Chapter 4# การพบกัน

1 0 0
                                    

ไอริชาตกใจตื่นขึ้นมาจากความฝัน ความฝันที่ทำให้รู้สึกหวั่นไหวที่สุดเท่าที่เคยพบมา ความฝันนั้นก็คือว่า ช่วงระหว่างที่เธอหลับ เธอเจอชายหนุ่มสีหน้าไม่พอใจ ทั้งยังต่อว่าเธอเหมือนเธอทำอะไรผิด จากนั้น เซรุก็เข้ามาโอบกอดเธอ ก่อนจะโน้มใบหน้ามาใกล้ๆ เวลานั้นเอง เขาก็จุมพิตเธอ สัมผัสเธออย่างรักใคร่ ไอริชาตกใจสะดุ้ง พอเห็นว่าเป็นเขาก็ยิ่งตกใจกว่าเดิม ชายหนุ่มกระซิบข้างหูเธออย่างวาบหวาม ก่อนจะกระชับอ้อมกอดแน่นจะก้มลงจุมพิตเธออย่างร้อนแรง ยิ่งไปกว่านั้น ทำเอาเธอสะดุ้งตื่นจากฝัน
ความฝันที่วาบหวิวอะไรอย่างนี้นะ ไอริชาหน้าแดง
พี่เค้าหึง!

