Chapter#3 เรื่องราวประหลาดๆ

2 0 0
                                    

ไอริชาวันนี้มีเรียนตอนเช้า อากาศเย็นเล็กน้อย วันนี้รู้สึกแปลกๆ ที่ตื่นขึ้นมาแล้วสักพักก็เหมือนมีอาการเจ็บหัวใจ มันเจ็บเหมือนมีเข็มมาทิ่มแทงอย่างบอกไม่ถูก จริงๆ ก็ไม่ใช่ครั้งแรกที่เป็นแบบนี้แต่ว่าคราวนี้รู้สึกรุนแรงกว่าที่เคยเป็นมา เธอเคยคิดว่าบางทีเธออาจจะเป็นหัวใจอ่อนแอแต่เด็กก็ได้ แต่ว่าเพิ่งมาแสดงอาการเมื่อโตขึ้น ความเจ็บปวดนี้เหมือนเป็นเครื่องเตือนใจเธอว่าอาจจะอยู่ในโลกใบนี้ได้อีกไม่นาน เวลาเหลือน้อยกว่าคนอื่น ดังนั้น เธอต้องทำสิ่งที่ปราถรถนาให้เป็นจริงก่อนที่จะไม่มีโอกาสอีกต่อไป เด็กสาวภาวนาทุกค่ำคืนว่าเร็วๆ นี้ขอให้เธอพบคนนั้นของเธอด้วยเถอะ ชีวิตมนุษย์ธรรมดาสั้นนัก แต่ว่าเธอกลับเวลาน้อยยิ่งกว่า เด็กสาวไม่สามารถทนความทรมานที่เกิดจากความมืดในใจและความโดดเดี่ยวอ้างว้าง ความเศร้าโศกเสียใจที่ตัวเองนั้นเหมือนถูกทอดทิ้งต้องต่อสู้เพียงลำพัง เข้ามาเกาะคลุมหัวใจและกัดกินอย่างทารุณ ไม่มีใครคอยอยู่เคียงข้าง ไม่มีใครคอยปลอบประโลมเธอยามที่เสียใจ แม้จะมีเพื่อนๆ แต่สุดท้ายทุกคนต้องแสวงหาเส้นทางชีวิตของตัวเองทั้งนั้น หนังสือ ศิลปะ ความรู้ เป็นสิ่งที่คอยดึงเด็กสาวคนนี้ออกมาจากความเหงาได้บ้าง ไม่ว่าจะเป็นการฝึกทักษะ กิจกรรมต่างๆ แต่ว่ามันก็ช่วยได้เพียงระดับหนึ่งเท่านั้นเอง ไอริชาพยายามแสวงหาทุกๆ อย่างเท่าที่เป็นไปได้ให้เธอมาเกือบหมดแล้วสำหรับชีวิตที่มีตอนนี้ จนความหวังที่มีตอนนี้ ไม่เพียงแค่ริบหรี่ หากแต่เหมือนจะดับมืดเพียงพริบตาเมื่อไหร่ก็ได้เสีย ยิ่งช่วงเวลานี้ไม่สามารถติดต่อกับท่านพี่ได้ เธอยิ่งเหมือนอยากจะตาย บางทีความตายอาจเป็นทางเลือกที่ดีที่สุดก็ได้ หากว่าเธอไม่สามารถพบกับคนคนนั้นได้แล้ว ถ้าเป็นแบบนั้น ความตายคงไม่โหดร้ายเกินไปอย่างที่ใครต่อใครคิดกระมัง ไอริชาหลับตาลงเหมือนยอมรับชะตากรรมอย่างสิ้นหวัง น่าเศร้าและทรมานเหลือเกิน เมื่อชีวิตนั้นมันขื่นขมอีกทั้งปราศจากความหมายของการมีชีวิตอยู่ จนเหมือนแทบจะวิ่งร้องหาความตายแบบนี้ เมื่อไม่มีคนสำคัญที่จะสร้างความหมายของการมีชิวิตอยู่แก่เราเองแบบนี้ แล้วที่จะเดินไปข้างหน้าด้วยความรู้สึกอย่างไรกัน?

