อีสเซียร่า

พิธีศักดิ์สิทธิ์

ยามรุ่งเช้าของอีกวันมาถึงพิธีสำคัญในวันคล้ายวันสถาปนาจจะเริ่มต้นขึ้นในอีกไม่ช้า

ประตูโรงเรียนแห่งอนาสตาเซียเปิดต้อนรับประชาชน ผู้คนเดินต่อแถวเข้ามาแน่นขนัด ทั้งลูกเด็กเล็กแดง พ่อแม่ ผู้เฒ่าผู้แก่หรือวัยหนุ่มสาวต่างให้ความสนใจในงานพิธีสำคัญนี้ คบเพลิงในสนามประลองที่ใช้เป็นสถานที่จัดพิธีถูกจุดขึ้นทั้งสี่มุมสี่ด้าน ธงโรงเรียนโบกไสวอยู่เหนือสุดท่ามกลางธงสามสีซึ่งเป็นสัญลักษณ์แทนตัวตนของสามเผ่าพันธุ์ ที่นั่งบนอัศจรรย์ถูกจับจอง เพียงนั่งลงคนขายอาหารและเครื่องดื่มก็เข้ามาในทันที เกิดธุรกิจขนาดย่อม การค้าขายครึกครื้นเงินสะพัด พ่อค้าหาบเร่ต่างใช้โอกาสนี้กอบโกยเงินเข้ากระเป๋าเป็นกอบเป็นกำ

ส่วนด้านล่างพื้นสนามถูกจัดเตรียมไว้สำหรับนักเรียนของโรงเรียนแห่งอนาสตาเซีย โดยเฉพาะเด็กปีหนึ่งที่เพิ่งเข้ารับพิธีดื่มน้ำศักดิ์สิทธิ์เป็นครั้งแรก พวกเขาได้อยู่แถวหน้าสุดใกล้กับปรัมพิธี

นักเรียนหลายร้อยคนนั่งเรียงตามหอเหมือนครั้งเข้าปฐมนิเทศน์ เหล่าคณาจารย์ของโรงเรียนรวมทั้งบุคคลสำคัญนั่งอยู่ฝั่งตรงข้ามซึ่งมองจากตรงนี้จะเห็นไฮคิงนั่งเด่นเป็นสง่าอยู่ตรงกลางถัดมาขวามือเป็นมหาปราชญ์ลูเซีย และผู้นำแห่งอาณาจักรแทสมาเนีย ส่วนด้านซ้ายไฮคิงเป็นราชินีของอีสเซียร่าที่หน้าตาเหมือนเจ้าหญิงไอริสไม่มีผิดเพี้ยน

"คิลมานี่" เมอร์ซี่กวักมือเรียกคิลให้มานั่งข้างกัน ตรงนี้มีที่ว่างสำหรับสองคน

คิลนั่งลงข้างเมอร์ซี่อีกไม่กี่นาทีพิธีก็จะเริ่ม นักเรียนต่างจับกลุ่มสนทนาเพื่อเป็นการฆ่าเวลา หัวข้อก็คงหนีไม่พ้นเรื่องน้ำศักดิ์สิทธิ์ที่ใช้ในพิธีวันนี้ ขณะที่คนกลุ่มอื่นคุยกันอยู่นั้นเมอร์ซี่ก็มีเรื่องจะคุยกับคิลเช่นกัน

"คิล ถามจริงเถอะเจ้าได้มันมาได้ยังไง"

เมอร์ซี่หมายถึงน้ำศักดิ์ที่คิลให้เขาในวันนั้น แน่นอนว่าน้ำในแก้วที่ซีฟดื่มเป็นฝีมือของเมอร์ซี่ คิลขอความช่วยเหลือจากเขาโดยใช้จังหวะที่ทุกคนเผลอหยดน้ำนี้ผสมกับน้ำให้ซีฟดื่ม และอย่างที่เห็นมันใช้ได้ผล เมอร์ซี่รู้ว่ามันไม่ใช่น้ำยาพูดความจริงอย่างที่คิลบอกเจมิน แต่มันคือน้ำแห่งสัจจะวาจาจากบ่อน้ำศักดิ์สิทธิ์