จริงเหรอ ทำไมล่ะ เราไปทำอะไร พอมานึกๆ เหตุการณ์ดู และเมื่อเห็นไดอารี่ตัวเอง ก็นึกได้ว่า ใช่ คุณเฟย์คนนั้นใกล้เธอ พอคิดได้แบบนี้ ยิ่งรู้สึกกระวนกระวายใจเข้าไปใหญ่ ไม่แน่ใจว่าต่อจากนี้ไปจะเกิดอะไรขึ้นจะพูดไปแล้ว นี่เวลาผ่านไปเป็นเดือนแล้ว แต่ว่ายังหาวี่แววหรือเบาะแสของพี่คนนั้นเลย เด็กสาวถอนใจอย่างท้อแท้ยิ่งเวลาผ่านไป แต่ยังไม่ได้อะไร เธอยิ่งรู้สึกว่าความหวังชัดริบหรี่เข้าไปทุกทีแล้ว ถึงยังไงก็ช่างตอนนี้ยังมีเวลา การล้มเลิกกลางคันไม่ใช่นิสัยของเธอ ดังนั้น เธอจึงตัดสินใจสูดลมเข้าไปลึกๆ เต็มอัตรา ก่อนจะผ่อนลงอย่างช้าๆ แล้วคิดซะว่าควรจะพักเสียบ้าง
วันนี้วันหยุด ไอริชาเลยได้มีโอกาสออกไปเดินเล่นข้างนอก คราวนี้ เธอต้องระมัดระวังมากขึ้น หลังจากที่ผ่านประสบการณ์รถเกือบจะชนใส่ เด็กสาวใส่กางเกงขาสั้นที่ไม่สั้นจนเกินไป เสื้อที่เป็นแบบสวมใส่หลายชั้น กับรองเท้ามีส้น ทำให้ดูเหมือนชุดแฟชั่นสำหรับเดินลุยแนวตุ๊กตาเสียมากกกว่า อาจจะเป็นเพราะรูปร่างหน้าตาของไอริชาที่น่ารักน่าเอ็นดู แม้จะแต่งเสื้อผ้าหน้าผมแบบคนปกติ แต่ดูยังไงก็เหมือนตุ๊กตาอยู่ดี ร่างเล็กๆ เดินไปตามทาง มองดูฟ้าที่ดูแจ่มใส เหมาะกับอากาศเย็นสบายไม่อึดอัดอย่างที่เป็นตอนนี้ ผู้คนเดินขวักไขว่ไปมามากมาย เด็กสาวคิดอะไรไปเรื่อยเปื่อย กระทั่งสะดุดตากับร่างสูงสง่าของชายหนุ่มคนหนึ่ง หน้าตาเรียวงามราวเทพบุตร ดูร่างกายเขาแข็งแกร่งแต่ถูกพรางไปด้วยเสื้อสีขาวกางกางเกงสแลคสีดำ เข็มขัดหนังอย่างดี เข้าชุดกับรองเท้าที่เงาขลับ เขารวบผมที่ยาวไว้ข้างหลัง เหมือนหนุ่มผู้สูงศักดิ์ย้อนยุค สง่างามในแบบที่ว่าไม่ว่าใครคงต้องแอบมองด้วยความชื่มชนและน่าเกรงขาม ดูเหมือนเขาเองก็หยุดจ้องมองเธอ น่าแปลกที่รอบตัวเหมือนนิ่งไปหมด และไอริชาเองก็ราวกับถูกสะกดจิต จะว่าไปแล้ว นี่...คนที่ช่วยเธอไว้เมื่อคราวก่อนนี่เอง
“....” ชายหนุ่มไม่กล่าวอะไร ดวงตาสีทองมองดูเธอด้วยความสนเท่ขึ้นมา เหมือนเขากำลังสงสัย และครุ่นคิดอะไรบางอย่างเกี่ยวกับเธอ ดวงตาของเขานั้นล้ำลึกน่าค้นหาเหลือเกิน น่าอัศจรรย์ แต่ไอริชาแปลกใจที่จู่เขาเขาก็ลูบผมสีดำขลับของเธอ ลูบแก้มนวลของเธอ
“อ๊ะ?”
“อ๊ะ! ข....ขอโทษครับ ผมไม่ได้ตั้งใจ....” เขาโน้มก้มลงอย่างสุภาพ ขอโทษ ทำให้ไม่มีใครสังเกตว่าเขากำลังหน้าแดงแค่ไหน
