Chapter11# หัวใจเจ็บป่วย

4 0 0
                                    



ในที่สุด ซีราชิเอลก็ได้ห้องหอพักติดกับไอริชา โชคดีมากที่คนช่าห้องคนก่อนต้องเดินทางไปต่างประเทศ เรื่องการย้ายของ จัดห้องหับก็ไม่ได้ลำบากอะไรเลย เพราะแค่แค่ย้ายจากอีกห้องไปห้องข้างๆ และสัมภาระเขาก็ไม่มีอะไรมากไปกว่าของใช้ส่วนตัว และงาน ไอริชาแทบไม่ต้องช่วยอะไรเขาเลย ที่สำคัญ กิจวัตรของพวกเขาคงเหมือนเดิม คือ มาทำอาหารเช้าทานด้วยกัน และเดินไปเรียนหรือทำงานด้วยกัน และมีบ้างที่ออกไปเที่ยว ทานอาหารด้วยกันในยามช่วงเวลาที่ว่างตรงกัน หรือในวันหยุด ซีราชิเอลรู้สึกสบายใจขึ้นมาในแง่ที่ว่าอย่างน้อยไอริชาก็คงบริสุทธิ์แม้แต่คำครหาให้มีมลทินก็ไม่มีให้ขุ่นเคืองใจเขา ทุกอย่างควรจะเป็นเช่นนี้แต่แรก เขาอยากยกย่องไอริชาในฐานะเด็กผู้หญิงที่มีความเข้มแข็งและน้ำใจที่งดงามซึ่งมากที่สุดเท่าที่เขาเคยพบมาทั้งชีวิต
“อรุณสวัสดิ์ค่ะ” เสียงหวานใสออกมาทักททายเขาเหมือนเคย
“สวัสดีจ้ะ” รอยยิ้มของเธอทำให้เขารู้สึกดีอย่างน่าประหลาด “เรียนเป็นยังไงบ้าง”
“โอเคค่ะ แต่เจอปัญหากับเพื่อนน่ะค่ะ” ไอริชาสีหน้าเหมือนอึดอัดใจที่นึกถึงเรื่องที่จะเล่า “มีคนที่เรียนด้วยในห้อง ทำเหมือนเกลียดหนูยังไงไม่รู้ ทำสายตาเหมือนขยะแหยงหนู แต่บางทีหนูก็รู้สึกมีสายตามาเพ่งเล็ง สายตานั่นถ้าเปลี่ยนเป็นมีดได้ หนูคงเป็นตัวพรุนแน่ๆ เลยค่ะ”
“ทำไมล่ะ”
“ท่าทางเขาคงชอบอาเธอร์เพื่อนหนู อาเธอร์เป็นเพื่อนที่วิเศษสำหรับหนูมากค่ะ และก็เป็นสุภาพบุรุษ มีน้ำใจ เวลาหนูคุยกับเขา มันรู้สึกสบายใจที่ไม่ต้องมาคิดมาก ไม่ต้องระแวงอะไร” เด็กสาวเล่า “ผู้หญิงคนนั้นคงเห็นว่าหนูใกล้อาเธอร์เลยไม่ชอบมั้งคะ อาเธอร์เป็นหนุ่มที่ป๊อปปูล่าร์มากเลยนะคะ”
“เหรอ...”