ไอริชาเดินออกมาจากคลาสที่เรียนหลังเลิกเรียนอย่างสิ้นหวังไปยังที่ทำงานพิเศษชื่อ Fabian Hill ร้านอาหารที่หรูหรา เน้นอาหาร และการบริการที่ดี (ที่เลือกเพราะเห็นว่าได้เงินดี ค่าทิป ค่าคอมมิชชั่นสูง) เธอพยายามหาเหตุผลต่างๆ เพื่อบังคับตัวเองให้ต้องสีหน้าสดชื่นยิ้มระรื่นให้ได้ ทว่าดูเหมือนมันลำบากเหลือแสน ระหว่างทาง เป็นช่วงที่เธอพยายามทำจิตให้สงบแล้วก็พยายามติดต่อกับชายหนุ่มที่เธอตามหามาตลอดทั้งชีวิตอีกครั้ง วาดภาพเขาที่เคยเห็นในอดีตออกมาให้ชัดเจนที่สุด พยายามสื่อสารออกไป สักพักก็ได้เห็นชายหนุ่มชุดสูทสำดำเข้มหรูหราเดินมา เขาหยุดกึกตรงหน้าและก็
“นั่นเธอ!”
“เฮือก!!” เธอจำเขาได้ เขาเป็นผู้ชายที่มีสายตาเป็นอาวุธ และเธอก็เหมือนติดลิสท์บัญชีดำอะไรสักอย่าง เด็กสาวสะดุ้งตัวโยน หน้าซีดผิดกับเมื่อครู่
“...” อีกฝ่ายไม่ลังเลที่จะก้าวเข้ามา ด้วยสายตาดูเหี้ยมโหดเยือกเย็น เฟย์ เซฟิรอธ เหมทือนมัจจุราชผู้ส่งมอบความตายยังไงยังนั้น
ไอริชาวิ่งหนีทันทีเหมือนลูกหนูวิ่งจู๊ดไม่ต้องการให้ใครเห็นร่างมันหรือไม่ก็ลูกกระต่ายที่วิ่งสุดชีวิตจากกรงเล็บนักล่า จนอาจจะแทบกลายเป็นลมกรด
“หยุดเดี๋ยวนี้นะ!” นี่เป็นครั้งที่สองแล้วที่เธอหนีเขา
หยุดก็โดนฆ่าตายสิคะ เธอเถียงในใจ

ไอริชาเคยคิดว่าชีวิตบางคนเหมือนในนิยาย แต่ในเวลานี้ เธอได้ทฤษฎีใหม่ว่า ชีวิตมันยิ่งกว่าในนิยาย นางเอกหลายเรื่องอาจจะมีเพื่อน มีพระรอง หรือที่แน่ที่สุดพระเอกผู้แข็งแกร่งรูปงามที่จะเข้ามาปกป้องชีวิตอันบอบบางเอาไว้ ปกป้องด้วยชีวิตและจิตใจ อย่างน้อยก็มีคนมาเคียงข้าง แต่ชีวิตจริงๆ ตัวอย่างเช่นไอริชาคนนี้ ไม่มีอะไรเลย ตัวช่วยก็ยังไม่มี ไม่แน่ว่าภาพสุดท้ายในชีวิตอาจเป็นภาพเขากำลังจะปลิดชีพเธอก็เป็นได้
“ยัยเปี๊ยก เจ้าเจี๊ยบจิ๋ว เจ้ากระต่ายนี่ หยุดเดี๋ยวนี้นะ”
เอ๊ะ นั่นคำด่าของเขาเหรอ?

