แสงแดดอ่อนๆฉายเงาของแจกันดอกไม้
ที่โต๊ะหัวเตียงเมือสตีฟเปิดผ้าม่าน
ไออุ่นของแดดและลมหนาว
ที่พัดผ่านเข้ามาทางหน้าต่าง
ให้ความรู้สึกแปลกๆ
แต่กระนั้นก็ทำให้ภายในห้อง
ดูมีชีวิตชีวามากขึ้นบริเวณพื้นที่ของวังส่วนใน
ถูกรายล้อมด้วยสวนดอกไม้
ดั้งนั้นแล้ว ที่นอกหน้าต่าง
ของห้องพักบริเวณนี้
จึงมีวิวสวยกว่าที่อื่นอาการของเจมส์พ้นช่วงวิกฤต
ดร.แบนเนอร์ บอกว่า
ถ้าคนไข้ได้อยู่ในสิ่งแวดล้อมที่ดี
ก็จะช่วยให้ฟื้นตัวได้ดีขึ้น
องค์ที.ชัลล่าจึงมีรับสั่ง
ให้องครักษ์เจมส์ บาร์น
ย้ายจากห้องผู้ป่วยพิเศษ
กลับมาพักที่ห้องเดิมของตัวเองสตีฟเลิกสนใจวิวนอกหน้าต่าง
แล้วหันไปยิ้มให้กับคนเพิ่งฟื้น
ที่นั่งหน้ามุ่ยอยู่บนเตียง"เบื่อล่ะสิ" กัปตันหนุ่มพูด
บัคกี้ไม่ได้ตอบอะไร
ร่างเล็กขยับตัวนั่งพิงกับหัวเตียง
ปัดผ้าห่มออกไว้ที่ปลายเตียง
อย่างเบื่อหน่าย"จริงๆแล้วหมอหลวงบอกว่า
ถ้านายอยาก จะออกไปเดินเล่น
ข้างนอกบ้างก็ได้นะ"ร่างเล็กยังคงเงียบ
สตีฟลงไปนั่งที่ปลายเตียง
พลางบีบนวดขาให้บัคกี้
แต่อีกฝ่ายขยับขาออก
สตีฟเงยหน้าขึ้นยิ้มให้อีกฝ่าย
ก่อนจะพูดอย่างใจเย็น"เดินเล่นก็ถือเป็นการทำกายภาพที่ดีนะ
ยิ่งฟื้นตัวเร็วเท่าไหร่ นายจะได้กลับ
ไปอยู่ในกองทัพเร็วขึ้นไง""อย่าโกหกน่าสตีฟ"
แล้วคนที่เงียบอยู่นาน
ก็เอ่ยขึ้นด้วยเสียงเบาหวิว
บัคกี้ไม่ได้มองหน้าสตีฟ
"ไม่มีใครอยากให้ฉันกลับไปหรอก""ไม่เอาน่าบั๊ค" สตีฟถอนหายใจ
"ฟังนะ กองทัพยังต้องการนาย
พวกเด็กใหม่ๆที่เข้ามา
ยังไม่มีใครมีแววว่าจะใช้ปืนได้เก่ง
เท่านายสักคน""นายคิดว่าสภาพฉันตอนนี้
จะกลับไปจับปืนได้อีกรึไง"
น้ำเสียงของบัคกี้ช่างแข็งกร้าว
"การที่ฉันฟื้นขึ้นมา มันไม่ได้การันตรี
ว่าทุกอย่างจะต้องเหมือนเดิมนะสตีฟ"
YOU ARE READING
Winter's Tale in Wakanda (stony fanfiction): เหมันต์วากันด้า (จบ)
Fanfictionเสียงฝนตกกระทบพื้น ชื้นกลิ่นดินเจือจาง สายลมเย็นพัดผ่านยามฟ้ามืด ฤดูหนาวในวากันด้าช่างแตกต่าง ใต้ผืนฟ้าไกลสุดตา กำแพงวังตั้งตระหง่าน บอกเล่าเรื่องราวมากมาย "สตีฟ ไม่ ปล่อฉันเจ้าโง่ คุ้มกันฝ่าบาท! คุ้มกันฝ่าบะ...." ไฟนรกแดงฉานมอดไหม้ทุกสิ่งอย่าง...