“ท่าทางจะมีแฟนคลับเยอะมาก เห็นว่ารุ่นพี่บางคนก็ชอบอาเธอร์นะคะ บางทีการจะมีเพื่อนสักคนก็ลำบากมากเลยนะคะ”
หลังจากที่ได้อยู่ด้วยกันมานานสักระยะ เขาได้รู้เรื่องราวที่เกิดขึ้นของเธอทีละน้อย เช่นเรื่องที่เธอมีเพื่อนสนิทน้อยแต่ว่าเป็นเพื่อนรักเพื่อนตายกันทีเดียว มีรุ่นพี่ที่เสมือนเป็นคุณแม่คอยช่วยเหลือ มีเพื่อนที่เป็นผู้ชายหลายคนที่ดูเหมือนพวกเขาเองก็รู้สึกในทางที่ดีกับเธอ แล้วก็มีเรื่องยุ่งย่ามใจ อย่างการที่มีคนหลายคนอิจฉาริษยาไอริชาจนแสดงออกมาในแบบต่างๆ เช่นคนที่แอบชอบอาเธอร์เพื่อนไอริชาที่ว่ามานี้ ไม่ค่อยได้มีโอกาสเห็นคนรอบตัวไอริชามากนัก หากเทียบกับจำนวนคนที่เธอพูดถึง อาเธอร์เคยเห็นพี่สาว น้องของไอริชา เคยเห็นเพื่อนที่สนิทกับไอริชามากที่สุด และก็ ซีราชิเอลรับรู้ถึงความอ่อนล้าในจิตใจของไอริชา เธอต้องเผชิญกับคลื่นพลังในสิ่งแวดล้อม กระแสจิตมนุษย์ทั้งดีไม่ดี หรือแม้แต่เรื่องราวที่เข้ามากระทบโดยตรง ไม่แปลกที่เธอจะรู้สึกแบบนั้น บางที การพาเธอมาในที่สงบๆ สัมผัสกับพลังของธรรมชาติ อย่างการได้อยู่รับสายลมอ่อนโยนบริสุทธิ์ใต้ต้นไม้ สัมผัสคลื่นชีวิตไม้ใหญ่ซึ่งเสมือนเป็นสื่อของสายธารแห่งชีวิต และพักผ่อน มันจะช่วยเธอได้มาก
“วันนี้วันหยุด เราไปที่นั้นกันเถอะ” เขาจูงมือเด็กสาวไป
“เอ๊ะ จะไปไหนเหรอคะ พี่เอล”
สักพัก ทั้งสองก็มาพักที่ใต้ต้นไม้ใหญ่ริมน้ำใสราวกับกระจก สายลมโชยมาแตะร่างทั้งสองอ่อนโยน ทั้งกลิ่นดอกไม้หอมอ่อนๆ ทำให้เด็กสาวรู้สึกผ่อนคลายอย่างบอกไม่ถูก
“ขอบคุณค่ะ”
“ไม่เป็นไรหรอก” ซีราชิเอลรีบหลบหน้าเพื่อไม่ให้ใครเห็นว่าเขาหน้าแดงยามอายเมื่อรับรู้ที่รู้สึกพอใจในรอยยิ้มในความน่ารักของเธอ ทั้งยังจู่ๆ ก็นึกถึงเรื่องคืนที่เขาเผลอก้มจูบ(หน้าผาก) เธอในยามหลับขึ้นมา
“หนูรู้สึกดีอย่างบอกไม่ถูกเลย เหมือนกับตอนนั้น ตอนที่หนูหลับไปก่อนแล้วพี่เอลยังไม่มา หนูรู้สึกเหมือนฝันไป ฝันว่า...” ไอริชาหน้าแดงขึ้นมา “เหมือน....เหมือน...”
“หือ?”
“เหมือนมีใครสักคนโอบกอดหนูไว้ มันอ่อนโยนเหลือเกินค่ะ เหมือนเขาจะปลอบโยนแล้วก็จู...” ไอริชาก้มหน้างุด
“จูบเหรอ?”
ไอริชายิ่งอายเข้าไปใหญ่ เหมือนตัวเองจะแดงทั้งตัวแล้วอย่างนั้น เขารู้สึกเอ็นดูเธอขึ้นมา
“อ๊ะ ไอริชา”
“...?” เจ้าของชื่อหันมาทางต้นเสียง “อ๊ะ อาเธอร์”
ซีราชิเอลพบว่าอาเธอร์เป็นหนุ่มร่างสันทัดโปร่งบาง สูงกว่าไอริชาเล็กน้อย แต่ขาวเหมือนเป็นคุณชายผู้ดี ทั้งยังมีรอยยิ้มสดใสมีลักยิ้ม เหมือนไอดอลนักร้องขวัญใจเด็กสาวหลายๆ คน แต่บอกตามตรงว่าเขารู้สึกไม่ค่อยชอบใจนักที่อาเธอร์เข้ามาในช่วงเวลานี้ ยิ่งพอรู้ว่าอาเธอร์เป็นต้นเหตุที่ทำให้เด็กสาวถูกอิจฉาริษยา ยิ่งรู้สึกอคติเข้าไปใหญ่
“ที่ทำงานพิเศษเป็นยังไงบ้าง”
“ก็งานเยอะขึ้นเรื่อยๆ นะ เขาได้เพิ่มเมนูใหม่ๆ เพื่อให้มีลูกค้าแวะเข้ามาเรื่อยๆ น่ะ” เด็กสาวยิ้ม
“อาเธอร์อยากกินจังข้าวปั้นน่ะ เห็นเขาว่าคนครัวเป็นคนญี่ปุ่นเก่งมาก”
“เป็นคนใจดีมากๆ ด้วยล่ะ”
ซีราชิเอลไม่ชอบใจที่อาเธอร์ทำเหมือนจะสนิทสนมกับไอริชามาก มากจนเกินหน้าเกินตา....