น่าแปลก ทำไมที่ไอริชาไม่รู้สึกโกรธ ทั้งที่เป็นคนแปลกหน้า แต่ไม่ยักจะรู้สึกอะไร ว่าแต่เธอเหมือนตุ๊กตาขนาดนั้นเลยเหรอ เมื่อพินิจดูแล้วบอกไม่ได้เลยว่ามีส่วนไหนไม่เหมือนชายคนนั้นในฝัน แต่ไม่รู้ทำไมถึงรู้สึกไม่คุ้นเคย ชาเมวู (Jamais vu) อย่างน่าแปลกใจ แต่ภายใต้ความรู้สึกที่ไม่รุ้นเคยกลับมีบางอย่างที่ดึงดูดใจ ทั้งยังเป็นอะไรบางอย่างที่ลึกในใจเรียกร้องโหยหา เหมือนรู้สึกคุ้นเคยภายใต้ความกลัว เหมือนจะคุ้นเคยก็ไม่ใช่ แต่แปลกหน้ากันก็ไม่ใช่อีก
“ไม่เป็นไรค่ะ...” เด็กสาวสังเกตว่าหน้าตาของชายหนุ่มยังคงจ้องมองเธออยู่ จนเธอเริ่มรู้สึกเขิน พอหลบตาสายตาทำให้สังเกตเห็นว่าที่มือซ้ายของเขาพันด้วยผ้าขาวสะอาด และเดาว่าบางทีอาจะพันไปถึงต้นแขน เธอเริ่มอยากจะรู้จักเขา แต่ว่าไม่รู้จะหาบทสนทนาจะมาว่าอะไรกับเขา ทั้งที่เรื่องการชวนคุยเป็นทักษะที่เธอใช้ได้ดีพอสมควร
“คุณเป็นนายแบบรึเปล่าคะ?” เด็กสาวเผลอถามออกมา พอนึกได้ก็สะดุ้ง ตายแล้ว ถามอะไรเปิ่นๆ ออกมากันนะ
“?” ดวงตาสีทองดูโตขึ้นด้วยความประหลาดใจเล็กน้อย หน้าเขาจากที่ดูเงียบขรึม สุขุม เยือกเย็นน่ากลัวราวกับเทพปีศาจที่งดงามสงบนิ่ง กลายเป็นชายหนุ่มที่ดูไร้เดียงสาไปทันที ก่อนจะหัวเราะเสียงต่ำ ยิ้มเห็นเขี้ยวเสน่ห์ที่ชวนให้คนพบเห็นมาให้ฝังเขี้ยวนี้บนร่างกายอย่างร้ายกาจ “ไม่ใช่หรอก เอ่อ จะไปไหนหรือเปล่าครับ ให้ผมไปส่งก็ได้นะ”
“แค่มาเดินเล่นน่ะค่ะ ขอบคุณนะคะ”
เหมือนชายหนุ่มนิ่งคิดอะไรอยู่ เมื่อเด็กสาวเดินก้าวไป เขากลับสาวเท้าเข้ามาเดินเคียงข้างด้วยทันที เหมือนกับไม่ยอมให้โอกาสนี้หลุดไปเด็ดขาด ก่อนที่จะเริ่มชวนคุย
“ชอบมาเดินเล่นแถวนี้บ่อยๆ เหรอ”
“ค่ะ มันรู้สึกว่า ได้เคลื่อนไหวแบบสบายๆ ดี” ไอริชางง  “เอ่อ เราเคยรู้จักกันมาก่อนรึเปล่าคะ”
ชายหนุ่มทำหน้าตกใจ ไอริชาไม่รู้ว่าตัวเองพูดอะไรผิดรึเปล่าแต่ที่แน่ ดูเหมือนเขาลังเลว่าจะตอบอะไรดี ก่อนที่เอ่อว่า “เปล่าครับ”
“เหรอคะ เอ่อ ขอโทษด้วยนะคะ”
“ชื่ออะไรเหรอ บอกได้มั้ย”
“ไอริชาค่ะ ไอริชา พาริ โซราโนะ”
“ผม ซีราชิเอล เฮฟเว่น เรียก เอล ก็ได้”
ชื่อเอล เหรอ เด็กสาวนึกในใจ
“เอ่อ บ้านอยู่ไหนเหรอ”
“หนูไม่มีบ้านให้กลับค่ะ” เด็กสาวน้ำเสียงเศร้า
“เอ่อ ขอโทษนะ”
“ไม่เป็นไรค่ะ ที่จริงไม่ใช่เรื่องที่แย่อะไร.... ว่าแต่พี่เอลอยู่แถวนี้เหรอคะ?”
“อ่อ อยู่คอนโดตรงนั้น....”

