บทที่ 15 จะช่วยหรือจะบ่น

152 8 0
                                    

เช้าต่อมา

ช่วงเวลา 7 โมงครึ่งของทุกวันฉันมักจะอยู่ตรงที่ระเบียงหน้าห้องเสมอ ฉันยืนรับลมเย็นๆสบาย

"เน่ๆ" มินที่เป็นหัวหน้าห้องทักฉัน

"ว่า" ฉันตอบกลับไป

"แก..กับ.."

"?????"

"แกชอบเอสใช่ป้ะ"

เฮ้ย ไรวะเนี่ยมาถามแบบนี้ ตีเนียนเลยละกัน

"แกเอาไรมาพูดเนี่ย"

ฉันตีหน้านิ่งกลับ รู้สึกว่ามินจะเคยบอกว่า

"ฉันก็ชอบเอสนะ แต่เลิกชอบไปแล้ว เพราะคนรู้เยอะเกินไป"

ก็นั่นแหละ ฉันรู้ว่ามินชอบเอสเมื่อเดือนที่แล้วเองนะ เลิกชอบแล้วหรอ ตัดใจง่ายจัง ช่วยบอกทีได้มั้ยว่าทำไง

"แล้วสรุปแกชอบเอสใช่ป้ะ" ยังไม่หยุด

"เปล่า"

"แกอาจจะเคยชอบเอสก็ได้ จริงป้ะ"

"ไม่มีอะไรทั้งนั้นแหละโว้ยย"

ฉันโวยกลับนิดหน่อย แต่ไม่แสดงท่าทีแบบทำให้จับได้ว่าฉันตีเนียนอยู่

"จ้าๆ" เฮ้ออ เกือบไม่รอด

"มิน ไปเข้าแถวกัน"

"อื้ม ไปก่อนนะ"

ฉันพยักหน้ากลับไป ว่าแต่มินไปรู้มาจากใครเนี่ย ในห้องก็ไม่น่าจะมีคนรู้แล้วนะ หรือฉันแสดงอาการออกมาหรอ ไม่หรอก ไม่ใช่แบบนั้นแน่ๆ โอ๊ยยย ไม่คิดแล้ว ไปเข้าแถวดีกว่า





คาบอิสระ

ณ ห้องสมุด

แอร์เย็นฉ่ำสดชื่นหน้านอน กับบรรยากาศเงียบๆ คาบนี้เป็นคาบที่สบายสุดๆเพราะว่าเป็นคาบที่ครูปล่อยให้ทำกิจกรรมที่ตัวเองชอบ แล้วทำไมฉันถึงมาอยู่ห้องสมุดได้ สอบเก็บคะแนนไงล่ะ สอบพรุ่งนี้ อ่านวันนี้ เก๋ป่ะล่ะ

ฉันเดินไล่หาหนังสือวิชาเศรษฐศาสตร์มาเรื่อยๆ จนเห็นสิ่งที่ตามหาซึ่งอยู่สูงมากกก ใครเป็นคนคิดที่ทำให้ห้องสมุกมันสูงขนาดนี้เนี่ยฮะ!!!

เอาล่ะ ฮึบ

ฉันเขย่งปลายเท้าจนสุดและพยายามเอื้อมไปหยิบหนังสือเล่มนั้น แต่หารู้ไม่ว่า ส่วนสูง 165 เซนติเมตรของฉันไม่ได้ช่วยอะไรเท่าไหร่ ถามจริงชั้นวางหนังสือเนี่ยทำมาไว้ให้ไอ้พวกส่วนสูงเสาไฟฟ้าใช้รึไง

ลองอีกทีนึง

ฉันที่กำลังจะเขย่งเท้าเพื่อหยิบหนังสือ ก็มีเงาสูงมาซ้อนทับกับร่างของฉัน

"เศรษฐศาสตร์ใช่มั้ย?"

"อะ อืม"

เขาหยิบหนังสือที่อยู่สูงลิบลิ่วลงมาให้ฉันอย่างง่ายดาย

"ขอบคุณนะเอส"

"ไม่เป็นไร ทีหลังถ้ารู้ว่าตัวเองหยิบไม่ถึงก็ไปเอาบันไดตรงนั้นก็ได้ จะได้ไม่ต้องลำบาก"

"••"

คือทั้งช่วยทั้งบ่น ฉันควรจะเอาคำขอบคุณคืนดีมั้ยเนี่ย
ถ้านายจะพูดเยอะแล้วเป็นแบบนี้กลับไปเป็นคนพูดน้อยเหมือนเดิมเถอะ ฉันขอ

Love me รักฉันสักทีได้ไหม!!!!Where stories live. Discover now