เสียงพลุปะทุลั่น ฟากฟ้านั้นยังพร่างพราย
ยี่เป็งเปล่งประกาย ดูคลับคล้ายดวงดาราลอยกระทงเดือนสิบสอง หน้าน้ำนองก็หวนมา
ตัวฉันเดินไคลคลา ฝูงประชาเข้าโอบคลุมเห็นกระทงนั้นแล้ว ช่างเพริศแพร้วแก้วโกสุม
ธูปเทียนเป็นช่อชุม ความงามกุมเกาะดวงมาลย์พับกลีบอย่างประณีต คมราวมีดกรีดวิญญาณ
กลีบเขียวเรียงละลาน แต้มสีหวานด้วยมาลัยภายในใฝ่ประสงค์ เท้าหยุดลงด้วยหลงใหล
เลือกเฟ้นด้วยเป็นใจ ซื้อแล้วไปยังริมคลองตรงนั้นฉันพร่ำเพ้อ เพราะละเมอจึงเหม่อมอง
หลายคู่ชู้ประคอง ตามครรลองของคนเราส่วนฉันลอยคนเดียว ช่างโดดเดี่ยวและเปลี่ยวเหงา
นึกถึงผู้เป็นเงา นึกถึงเขาผู้จากจรไม่อาจจะเบี่ยงเบือน ให้ลืมเลือนความอาวรณ์
ทุกครั้งยามหลับนอน ดังไฟฟอนรอนราญลนน้ำตาในหัวใจ ยังรินไหลดังสายชล
ก้มหน้าหลบตาคน และฝืนทนข่มฤทัยกระทงลงผิวน้ำ เริ่มลอยตามของใครใคร
เล็กลงด้วยลาไกล แล้วเลือนไปจากสายตาดวงแสงแห่งราตรี บนวารีเกินคณา
เหมือนส่งดวงวิญญาณ์ สู่โลกหล้าอันเรืองรองชีวินไม่สิ้นไร้ ก็ทำได้เพียงเมียงมอง
แต่ฉันยังหมายปอง "สักวันต้องพบเจอเธอ"
YOU ARE READING
Memoir & Monologue
Randomบันทึกคำพร่ำเพ้อ แนะนำหนังสือ รวมกลอน และรวบรวมเศษเสี้ยวแห่งความคิด ณ ช่วงเวลาหนึ่ง ทั้งที่ชั่ววูบและยังคงค้างคาอยู่ในใจ ซึ่งหลายครั้งก็ไม่ค่อยตกตะกอน บางอย่างกลับมาอ่านก็รู้สึกว่าคิดไม่เหมือนเดิมแล้ว แต่ก็ถือเป็นบันทึกความทรงจำ Highest ranking #1...