“เดี๋ยวอาเธอร์ไปก่อนนะ ไปหาเพื่อนที่เรียนดนตรีด้วยกันก่อน”
“แล้วเจอกันจ้า”

ซีราชิเอลถอนใจ พยายามระงับความไม่ชอบที่อยู่ข้างในลึกๆ
“เอ่อ?” เด็กสาวไม่รู้จะเอ่ยว่าอย่างไรดี ยิ่งมาเห็นว่าจู่ๆ ซีราชิเอลก็อารมรณ์เสียขึ้นมา ยิ่งตกใจ
“ไม่เป็นไร” เขาพยายามข่มความรู้สึกกดมันลงไป
ไอริชาพลันนึกถึงเรื่องชายหนุ่มที่เธอฝันถึงขึ้นมา เวลาเขาไม่พอใจที่เธอไปเกี่ยวข้องแม้แค่เพียงได้คุย หรือรู้สึกสนใจในใครที่เป็นเพศตรงข้าม เขาจะลงความรู้สึกที่มีกับเธอ กลายเป็นบทที่วาบหวามรุนแรงจนเธอรู้สึกกลัว นึกแบบนี้ เมื่อเทียบกับอารมณ์ของชายหนุ่มในเวลานี้ มันเหมือนกับว่าเป็นคลื่นพลังอารมณ์เดียวกัน ไอริชาถึงได้ใจหาย

ขอโทษนะไอริชา....
ชายหนุ่มถอนใจยาวเมื่อมาถึงที่ห้อง หลังกลับมาจากอยู่พักผ่อนที่สวนจนได้เวลาสมควร ไอริชาไม่ผิด ผิดคือเขาเอง ที่อารมณ์มันรุนแรงจนแม้แต่เขาเองยังควบคุมไม่ได้ ในช่วงเวลานั้น เขาอยากจะเอาเรื่องอาเธอร์มาก และไม่พอใจที่ดึงความสนใจไอริชาไปจากเขา เมื่อนึกได้อย่างนี้ เขามานึกขึ้นได้ว่า
อาการที่เขาเป็นเมื่อครู่นี้มันคืออะไรกันแน่?
ถึงอย่างนั้น เขาก็รู้สึกเห็นใจไอริชา ไอริชาตกใจที่เขาอารมณ์รุนแรง ไม่รู้ว่าตัวเองทำอะไรผิด แต่ก็อุตส่าห์มาขอโทษทั้งที่ไม่มีความผิด เขาเองได้แต่รับคำขอโทษนั้น แล้วขังตัวเองในห้องเงียบๆ เพื่อให้ตัวเองสงบลง
ไม่ ไอริชาไม่ผิด ผิดคือเขา เขาเองที่ควบคุมตัวเองไม่ได้ ควบคุมตัวเองไม่ได้
เพล้ง!!!!
ดวงตาสีทองที่เรืองจ้า ค่อยสงบลง มองดูแก้วใสคอสูงที่ยังไม่ได้รินเครื่องดื่ม แตกไม่เป็นชิ้นดี
เฮ้อ ชายหนุ่มใช้มือก่ายหน้าผาก เอนตัวเองลงกับเตียง พยายามสงบใจอย่างเงียบๆ เพื่อเขาจะได้ใช้ชีวิตปกติ และก็ขอโทษเด็กสาวที่ตกใจกลัวเพราะเขา

ไอริชาตกใจจนทำอะไรไม่ถูก....
แม้ว่าเขาจะไม่ได้ทำอะไรไอริชาเลย แต่กระแสจิตคลื่นรังสีที่มาจากเขามันก็น่ากลัวเสียเหลือเกิน จนเธอรู้สึกได้ว่าเขาไม่พอใจรุนแรงแค่ไหน มันบรรยากาศเป็นถ้อยคำภาษาได้ยากเย็นจนแทบจะเรียกว่านิยามพรรณนามันไม่ถูก เหมือนมีพลังบางอย่างออกมาจากตัวเขากดดันเธออย่างไรอย่างนั้น เป็นครั้งแรกที่เห็นซีราชิเอลอารมณ์รุนแรงขนาดนี้ เขาโกรธเราเหรอ ไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น ไม่รู้ว่าตัวเองผิดอะไร รู้สึกไม่ดีเลย ที่เห็นพี่เอลเป็นแบบนี้ ถึงจะขอโทษไปแล้ว แต่ท่าทางเขาจะยังไม่พอใจอยู่ดี อยากให้เขากลับมาเป็นเหมือนเดิม....

