9/8/2016
สวัสดีทุกคน ขอบคุณที่เข้ามาอ่าน วันนี้จะมาเล่าให้ฟังว่าทำไมถึงพยายามลดการใช้ทวิตเตอร์ลง หวังว่านี่จะเป็นแรงบันดาลใจเกี่ยวกับการใช้เวลาในโลกโซเชียลได้นะ แต่ไม่จำเป็นต้องเชื่อตามฉันทุกอย่างหรอก เพราะฉันอาจเป็นคนที่มีพฤติกรรม และพื้นฐานจิตใจไม่เหมือนคนอื่น วิธีแก้ปัญหาอาจจะต่างกันออกไป แค่อ่านไว้ให้เห็นแง่มุมหนึ่งของใครอีกคนก็พอ
เหตุผลแรก-----พอเสพติด มันจะรบกวนกิจกรรมในชีวิตประจำวันของฉันมาก ฉันหยุดเช็คอะไรใหม่ ๆ ในโทรศัพท์ไม่ได้ แม้แต่ในห้องน้ำ จิตใจที่เคยสงบกลับกลายเป็นว้าวุ่น ต้องการจะรู้เหตุการณ์ต่าง ๆ ในไทม์ไลน์เหมือนถ้าไม่ได้ทำแล้วจะลงแดงตายเอาให้ได้ ฉันเริ่มขี้เกียจทำสิ่งที่เคยอยากทำ อย่างอ่านนิยาย เขียนเรื่องสั้น ออกกำลังกาย หรือทำงานบ้าน และที่กรณีแย่ที่สุดคือ มือหนึ่งแปรงฟัน อีกมือหนึ่งก็รูดหน้าจอไปด้วย
เหตุที่สอง-----เสียสายตา
อย่างที่บอกไปตั้งแต่แรก ว่าเมื่อเพ่งโทรศัพท์เป็นเวลานาน ๆ ก็จะปวดตา บางทีรู้สึกเหมือนตามัวด้วย แต่มันเหมือนควบคุมตัวเองไม่ได้ เลยเถิดไปหมด
เหตุผลสุดท้าย-----เมื่อเล่นหนักเข้า สิ่งที่สังเกตเห็นได้ชัดเลยคือ สุขภาพจิตแย่ลง
ฉันมีความอยากอันแรงกล้าที่จะส่งต่อความรู้สึกของตัวเองให้กับโลกใบนี้
ฉันเคยทวีตทุกอารมณ์ออกมาอย่างฉับพลัน จากนั้นก็ต้องมาลบมันทิ้งด้วยความรู้สึกผิด
ฉันโหยหาความรัก ความใส่ใจจากคนในสังคมนั้นมากเกินไปโดยไม่รู้ตัว พอไม่มีใครตอบสนองก็หดหู่
ด้วยสภาพจิตใจที่ไม่สู้ดีนัก ฉันสูญเสียความภาคภูมิในในตัวเองไปเกือบหมด เพราะเห็นแต่แง่มุมสวยหรูของชีวิตคนอื่นเกือบจะตลอดเวลา พวกเขามีเพื่อนพ้องมากมายคอยอวยพรวันเกิด ปลอบโยนตอนรู้สึกเครียด และให้กำลังใจ ผิดกับเราที่แทบไม่มีอะไรแบบนั้นเลย (ยังขำตัวเองในอดีตไม่หายที่คิดแบบนั้น มีเพื่อนน้อยก็คงเหงา แต่ไม่ตายหรอก)
สำหรับฉัน ทวิตเตอร์จึงเปรียบเหมือนถังขยะทางอารมณ์ของผู้คนนับไม่ถ้วน ในบางเช้า แค่เข้าสู่ระบบทวิตเตอร์ คนอ่อนไหวอย่างฉันก็โดนกระแสอะไรไม่รู้พัดพาไปจากที่ที่ควรจะเป็น พอเห็นทวีตที่สบถสาบานก็รู้สึกว่าจิตตกขึ้นมากะทันหัน พอเห็นทวีตตลกฉันก็นั่งหัวเราะให้กับหน้าจอโทรศัพท์เหมือนตนเสียสติ จนบางครั้งก็รู้สึกว่าตัวเองปล่อยให้สิ่งอื่นมามีอิทธิพลเหนือจิตใจมากเกินไป
ทวิตเตอร์เองก็มีข้อดีมากมาย ในฐานะช่องทางการสื่อสาร ทั้งหมดจึงเป็นหน้าที่ของฉันที่ต้องคิดให้มากว่ากำลังสูญเสียความสามารถในการควบคุมตัวเองไปหรือเปล่า ตอนแรกฉันกะจะตัดขาดจากโซเชียลเน็ตเวิร์คนี้อย่างถาวรแล้ว แต่ก็เปลี่ยนมาใช้ให้น้อยลงแทน เพราะคนที่สร้างขึ้นมาครั้งแรกคงไม่ได้มีเจตนาจะมอมเมาใคร และปัญหาทั้งหมดทั้งมวลไม่ได้มาจากทวิตเตอร์ แต่มาจากวิธีการที่เราใช้มันต่างหาก
ตั้งแต่วันที่ 5 สิงหาคม ฉันลบแอพ และหยุดเช็คมันถี่ ๆ มาได้ประมาณสี่วันแล้ว จะพยายามทำต่อไปเรื่อย ๆ และควบคุมตัวเองไม่ให้กลับไปสู่วงจรแบบเดิมอีก คิดว่าคงไม่ต้องเข้าไปบ่อยนัก ฉันเองก็ไม่ใช่คนสำคัญอะไร คงไม่มีใครอยากติดต่อด้วยเท่าไหร่หรอก (หัวเราะ)
ขอบคุณอีกครั้งที่ทนอ่านจนจบ ♥
![](https://img.wattpad.com/cover/69128413-288-k959724.jpg)
YOU ARE READING
Memoir & Monologue
Randomบันทึกคำพร่ำเพ้อ แนะนำหนังสือ รวมกลอน และรวบรวมเศษเสี้ยวแห่งความคิด ณ ช่วงเวลาหนึ่ง ทั้งที่ชั่ววูบและยังคงค้างคาอยู่ในใจ ซึ่งหลายครั้งก็ไม่ค่อยตกตะกอน บางอย่างกลับมาอ่านก็รู้สึกว่าคิดไม่เหมือนเดิมแล้ว แต่ก็ถือเป็นบันทึกความทรงจำ Highest ranking #1...