บึ้ม!!!!!!!!!!!!!!

ไม่ทันชี้ได้เกินห้าวินาที เอลมองดูสภาพตึกที่ตัวเองตกลงจะเช่าพัก ซึ่งตอนนี้กลับระเบิดแตกกระจายประหนึ่งว่าโดนปักโค่นพังทลายในพริบตาอย่างรุนแรง เขามองตาค้าง ไม่สามารถจะพูดอะไรออกมาได้ เขาพึ่งจะอยู่ห้องพักนั้นไม่เกินชั่วโมงก็ออกมาแถวนี้แท้ๆ กลายเป็นว่าพริบตาเขาก็ต้องหาห้องพักใหม่อีกครั้งหรือนี่ ไหนจะต้องเสียค่าใช้จ่ายเพิ่ม อย่างเอกสาร ของใช้จำเป็นส่วนตัว ไหนจะเสบียงอาหาร ส่วนเด็กสาวตกใจกับภาพที่เห็นคาดไม่ถึง
“....” ชายหนุ่มนิ่งงัน เหมือนสมองรวนไปหมด เขาได้แต่หันหลังไปมองดูสภาพตึกที่ใหม่เอี่ยมได้ร่วงกราวพังในพริบตา
ไอริชา นึกในใจ คราวนี้ เขาก็ไร้บ้านไร้ที่พักเหมือนกันสินะ ดูเหมือนเขาจะอึมทึมมืดมนไปทันทีอย่างบอกไม่ถูก
“สงสัยต้องหาที่นอนใหม่แล้วล่ะ” เขาถอนใจยาว
“เอ่อ แถวนี้ หนูพอจะรู้จักที่ให้บริการห้องพักนะคะ”
“ขอบใจนะ ไอจัง” ดวงตาที่ดูเย็นชาของเขาดูอบอุ่นอย่างน่าประหลาด
ไอริชาเริ่มไปยังอพาร์ทเม้นท์ที่ใกล้ๆ ก่อน เธอสอบถามเรื่องห้องเช่า ร่างเล็กพยายามเขย่งปลายเท้าเพื่อถามหาห้องพักสำหรับหนึ่งคนให้ชายหนุ่ม ตอนแรกต้องยืนรอสักพัก เจ้าของอพาร์ทเม้นท์ถึงจะกระวีกระวาดออกมา จากนั้น ไอริชาก็ถามไถ่เรื่องราคากับห้องพัก และแล้ว...
“ขอโทษค่ะ ตอนนี้ เต็มทุกห้องเลยค่ะ”
....
“เอ่อ งั้นไม่เป็นไรค่ะ” ไอริชาพาเขาไปแมนชั่นอีกที่หนึ่ง เธอถามเรื่องห้องพักว่ามีว่างสักห้องมั้ย เพราะเรื่องราคาชายหนุ่มบอกว่าไม่มีปัญหา แค่อยากได้ที่พักชั่วคราวจนกว่าจะได้คอนโดใหม่ แต่แล้ว...
“อ้อ มีครับ” เขายิ้ม
“เอ่อ มีรายละเอียดเกี่ยวห้องมั้ยคะ”
“มีเครื่องปรับอากาศ น้ำร้อน ตู้เย็น โต๊ะ ตู้ ระเบียง ห้องน้ำในตัวเตียงคู่ครับ”
“ดีจังเลย”
“น้องจะเข้ามาพักเหรอครับ?”
“ไม่ใช่ค่ะ คือหนูมาถามให้พี่คนนี้ค่ะ” ไอริชาผายมือมาทางเอล เจ้าของแมนชั่นถอนใจยาว
“ขอโทษครับ คือห้องที่ว่าง เป็นฝั่งของหญิงล้วนน่ะครับ”
เฮ้อ ไม่ได้อีกแล้วเหรอ ไอริชาหน้าเหวอไป
แมนชั่น คอนโด โรงแรม ที่ใกล้เคียง ทีละที่ ทีละที่ ไปทุกที่ ที่ไอริชาพอจะพาเขาไปได้ กระทั่งเย็นมากแล้ว และทั้งคู่ก็เหนื่อยเพลียล้าเต็มทน ทว่า
“ขออภัยด้วยครับ”
“ขอโทษด้วยครับ”
“ขอโทษค่ะ เต็มทุกห้องเลยค่ะ”
นี่มันอะไรกันนี่!?

ชายหนุ่มถอนใจยาว เขากำลังคิดว่า เขาอาจจะต้องเดินทางไปอีกเมืองหนึ่งเพื่อจะไปพักโรงแรมที่ไหนสักที่ เวลาทำธุระคงต้องเดินทางนานหน่อย หรือไม่ก็....คงต้องหาใครที่รู้จักพักอาศัย แต่ว่า ตอนนี้เขาเหลือตัวคนดียวแบบนี้จะมีพวกพ้องที่ไหนอีกล่ะ
“พี่เอล ถ้าไม่รังเกียจ พักที่อพาร์ทเม้นท์หนูก่อนมั้ยคะ”
“อะ... จะดีเหรอ” จริงๆ ในใจแอบดีใจเป็นที่สุด เพราะรู้จักกันแค่ไม่ถึงวัน แต่เธอกลับยินดีช่วยเขาขนาดนี้ เขาเองก็อยากจะช่วย อยากจะทำอะไรเพื่อเธอบ้าง และก็ลึกๆ อยากเจอหน้าเธออีกครั้งในอนาคต
“ไม่เป็นไรหรอกค่ะ หนูอยู่คนเดียว เราแชร์ค่าใช้จ่ายเรื่องค่าห้อง ค่าน้ำค่าไฟก็ได้จนกว่าพี่จะได้ห้องพักใหม่” เด็กสาวเอ่ยทั้งหน้าแดงเข้มเหมือนผลไม้สีแดงที่สุกชวนทาน ทำให้เขานึกถึงผลท้อที่สีระเรื่อไม่ต่างอะไรกับเลือดฝาดบนหน้าเธอ
“ขอบใจนะ ตัวเล็ก” เขาเอ่ยออกมาอย่างนุ่มนวลเสียงหวาน
ตัวเล็ก... คำนี้ ช่างคุ้นเคยอย่างน่าประหลาด