ไอริชาไม่รู้จะทำอย่างไร เมื่อมองดูเวลา แล้วพิจารณาดู บางที เราควรจะรอเวลาให้ซีราชิเอลสงบใจสักพัก ถึงตอนนั้นเธอค่อยไปหาจะดีกว่า ถ้าไปในช่วงนี้คงดูไม่ดีเท่าไหร่นัก ว่าแต่ช่วงเวลาที่รอตอนนี้ น่าจะดูอะไรไปก่อน ไอริชาหันไปเจอแผ่นดีซีดีซึ่งเป็นหนังที่คนรู้จักแนะนำให้ดู ถ้าดูเรื่องนี้เสร็จ พี่เอลคงจะอารมณ์เย็นแล้ว เราก็ไปหาพี่เอลละกัน ไอริชาไม่รู้ว่าช่วงเวลาที่ดูมันยาวนานเท่าไหร่แล้ว แต่ว่าเนื้อหาหนังมันซับซ้อนดูยากทั้งยังต้องใช้ความคิด มีเนื้อหารุนแรงบ้าง เธอดูหนังเรื่องไปได้รอบที่สอง เธอก็หลับไป
....เอ๊ะ?
เด็กตื่นขึ้นมาเห็นว่าเป็นห้องตัวเอง มองดูเวลาก็เห็นว่ามันเลยเวลาไปมากกว่าที่คาดไว้ ไม่รอช้า ร่างบอบบางจึงเดินไปที่หน้าห้องชายหนุ่ม เคาะประตูส่งสัญญาณไป
“พี่เอล หนูเองนะคะ หนูขอโทษนะคะ”
ในที่สุดประตูก็เปิดออกมา
“อ๊ะ ไอริชา เข้ามาก่อนสิ” ชายหนุ่มกลับมาอ่อนโยน สงบนุ่มนวลเหมือนเดิมอีกครั้งแล้ว
“ดีจัง พี่เอล หนูขอโทษนะคะ พี่เอลโกรธหนูอยู่หรือเปล่า”
“ไม่หรอก พี่จะโกรธได้ไง ในเมื่อตัวเล็กไม่ได้ทำอะไรผิดเลยนะ” เขาลูบศีรษะเอ็นดู จากนั้นก็จูงมือเธอ “มา เข้ามาก่อนสิ จะชงโกโก้ให้”
ดีจังเลย พี่เอล ไม่โกรธเราแล้ว
เด็กสาวรู้สึกโล่งใจเป็นที่สุด
ชายหนุ่มเสิร์ฟโกโก้ขึ้นมาสองแก้วที่เป็นแก้วกระเบื้องสีสวยเข้าชุดกับจานรองแก้วเหมือนทั้งคู่ วางบนโต๊ะไม้สีอ่อน ซีราชิเอลวางขนมจานโปรดให้ไอริชาด้วย เด็กน้อยนั่งกินอย่างเอร็ดอร่อย รู้สึกดีใจที่สุด
“พี่ขอโทษนะที่ทำให้ตัวเล็กตกใจ ตอนนั้นพี่ไม่ชอบที่เพื่อนตัวเล็กมาขัดจังหวะ แล้วพี่เป็นคนอารมณ์รุนแรงแบบนี้เอง ขอโทษจริงๆ นะ”
“ไม่เป็นไรค่ะ” เด็กน้อยยิ้ม “อาเธอร์ก็ไม่มีอะไรหรอกค่ะ แค่อยากทักทายหนู”
“ถ้าเป็นแค่นั้น ก็ดีแล้ว” ชายหนุ่มเอ่ยน้ำเสียงแผ่วเบาวาบหวาม “พี่ค่อยสบายใจหน่อยที่ตัวเองได้อยู่กับตัวเล็กแบบนี้”
“เอ๊ะ?”
“ว่าแต่ ตัวเล็ก เชื่อมั่นในอะไรที่สุด ณ เวลานี้?”
