เทรซ่าและเบรนดอนวิ่งไปเรื่อยๆ เพื่อตรงออกจากป่า
แต่ละก้าวของเทรซ่ามีแต่ความหนักหน่วงอยู่ในหัวใจเธอ เสียงฝูงซอมบี้ด้านหลังนั้นดังมาก จนแทบกรบเสียงฝีเท้าของพวกเขาไปหมด แต่เทรซ่าไม่ได้ยินอะไรเลย หูของเธออื้อ และสมองของเธอก็ตีบตัน ก็คงไม่แปลกหรอก ในเมื่อเธอเพิ่งเห็นเพื่อนสนิทที่สุดของเธอตายไปต่อหน้าต่อตา
และแล้วทั้งสองก็มองเห็นทางออกจากป่า ด้านหน้าของพวกเขาเป็นที่โล่งกว้างซึ่งไม่มีต้นไม้อยู่ เบรนดอนกับเทรซ่าเร่งฝีเท้าขึ้นเพื่อไปให้ถึงโดยเร็วก่อนที่พวกเขาทั้งสองจะต้องลงเอยแบบเจนเน็ทท์
อีกเพียงไม่กี่ก้าว พวกเขาจะสามารถออกจากป่านั่นได้
และเทรซ่าก็มาถึง รอบข้างของเธอไร้ต้นไม้ และเบื้องหน้าก็ไม่มีพื้นดินเช่นกัน...พวกเขาเจอทางตัน ตรงหน้าของเขาคือหน้าผา ที่ตกลงไปแล้วไม่มีหวังว่าจะได้รอดกลับขึ้นมา
เบรนดอนสบถออกมาด้วยความโมโห เขาก้มลงไปมองเหวเบื้องล่างที่ไม่เคยมีอยู่ในบริเวณโรงเรียน และคงหาไม่ได้ในตัวเมืองนิวยอร์ก
เทรซ่าหันกลับไปมองดูพวกซอมบี้ที่วิ่งตามพวกเธอมาอย่างลำบากหลังจากที่พอใจกับซากของเจนเน็ทท์แล้ว และเบียดกันเพื่อพยายามอยู่ด้านหน้า มองดูเหมือนพวกเด็กประถมที่พยายามวิ่งแซงกันเพื่อมารับจานอาหารเที่ยง แต่เทรซ่าอยู่กับความคิดนั้นไม่นาน เธอจะไม่ยอมตายอย่างไร้เกียรติ โดยเฉพาะการโดนฝูงซอมบี้ไร้สมองรุมทึ้ง เทรซ่าหันมองรอบๆแล้วเธอก็มองเห็นสะพานที่อยู่ถัดไปทางขวาไม่ไกลนัก แต่จะเรียกว่าสะพานก็คงจะฟังหรูหราเกินไป มันดูเหมือนแท่นไม้หลายแท่นที่ถูกนำมาเชี่อมกันด้วยเส้นด้านเล็ก และใกล้ขาดเต็มที
แต่ดูเหมือนว่าเธอจะไม่มีทางเลือกมากนัก เทรซ่าสะกิดเบรนดอนที่มัวแต่ก้มมองหุบเหว แล้วชั่งใจว่าถ้ากระโดดลงไป จะยังรอดตายพอที่จะนอนอยู่บนเตียงทั้งชีวิตโดยมีคนป้อนข้าวต้มทุกวันอยู่หรือเปล่า
YOU ARE READING
Tresa Kingsley
Science Fictionเมื่อ เทรซ่า คิงสลีย์ ต้องเปลี่ยนแปลงชีวิตอันเรียบง่าย แต่ทุกข์ทนของเธอ มาเผชิญหน้ากับภัยและปรากฏการณ์อันตรายที่น่ากลัวยิ่งกว่าวันโลกแตก เทรซ่าและเพื่อนๆของเธอต้องปกป้องผู้คนมากมาย รวมถึง...โลกทั้งใบ