ความคิดเห็นต่อหนังสือ "ฉันสบายดี" โดย ริวโฮ โอคาวา

353 5 0
                                    

ฉันชื่นชมแนวคิดหลายอย่างในหนังสือเล่มนี้ ทั้งแนะนำ ให้ความหวัง และสร้างกำลังใจ แต่ก็ยังมีหลายอย่างที่ไม่ค่อยเห็นด้วยเท่าไหร่ เช่น

ผู้เขียนกล่าวในคำนำว่า "มีเนื้อหาตอบโจทย์ความต้องการของผู้คนทั่วโลก ทุกศาสนาและเชื้อชาติ" และใส่ความเชื่อต่าง ๆ อย่างเรื่องเวรกรรม ภพชาติ ชีวิตนิรันดร์ หรือพระเป็นเจ้าลงไป บางบทอาจดีสำหรับใครหลายคน แต่มันคงไม่เหมาะสำหรับผู้ไม่นับถือศาสนาแน่ ๆ ดังนั้น ในสายตาของฉันแลัว ประโยคข้างต้นจึงสวยหรูเกินจริง

"บางครั้งมนุษย์ก็เป็นทุกข์ เศร้าหมองจากความพ่ายแพ้ ล้มเหลว หรือจากปมด้อยของตัวเอง แต่หากพวกเขาศึกษาธรรมะและจารึกถ้อยคำเหล่านั้นไว้ในใจ ก็จะทำให้ลุกขึ้นได้ราวกับเกิดใหม่เป็นคนเข้มแข็ง สดชื่น และคิดบวก" ประโยคนี้จริง แต่ฉันคิดว่าไม่เสมอไป บางศาสนานับถือแล้วเป็นอันตรายต่อจิตวิญญาณ เข้าง่ายออกยาก ไม่ได้สอนถึงแนวทางของสันติสุข ทำร้ายคนที่เห็นต่างจากตัวเอง ดังนั้นต้องเลือกให้ดีด้วย

บางตอนก็จะพูดว่า "คุณต้องเชื่อในพระเจ้า หากคุณเชื่อว่าจักรวาลนี้มีเจตจำนง คุณจะพบว่าสิ่งใดก็ตามที่ดูเหมือนเป็นเรื่องเศร้า คงต้องมีจุดประสงค์หรือความหมายบางอย่างเป็นแน่ ไม่มีวันที่เจตนาของสวรรค์จะเป็นไปเพียงเพื่อสร้างความปวดร้าวให้คุณ" หนังสือเลือกใช้คำว่า 'ต้อง' ทำให้ดูยัดเยียดเกินงาม ฉันไม่เข้าใจเลยสักนิดว่าทำไมทุกคนต้องเชื่อเหมือนกันหมด แล้วถ้าสวรรค์รักเราจริง ๆ ทำไมถึงไม่สร้างชีวิตที่สมบูรณ์แบบไปเลย ทำไมต้องมานั่งใส่อุปสรรคให้มันยากด้วย ความเชื่อพวกนี้มันเหมือนมีไว้เติมเต็มความสงสัยที่หาคำตอบไม่ได้มากกว่า

"คุณอาจแข็งแกร่งขึ้นเมื่อผ่านพบความตายของสมาชิกในครอบครัว คุณอาจต้องแยกจากเพื่อนคนหนึ่งแล้วพบคนที่ยอดเยี่ยมยิ่งกว่า หรือคุณอาจพบคนที่เหมาะสมกว่าเดิมเมื่อเลิกกับคนรักคนเก่า" อันนี้ฉันเชื่อ ยังดีที่ใช้คำว่า 'อาจ' เพราะมนุษย์มีความเข้มแข็งมากน้อยต่างกัน บางคนทนได้ บางคนทนไม่ได้

"วิธีที่ดีที่สุดในการเอาชนะสถานการณ์เลวร้ายในชีวิต คือการพยายามสร้างความสุขให้กับผู้อื่น" แต่ฉันคิดว่าถ้าเอาตัวเองไม่รอดแล้ว ก็ควรช่วยเหลือตัวเองก่อนช่วยเหลือคนอื่น โลกมันไม่โสภาขนาดนั้น บางคนรับฟังปัญหาของผู้อื่นมาก ๆ คนที่มาระบายเอาความปลอดโปร่งกลับบ้าน แต่เขาแบกรับความเจ็บปวดไว้มากมาย จนกลายเป็นคนป่วยทางใจเสียเอง

"พวกเขามีหลายสิ่งหลายอย่างที่ทำให้คุณตั้งแง่สงสัย อย่างไรก็ตาม พวกเขาก็มีแง่มุมอื่นที่ปราศจากข้อกังขา นั่นคือ พวกเขาได้รับมอบหมายตำแหน่งนั้น เพราะใครบางคนในบริษัทซึ่งดำรงตำแหน่งสูงกว่าเห็นว่าพวกเขามีประสิทธิภาพในการทำงาน" ผู้นำมักเก่งกาจ...แต่ไม่เสมอไป คนที่ดูดีเพียงผิวเผิน แอบอ้างตัวเองเป็นเจ้าของผลงาน แต่ประจบเก่งจนได้เลื่อนขั้นก็มี คนที่ทำงานเต็มที่ แต่ไม่ค่อยก้าวหน้าเพราะโดนกดไว้ก็มี ไม่มั่นใจว่าผู้เขียนทำงานอยู่ในตำแหน่งอะไร ฉันคิดว่าสถานะน่าจะมีผลต่อทัศนคติด้วย

Memoir & MonologueDonde viven las historias. Descúbrelo ahora