เด็กสาววิ่งไปได้ครู่เดียว คนที่วิ่งไล่ก็ตามทันคว้ามข้อมือไว้ได้ ทั้งตรึงร่างเล็กๆ นี้ไว้กับที่อย่างรวดเร็ว ด้วยความกลัวทำให้ร่างบอบบางนี้นิ่งตัวแข็งทื่อ
“เธอจริงๆ ด้วย”
“ขอโทษค่า อย่าทำอะไรหนูเลยนะค้า ปล่อยหนูเถอะ ให้หนูทำอะไรก็ได้ทั้งนั้น” ความจริงเธอไม่รู้ว่าผิดอะไรด้วยซ้ำ แต่พ่นคำเหล่านี้ออกมา เพียงแค่ว่าให้เขาปล่อยเธอไป
“แน่ใจเหรอ?” เฟย์ขมวดคิ้วก่อนเปลี่ยนเป็นยิ้มเจ้าเล่ห์
เด็กสาวรู้สึกเหมือนตัวเองไร้ทางออกหมดตรอกสิ้นเส้นทางอย่างรุนแรง ร่างเล็กๆ ที่ถูกตรึงกับต้นไม้สั่นระริก รัศมีของเขาราวกับจะกดให้เธอจมลงไปในก้นแผ่นดิน ลมหายใจเร่าร้อนราวสัตว์ป่านักล่า
“เธอเป็นใคร?”
“ไอริชา พาริ โซราโนะค่ะ” เธอกลัวจนให้ข้อมูลจริงหมด
“บอกเบอร์มา บ้านอยู่ไหน”
ไอริชาบอกจนหมดเกลี้ยงเหี้ยนเต้

มาพึ่งเข้าใจทุกอย่างอีกทีตอนที่เขาเดินเธอไปส่งที่ร้าน ส่วนตัวเขาเองมานั่งจิบชาสั่งอาหารให้เธอเสิร์ฟมาให้ เสร็จงานก็มาส่งที่แมนชั่นหรือหอพัก แล้วกลับไป เธอ...โดนหลอกนี่นา!? ทำเป็นแบบนี้ไปได้น่ะ คราวก่อนเกือบตายอยู่แล้ว นี่มันเรื่องอะไรกันเนี่ย แล้ว...เขาเป็นใครกันนะ เรายังไม่รู้ชื่อเขาเลย แต่กลับบอกข้อมูลให้ สมองเป็นอะไรนะเราวันนี้ ไอริชานึกแล้วกระวนกระวาย ก่อนหน้านี้เธอรู้สึกเศร้าเจ็บปวดจนอยากจะร้องไห้ออกมา แต่พอมาเจอเขาคนนี้ ความรู้สึกก่อนหน้าพลันเตลิดไปไกลหายมลายสิ้น เฮ้อ แบบนี้ปรับตัวไม่ทันนะเนี่ย ได้อยู่ใช้ชีวิตที่นี่ไม่ทันไร ก็เจอเรื่องประหลาดๆ เข้าเสียแล้ว สงสัยลืมเรื่องความน่าเบื่อไปได้เลย แต่คงจะมีเรื่องกลุ้มใจไม่เว้นแต่ละวันมากกว่า ไม่รู้ว่าเขาคนนั้นจะเอาข้อมูลที่ได้ไปทำอะไรด้วย น่ากลัวจริงๆ แฮะ เด็กสาวครุ่นคิดอยู่ สักพัก เธอก็พบว่าที่โทรศัพท์มือถือมีแมสเซสเข้ามา
“Irisha Pari Sorano,
ฉันจะโทรเข้ามาหาเธอเดี๋ยวนี้
จาก Fay Zephiroth.”

เขาชื่อ เฟย์....
เวลานั้น โทรศัพท์ก็มีเสียงเพลงเรียกเข้ามาซึ่งเป็นสายที่ไม่รู้จักมาก่อน
“สวัสดีค่ะ”
“เธอ โซราโนะ เจ้าเจี๊ยบจิ๋วใช่มั้ย นี่ฉันพูดนะ”
“เอ่อ ค่ะ” โอ๊ย ตายยากชะมัดคนนี้ ได้โปรดไปจากชีวิตหนูเถอะ
“เมมเบอร์ฉันเดี๋ยวนี้เลยนะ ใส่ชื่อให้เรียบร้อยด้วย”
โห คนเรา อะไรจะขนาดนั้นเนี่ย
“อย่าได้คิดหลบหนี หรือแม้แต่ตัดสายโทรศัพท์ ไม่งั้น ฉันจะขย้ำเธอแน่”
“เอ่อ ค่ะ”
“แล้วเจอกัน” เสร็จธุระก็วาง

