เช้านี้ทั้งสตีฟและโทนี่ตื่นสาย อาจด้วยเพราะเรื่องเมื่อคืนที่ทำให้กว่าจะข่มตาหลับได้ก็เกือบเช้า
เป็นเวลาเกือบเที่ยงแล้วที่ทั้งสองลงมาทานมือเช้าควบเที่ยงแบบง่ายๆที่ทางโรงแรมจัดเตรียมไว้ให้
ก่อนจะออกไปชมความงามของกรุงมอสโคช่วงปลายเดือนกุมภาพันธ์ แม้ใกล้จะเข้าสู่ฤดูใบไม้ผลิแล้ว แต่ความหนาวยังไม่เบาบาง
หิมะหยุดตกแล้วตั้งแต่เมื่อคืน แต่เกล็ดน้ำแข็งเป็นปุยสีขาวยังคงหนาตัวอยู่บนพื้นอิฐสีเทาหม่น
อันเป็นเอกลักษณ์ของโซเวียต"นี่คุณเอากล้องมาด้วยหรอ"
สตีฟเอ่ยถามโทนี่ ร่างเล็กในชุดเสื้อโค้ทกันหนาวสีน้ำตาล กับหมวกบับเบิ้ลแฮทที่ยาวลงมาปิดหู
ที่คอห้อยกล้องโพลาลอย์อันเขื่อง"ก็มาเที่ยวไม่ใช่หรอ"
โทนี่ตอบห้วนๆ กลบเกลื่อนที่จู่ๆก็รู้สึกอายขึ้นมาเสียเฉยๆ สตีฟหัวเราะกับคำตอบ
"ครับๆ ไม่เถียง"
ชายหนุ่มกระชับฮู้ดขนวูลสีครีมให้เข้าที่อีกครั้ง ก่อนซุกมือลงในกระเป๋าเสื้อโค้ทสีน้ำเงินเข้ม
กรุงมอสโคไม่ได้คึกคักอย่างที่สตีฟคิด อาจเป็นเพราะระบอบสังคมนิยมของโซเวียตก็เป็นได้ ที่ทำให้ผู้คน
ขาดความสุนทรีย์ แต่ช่างโชคดีที่ผู้นำคนใหม่มีความคิดจะผ่อนคลายความตึงเครียดและต้อนรับ
นักท่องเที่ยวจากต่างประเทศ โดยการเปิดพระราชวังเครมลินให้คนภายนอกได้เข้าชมและนั่นคือเป้าหมายของวันนี้
สตีฟและโทนี่ใช้เวลาเพียง 5 นาทีจากโรงแรมเมโทโปล ก็เดินมาถึงสถานีรถไฟเมโทร Lubyanka ในตัวสถานี
มีผู้คนเยอะกว่าที่คิด ดูเหมือนว่าชาวมอสโคจะใช้รถไฟเมโทรเป็นหลักสำหรับการเดินทางในชีวิตประจำวันลึกลงไปหลายเมตรใต้พื้นดิน ลวดลายวิจิตรงดงามถูกสร้างสรรค์ขึ้นที่นี่อย่างปราณีตและมีพลัง
โทนี่ยกกล้องขึ้นเก็บภาพ เมื่อแผ่นฟิล์มสีขาวฉายชัดขึ้น ร่างเล็กก็ยิ้มน้อยยิ้มใหญ่อย่างพึงพอใจ
ในฝีมือของตัวเอง
ŞİMDİ OKUDUĞUN
Winter's Tale in Wakanda (stony fanfiction): เหมันต์วากันด้า (จบ)
Hayran Kurguเสียงฝนตกกระทบพื้น ชื้นกลิ่นดินเจือจาง สายลมเย็นพัดผ่านยามฟ้ามืด ฤดูหนาวในวากันด้าช่างแตกต่าง ใต้ผืนฟ้าไกลสุดตา กำแพงวังตั้งตระหง่าน บอกเล่าเรื่องราวมากมาย "สตีฟ ไม่ ปล่อฉันเจ้าโง่ คุ้มกันฝ่าบาท! คุ้มกันฝ่าบะ...." ไฟนรกแดงฉานมอดไหม้ทุกสิ่งอย่าง...