยขึ้นมาทันที
"แปลว่าคุณรำคาญผมเหรอ?" เอริคก้มหน้าทำท่าเหมือนจะร้องไห้ แต่เขาพยายามที่จะเก็กขรึมไว้ ดูๆไปมันก็น่ารักดีนะ
"เธอไม่จำเป็นต้องมาซื้อของร้านฉันทุกวันก็ได้" ชาร์ลมองเด็กน้อยที่ตัวสั่นพยายามกลั่นไม่ให้ร้องไห้ "ถ้าเธออยากมาเล่นกับฉัน เธอค่อยมาหาฉันหลังเลิกเรียนก็ได้นี่" เด็กน้อยค่อยๆเงยหน้ามองอีกฝ่าย น้ำตาที่คลออยู่เบ้าตาของเขา ดูเหมือนเอริคจะพยายามอย่างหนักมากเพื่อไม่ให้น้ำตามันไหล เป็นเด็กที่น่ารักจริงๆ ชาร์ลคิด
"แต่ถ้าผมมาแล้วไม่ซื้อ คุณจะรำคาญน่ะสิ ผมเกรงใจ" เอริคกล่าว มองตาเจ้าของร้านตรงหน้า
"งั้น...เอาเป็นเธอมาเล่าเรื่องที่โรงเรียนในฉันฟังดีไหม?" ชาร์ลยิ้ม "ฉันไม่มีลูกเลยไม่มีโอกาสจะได้ฟังเรื่องแบบนี้เลย ตกลงนะ?" เอริคเผยยิ้มซื่อๆตามวัยของเขา เขาดีใจเหลือเกินที่คนตรงหน้าพูดข้อเสนอในแบบที่เขาสามารถทำให้ได้
"อือ"