ดูเหมือนผู้ชายคนนี้จะเป็นแต่การใช้คำสั่งแฮะ น่าแปลก เหมือนเขาจะหงุดหงิดอยู่ตลอดเวลา หรือบางทีก็เหมือนเดาไม่ออกว่าคิดอะไรอยู่กันแน่ เหมือนเขาอยากจะทำอะไรก็ทำ พูดอะไรก็เอ่ยออกมาอย่างไม่เกรง แฝงซ่อนเร้นความคิดอะไรบางอย่าง ดูซับซ้อนน่ากลัวจริงๆ แต่เอาเข้าจริงๆ เขาก็ไม่ได้ทำอะไรเราเลยสักนิด ไอริชามาครุ่นคิดดูอีก จากการที่ได้เจอคนคนนั้น และท่าทางการแสดงออกของเขาดูไม่เหมือนใคร (และคิดว่าคงไม่มีใครคนไหนจะมั่นใจกล้าทำถึงขนาดนี้แน่ๆ) แต่ว่าเขาต้องการอะไรกันแน่ล่ะ
ท่านพี่เซรุ หนูรู้สึกไม่สบายใจเลย ไม่รู้ว่าใครบ้างหวังดี ใครบ้างจะเข้ามาหาผลประโยชน์ ทุกอย่างดูวุ่นวายไปหมด โลกใบนี้ทำไมดูซับซ้อน บิดเบี้ยวอะไรอย่างนี้นะ ไอริชานั่งนึกในใจ หลับตาลงและพยายามจมอยู่กับห้วงความคิด เธอรู้สึกไม่เข้าใจเท่าไหร่ ไม่ว่าจะเรื่องอดีต ความเจ็บปวดความไม่เท่ากันของแต่ละคนในกลุ่ม ในครอบครัวที่เข้าไปสัมพันธ์ด้วย หรือแม้แต่ตอนนี้ และเรื่องความหมายของชีวิตของเธอเอง ทุกอย่างดูซับซ้อน และมันก็เหมือนมีอะไรบางอย่างทำให้มีให้เป็นไป โดยที่มันส่งผลกระทบมาเป็นทอดๆ จากคนสักคนหนึ่งไปถึงอีกคน อยากมีใครสักคน....อยู่เคียงข้าง ณ เวลานี้ ขอแค่พักอิงยามหมดแรง แค่ปลอบใจเวลาที่ร้องไห้ สัมผัสที่อ่อนโยน ความรักที่จริงใจ อยากได้แค่นั้นจริงๆ เด็กสาวนึกอธิษฐานในใจ ก่อนที่จะออกมาข้างนอก ตั้งใจจะซื้อน้ำผึ้งมาเก็บเอาไว้

ร้านที่เธอจะไป ต้องเดินประมาณยี่สิบนาทีจึงจะถึง ทำให้ช่วงเส้นทางยาวพอให้เธอครุ่นคิดอะไรได้เรื่อยเปื่อยสักระยะ ดูผู้คนเดินไปมา มองเห็นคู่รักที่กำลังหวาน เดินเคียงข้างไปด้วยกัน ลูกสุนัขตัวเล็กๆ ปลอกคอสีเข้มจ้องตาแป๋วกระดิกหางไปมาอยากเล่นด้วย เมื่อเจอเด็กๆ ไอริชามองซ้ายแลขวา ตั้งใจจะข้ามถนน ร่างเล็กๆ ก้าวเท้าเดินเมื่อเห็นว่าไม่มีรถคันไหนโผล่มาแล้ว ระหว่างที่อยู่กลางถนน กลับมีรถมอเตอร์ไซค์สีแสบสันพุ่งมายังเธอ ทุกคนต่างตกใจกับภาพนั้น

โครม!!!!!