ไอริชารู้สึกว่าคำนี้ เธอไม่ได้ยินมานานแล้ว มันถูกทิ้งรวมไปอยู่ในความทรงจำที่นานแสนนาน และเขาคนนี้ก็เหมือนปลุกความทรงจำที่เธอพยายามใช้เพื่อตามหาใครสักคนอย่างโหยหานั้น เด็กสาวแปลกใจที่รู้สึกอย่างนั้น ทั้งยังประหลาดใจที่เธอยอมเพื่อเขาขนาดนี้ ทั้งที่ก่อนหน้านี้ไม่คิดจะพาใครเข้ามาอยู่ด้วยเลย ไม่มีใครรู้ว่า จากจุดนี้ไป ชีวิตของไอริชากับซีราชิเอลก็เปลี่ยนไปตลอดกาล... ไม่น่าเชื่อว่า ด้วยเพียงแค่การพบกันครั้งนี้เท่านั้นเอง
เด็กสาวจึงเดินกลับมาที่ห้องพร้อมกับชายหนุ่มและผ้านวมสองผืนที่เขาตัดสินใจซื้อมาส่งซักที่ร้านเรียบร้อย กับของใช้สัมภาระที่เขาพึ่งซื้อมาใหม่ คืนนี้ เขาคงต้องนอนโซฟาไปก่อน ดังนั้น ผ้าห่มผืนหนึ่งที่ยืมเธอมากกับหมอนหนึ่งใบ เขาวางมันไว้บนโซฟา จากนั้นก็วางของใช้หน้าตู้ที่ไอริชาเพิ่งจะให้เขาใช้เก็บของส่วนตัว พรุ่งนี้ค่อยทำเรื่องที่คอนโด ไหนจะธุระ งานอีก เฮ้อ เหนื่อยเหลือเกิน
“มีอะไรขาดเหลือบอกได้นะคะ”
“ขอบใจนะ” เขาควักกระเป๋าตังค์ออกมาหยิบธนบัตรจำนวนหนึ่งออกมาให้ไอริชา
“!” เด็กสาวตกใจกับจำนวนเงินต่อหน้า
“ค่าห้องพัก ค่าน้ำค่าไฟ และก็อาหารมื้อเย็นที่จะไปกินกัน” เขายื่นให้เหมือนเป็นปึกกระดาษธรรมดา ไม่รู้สึกว่าเป็นเงินจำนวนมหาศาลสักนิดเดียว
“เอ่อ หนูไม่กล้ารับเลย”
เอาไปเถอะ เขาเอ่ยเสียงเพราะ ก่อนจะวางมันบนมือของเด็กสาว ไอริชารู้สึกว่าเธอจำต้องนำเงินเก็บไว้
เอลคิด ตอนแรกเขาคิดว่าน่าอายไม่น้อยที่ตัวเองเป็นฝ่ายย้ายเข้ามา แต่ว่า พอมานึกดีๆ เวลานี้เขาเหมือนกำลังเลี้ยงเด็กให้โตเพื่อให้เป็นเจ้าสาวเหมือนพล็อตเรื่องนิยายอิโรติคแบบแปลกๆ เลยนะ ซีราชิเอลหรือเอลนั่งมองดูไอริชาเช็ดหน้าเช็ดตา เขารู้สึกว่าอารมณ์เหมือนลูกกระต่ายแต่งขน ไม่ก็ลูกแมวที่พยายามเลียทำความสะอาดยังนั้น ตัวเล็กๆ แต่งนั้น จัดการนี่
“หิวรึยัง?”
“เอ่อ ค่ะ” เด็กสาวรับคำ
“เงินพอมั้ย จะไปกินที่ร้านไหนเหรอ”
“วันนี้ทำกินกันมั้ยคะ”
“ทำกินเองเหรอ ไม่ต้องหรอก เหนื่อยมากแล้ว แค่มื้อเดียวเอง คงไม่เป็นไรหรอก” ชายหนุ่มลูบหัวอย่างเอ็นดู ตัวเล็กๆ แบบนี้  เด็กสาวแปลกใจที่ตัวเองไม่รู้สึกกลัว ไม่รู้สึกระแวง กลับเหมือนเป็นคนที่คุ้นเคยทั้งที่ก่อนหน้ารู้สึกไม่คุ้นอย่างแรง เหมือนเขาไม่ได้มาจากโลกมนุษย์อะไรแบบนั้น แต่ว่ามัวแต่คิดไปเรื่อยเช่นนี้ก็ใช่ที่
“งั้น พี่เอล อยากกินอะไรมั้ยคะ”
“พี่ไม่รู้ แล้วแต่ตัวเล็กละกัน” ในใจนึกอยากถามเธอว่า เคยพาใครมาในห้องแบบที่เธอพาเขาเข้ามาหรือเปล่านะ อยากรู้ แต่ไม่รู้ว่าจะถามไปดีมั้ย ดูท่าทางจะไม่ ถึงยังไงก็อยากฟังจากปากด้วยอยู่ดี แต่แล้ว
“ความจริง หนูไม่เคยมีรูมเมทมาก่อนนะคะ ถ้าหนูทำอะไรขัดใจ ขอโทษด้วยนะคะ”
ชายหนุ่มฟังรู้สึกยินดีที่สุด

