ไม่กี่นาทีต่อมาที่หญิงสาวตาบอดจะเคาะไม้เท้า ถึงเธอจะปั่นเครื่องเร็วอย่างไร แต่ความจริงข้อหนึ่งที่ยังคงเป็นความจริงก็คือ ตาของเธอมันมืดบอด
โจเซฟรู้ตำแหน่งของเธอทันที หากแต่เขาไม่ได้แล่นตัวมุ่งหน้าไปทางเธอแต่อย่างใด กลับวกมาที่ซอกซากสิ่งก่อสร้างที่มีรอยเท้าใครบางคนทิ้งไว้ มีใครสอนไหมว่าเวลาอัพบุคลิกน่าจะลบรอยเท้าซะก่อนไปอัพอย่างอื่น หึ ๆๆๆภายในล็อกเกอร์ที่ใกล้ที่สุด เขาซุ่มดูคิลเลิอร์ในชุดขุนนางโทนฟ้าเหลือง ภาวนาให้เฮลเลน่าถอดรหัสอีกสองเครื่องให้เร็วที่สุด
(เหลืออีก 2 เครื่อง)
ทำบ้าอะไรอยู่กัน อีกแค่สองเครื่องเท่านั้นเอง
เขาทนรอต่อไปไม่ได้อีก เปิดประตูออกมาพบกับคนใบหน้าเปื้อนรอยยิ้มนั่งไขว่ห้างมองอยู่ไม่ไกล"มายกู๊ดเนส ออกมาซักทีนะขอรับ หึๆๆ" เจ้าของน้ำเสียงซุกซนยังไม่เคลื่อนที่ แม้ว่าคาร์ลจะเตรียมออกวิ่ง
"หื้ม การวิ่งหนีคู่สนทนานี่มันปลุกสัญชาตญาณดิบของกระผมนะขอรับ หยุดคุยกับผมสักครู่ เปิดโอกาสให้เธอถอดสักเครื่องจะไม่ดีกว่าหรือ?"
"ต้องการอะไร" คาร์ลถามด้วยน้ำเสียงเรียบเฉย หากแต่มันไม่ได้ระคายหูของโจเซฟเลยสักนิด
"แค่คุณน่าสนใจดี ขอถ่ายรูปเก็บไว้จะได้รึเปล่าล่ะขอรับ" ไม่วายหยิบกล้องออกมา
คนฟังขมวดคิ้ว แกมันก็แค่ไอ้โรคจิตสินะ
(คาร์ล ฟาดผู้ล่าด้วยแผงไม้)
ฝั่งตรงข้าม เธอกำลังวิ่งตามหาเครื่องถอดรหัสอย่างลุกลี้ลุกลน ขอแค่สักเครื่ิองเถอะน่า เกมนี้พวกเราอาจจะชนะก็ได้ โถ่ ช่างแต่งศพกำลังถ่วงเวลาอยู่เห็นจะได้ ต้องใช้เวลานี้หาเครื่องแล้วรีบถอดซะ!
(คาร์ล ได้อันเชิญโลง)
เขาตัดสินใจอัญเชิญโลงศพคริสใบสีดำทะมึนออกมา ตอนนี้คงไม่ปลอดภัยเสียแล้ว อัญเชิญไว้จะดีกว่า แต่ว่าโชคชะตาไม่เคยจริงใจกับใครคนใดคนหนึ่งเสมอ ถึงโชคชะตาจะมอบอำนาจชีวิตที่มีอย่างขีดจำกัดแก่เขา แต่ข้อจำกัดนั้นยังรวมถึงการที่บางที่ก็ไม่สามารถอัญเชิญโลงได้ และไอ้บางที่ที่ว่าก็คือที่ที่มิดชิด พอที่ผู้ล่าจะไม่สังเกต แต่ก็นับว่าโชคยังดีที่ใกล้ที่สุดที่จะวางโลงได้ตอนนี้ ก็ไม่ได้โจ่งแจ้งจนเกินไป
أنت تقرأ
Identity V (โจเซฟ×คาร์ล)
أدب الهواةฝ่ายหนึ่ง...ชีวิตที่เสียไปของใครบางคนกลับทำให้จิตวิญญานของตนเสียไป อีกฝ่าย...การที่ได้เห็นได้รู้จักหลายชีวิตที่เสียไป กลับทำให้ใจปล่อยวางและเยือกเย็น...