ร่างเล็กๆ กระเด็นออกออกมาก่อน ตามมาด้วยเสียงรถล้มลงเสียดสีรูดไปกับพื้นถนนจนเกิดเสียงเหมือนคนกรีดร้องชวนแสบหู ก่อนจะนิ่งเงียบไป ส่วนคนขับรถเห็นไม่เป็นไรมากนัก นอกจากบาดเจ็บเล็กน้อย เลือดออกบ้าง แต่ด้วยร่างที่อ้วนต้วมเตี้ยมทำเขาไม่สามารถขยับลุกขึ้นมาได้ ไม่ช้าก็ได้รับการรักษา และคงโดนบทลงโทษตามกฎหมาย ผู้คนต่างมองดูเหตุการณ์อยู่ห่างๆ บางส่วนก็เข้าไปถามร่างบอบบางที่เหมือนลอยออกมาจากจุดเกิดเหตุนั้น
“บาดเจ็บตรงไหนรึเปล่า ทำใจดีๆ ไว้นะ”
ไอริชาตกใจ ทำอะไรไม่ถูก เหมือนเธอช็อกไปชั่วขณะ เหมือนมีคนผลักเธอออกไป ก่อนที่รถคันนั้นจะเสียการทรงตัวแล้วล้มลงไป เธอพยายามมองหาคนที่ช่วยเธอออกมาจากเส้นวิถีที่จะถูกชน เธอจำไม่ได้ว่าเกิดอะไรขึ้น เพราะตอนที่รถกำลังพุ่งเข้ามา ทุกอย่างในหัวเธอมันว่างเปล่าไปหมด พี่ชายคนหนึ่งที่ใจดีเข้ามาถามไถ่ก็พยายามช่วยเธอเต็มที่ เวลานั้นเอง ฝนก็ลงโปรยปรายเสียดื้อๆ
“ขอบคุณค่ะ” ไอริชารู้สึกว่าผู้ชายคนนั้นเหมือนเคยเจอที่ไหนมาก่อนหรือเปล่านะ เขามีคลื่นพลังงานกระแสจิตที่อ่อนโยนนุ่มนวล หน้าตาก็คุ้นๆ อยู่ไม่น้อย แต่เท่าที่นึกดูที่ผ่านมาเธอไม่เคยเขามาก่อนแน่นอน เขาดวงตาสีทองคมสวยเหมือนมนตร์สะกดไม่ให้ละสายตาไปง่ายๆรูปร่างสูงสง่างามเหมือนเจ้าชายนักรบผู้งามสง่า
“ดีนะที่ไม่เป็นไรแล้ว” ชายหนุ่มคนนั้นถอนใจอย่างโล่งอก ก่อนจะลูบหัวเธออย่างเอ็นดู มองดูร่างไอริชาที่เดินอย่างเร่งรีบเพื่อเข้าร้านค้า เมื่อทุกอย่างจบลงด้วยดี และไอริชาขอตัวรีบไปซื้อของก่อน เขามองดูเธอรู้สึกเหมือนเด็กสาวเป็นลูกเจี๊ยบวิ่งหนีจากภัยอันตรายที่พึ่งเจอมากับตัวด้วยความตกใจ แต่ว่าไอริชายังสับสนกับสิ่งที่เกิดขึ้น เหตุการณ์ครั้งนี้เหมือนที่เคยเจอเมื่อในอดีตที่นานมาแล้ว ที่ผ่านมา บางครั้งเธอก็จะเจออันตรายอย่างไม่คาดคิดแบบนี้ และช่วงวิกฤตนั้นก็กลับเหมือนมีบางอย่างทำให้เธอได้แคล้วคลาดปลอดภัยกลับมาเสมอ คราวนี้ก็เช่นกัน และเหตุการณ์เหล่านี้ ทำให้ไอริชาคิดถึงเซรุ.... จนตอนนี้ แม้จะกลับมาที่ห้องพักด้วยสภาพที่เปียกโชก เธอก็ยังคิดถึงเขา ไอริชากลับมาอาบน้ำเปลี่ยนชุด ก่อนจะล้มตัวไปนอนเพื่อพักผ่อนมารับวันใหม่



อีกปลายหนึ่งของด้ายแดงWhere stories live. Discover now