เด็กสาวได้มานั่งร้านอาหารเล็กๆ กับชายหนุ่มที่เป็นร้านอาหารที่ขายทั้งอาหาร เครื่องดื่ม และก็เบเกอรี่โฮมเมดที่เจ้าของร้านเป็นคนทำเอง บรรยายกาศร้านดูน่ารัก และเงียบสงบ ไอริชาชอบร้าน Sweet Home แห่งนี้มาก นับว่าเป็นร้านโปรดอีกร้านหนึ่งก็ว่าได้ เวลาที่อยากทานอะไรอร่อยๆ และต้องการความเป็นส่วนตัว ที่นี่เป็นสถานที่ที่ให้ความต้องการในส่วนนี้ แต่ขณะเดียวกัน ร้านนี้ก็เป็นที่รู้จักดีของคนทั่วๆ โดยเฉพาะกลุ่มที่รักเบเกอรี่ กลุ่มคนหนุ่มสาว หรือคนทำงานที่ต้องทานอาหารไปพร้อมกับใช้บริการอินเตอร์เน็ตไร้สาย ในฐานะร้านอาหารที่น่าแนะนำ ทั้งยังมีบริการส่งสินค้าแบบเดลิเวอรี่ด้วย ไอริชาสนใจกับหนังสือ ตู้ปลา บรรยากาศร้านและสุดท้ายก็เมนูอาหาร ในขณะที่เอล มองไปรอบๆ มองดูภาพศิลป์ที่ติดฝาผนัง เขากำลังครุ่นคิดอยู่ว่า มันต้องการจะสื่อความหมายอะไร

บรรยากาศตามลำพังที่สงบสุข อบอุ่นหัวใจแบบนี้ เขาไม่ได้สัมผัสมานานเท่าไหร่แล้วนะ

ซีราชิเอลกับไอริชาสั่งอาหารมาทานด้วยกัน สักพักอาหารก็ถูกนำมาเสิร์ฟจนจะเต็มโต๊ะ เขาสั่งเกตว่าร่างเล็กๆ นี้ สั่งกินแต่อาหารที่เป็นผักผลไม้ กับขนม เมนูเพื่อสุขภาพ ดูเหมือนลูกกระต่ายที่เคี้ยวหญ้าแห้ง แครอทแก้มตุ่ยๆ อย่างเอร็ดอร่อย เขารู้สึกอิ่มใจอย่างบอกไม่ถูกที่มองร่างเล็กๆ กินข้าว ตัวเองกินก็ยังรู้สึกว่าเจริญอาหารเพิ่มขึ้น




อีกปลายหนึ่งของด้ายแดงHikayelerin yaşadığı yer. Şimdi keşfedin