เทรซ่าคิดว่า เธอเดินมามากพอ ที่จะไม่ต้องเดินอีกต่อไปเลยทั้งชีวิต
เท้าของเธอระบมไปหมด เนื่องจากเดินติดต่อกันมาชั่วโมงกว่า อาเธอร์แทบไม่ยอมให้เราพักเลย และคำว่าพักของเขาก็คงหมายถึง การยอมให้เรานั่งได้แค่นาทีเดียว
แต่ปัญหาที่รุนแรงกว่าอาการเมื่อยและปวดเท้าของเธอก็คือ เสียงรบกวนของเบรนดอน
เขาร้องโอดครวญได้เกือบสิบนาทีเต็มแล้ว เธออยากเดินไปตบปากเขาให้รู้แล้วรู้รอด ไม่รู้ว่าเขาทำอย่างนั้นเพราะเหนื่อยจริงๆหรือว่าอยากจะกวนประสาทคนอื่นๆกันแน่ เสียงของเขาเหมือนเด็กชายที่กำลังโดนลากออกจากร้านขายของเล่น และท่าทางของเขาก็เช่นกัน เขาทำเหมือนว่าแขนและขาไม่มีกล้ามเนื้อและห้อยต่องแต่งไว้ข้างตัว
"เบรน!" ฮาร์เปอร์ว่าเขาเป็นรอบที่ร้อยได้แล้ว "ฉันขอสาบานต่อหน้า... อะไรก็ช่าง ถ้านายยังไม่ยอมหยุดร้องนะ ฉันจะฆ่านายให้ตายคามือแน่"
เบรนดอนหันไปมองหน้าฮาร์เปอร์ ขณะที่เงียบไป "นายไม่กล้าหรอก" เขาพูดแล้วกลับไปทำเสียงน่ารำคาญนั่นต่อ และเหมือนจะจงใจให้มันดังขึ้น
ฮาร์เปอร์จึงต่อยเขาอย่างแรงที่ไหล่ซ้าย "โอ๊ย! เจ็บชะมัด" เบรนดอนร้อง เขาทำสีหน้าเบื่อหน่ายเต็มทีและทำตัวเหมือนเพิ่งเดินทางผ่านทะเลทรายเป็นเวลาหลายเดือน "พวกนายไม่เหนื่อยกันบ้างรึไง" เขาตะโกนถามคนอื่นๆ
เอลเลียตจึงตะโกนตอบคำถามที่ดูเหมือนจะไม่ต้องการคำตอบนั้น "แหงล่ะ แต่บังเอิญว่าไม่มีใครอ่อนแอเท่านายน่ะนะ"
เบรนดอนกลอกตาและถอนหายใจออกมาแรงอย่างเกินเหตุ "อาเธอร์" เขาพูด เจ้าของชื่อไม่หันมามองหน้าเขาด้วยซ้ำ "เมื่อไหร่เราจะได้พักอีกล่ะ" เขาทำเสียงงอแงเหมือนเด็ก
"เธอถามฉันเป็นรอบที่สี่แล้ว" เขาว่า
"แต่คุณก็ไม่ตอบ"
YOU ARE READING
Tresa Kingsley
Science Fictionเมื่อ เทรซ่า คิงสลีย์ ต้องเปลี่ยนแปลงชีวิตอันเรียบง่าย แต่ทุกข์ทนของเธอ มาเผชิญหน้ากับภัยและปรากฏการณ์อันตรายที่น่ากลัวยิ่งกว่าวันโลกแตก เทรซ่าและเพื่อนๆของเธอต้องปกป้องผู้คนมากมาย รวมถึง...โลกทั้งใบ