“หนูเชื่อ...ในตัวคนสำคัญของหนูค่ะ” เด็กสาวตอบทั้งหน้าแดง “เขาเป็นความหมายของการมีชีวิตอยู่และเป็นความหวังของหนู”
“เชื่อในตัวเขาแค่ไหนเหรอ?” ดวงตาสีทองอำพันนั้นหรี่ปรือ แลดูเจ้าเล่ห์เย้ายวนอย่างร้ายกาจ “เชื่อว่าเขาจะมาช่วยตัวเล็กได้มั้ย”
“อ๊ะ”
ตุบ!!! แก้วใบงามที่มีโกโก้ร้อนครึ่งแก้วได้หล่นวูบลงบนพรมหนานุ่ม ทำเอาพรมสีสวยนั้นเลอะไปด้วยสีโกโก้เข้มๆ นั้น หากแต่ร่างบางนั้นรู้สึกใจหวิวๆ จนไม่มีแรงล้มลงไปทรุดกับโซฟา ร่างกายพลันร้อนรุ่มไปหมด เหมือนร่างกายไม่ใช่ร่างกายของตัวเองอีกต่อไป เหมือนกระสับกระส่าย ปรารถนาอะไรบางอย่างมาบำบัด มาช่วยดับความร้อน ความทรมานแสนวาบหวามนี้เสียที
“พ...พี่เอล”
“พี่รู้สึกไม่ดีเลยที่ตัวเล็กตกใจกลัวพี่ขนาดนี้ ” เขายิ้มเจ้าเร้นเล่ห์ “พี่เลยคิดว่า เราน่าจะมาสนิทสนมลึกซึ้งกันหน่อยมั้ย”
“พี่เอล... จะ....ทำ....อะไร?”
“เดี๋ยวก็รู้จ้ะ นิ่งๆ นะเด็กดี”ชายหนุ่มประคองร่างเธอไว้ก่อนซอกซอนลำคอ หอมจูบเม้มเน้นๆ ที่ลำคอนั้น ลูบไล้เรือนร่างนั้นอย่างทนุถนอม ร่างบางสะดุ้งเฮือก พยายามดิ้นสุดชีวิตทั้งอ่อนแรงระโหย เป็นภาพที่ให้ความรู้สึกดั่งกระต่ายตัวน้อยโดนหมาป่าตัวใหญ่ขย้ำกลืนกิน
“ไม่ อย่า พี่เอล”  
ไม่นะ พี่เอล หนูกลัวแล้ว หนูกลัว.....ช่วยด้วย!!!!!!!!!!!!
เฮือก!!!!!
“....!?” ไอริชาตื่นขึ้นมาพบความจริง คือ ตัวเองเผลอหลับไปในระหว่างกลางเรื่องของหนัง และตื่นขึ้นมาอีกที แม้แต่เครดิต รายละเอียดของหนังท้ายเนื้อหาก็ยังดูไม่ทัน
นี่เราหลับไปนานขนาดนั้นเลยเหรอ?
เด็กสาวมองไปดูนาฬิกาพบว่าค่ำมากแล้ว ในฝันเวลาดึกกว่าความเป็นจริงไปประมาณสองชั่วโมง เธอเริ่มรู้สึกลังเลที่จะไปหาซีราชิเอล ทำไมความเป็นจริงตอนนี้กับความฝันเมื่อครู่นั้น มันเหมือนกันได้อย่างนี้นะ ไอริชาตัวสั่นโดยไม่รู้ตัว พยายามบอกกับตัวเองว่าเมื่อครู่นี้ ยังไงก็แค่ความฝัน มันไม่ใช่เรื่องจริง และฝืนบังคับตัวเองก้าวไปหาชายหนุ่มในที่สุด เมื่อมาถึงหน้าประตู มือที่จะยืนมาเคาะนั้นก็พาลสั่นเอาดื้อๆ เหมือนไม่มีแรงเลย อยากจะหนีสุดฝีเท้า ทั้งที่ มันไม่น่าจะมีอะไรไม่ใช่เหรอ...?
“พี่...พี่เอล”
ซีราชิเอลเปิดประตูต้อนรับ เขาเห็นแล้วรู้สึกดีใจเป็นที่สุด นึกว่าเธอจะไม่มาหาเขาแล้ว
“เข้ามาข้างในก่อนไหม ตัวเล็ก” เขายิ้มอย่างยินดี
เหมือนกันเลย ในฝันเขาก็ชวนเราเข้าห้อง
“เข้ามาก่อนนะ เดี๋ยวชงอะไรให้” ว่าแล้วเขาก็จูงมือเธอเข้าไป
เฮือก!? ร่างเล็กๆ สะดุ้งสุดตัว

ชายหนุ่มไม่ได้เอะใจเลยว่าอีกฝ่ายกำลังรู้สึกอะไรยังไงกับตัวเอง เขากุลีกุจอชงชาดอกไม้กลิ่นหอมอ่อนๆ ให้ และชงพอจางๆ เพราะเห็นว่าเวลานี้ใกล้เวลาเข้านอนของเธอแล้ว ทั้งเตรียมขนมไว้ให้ เอลรู้สึกดีใจที่สุด ดีใจจัง ตัวเล็กก็ไม่ได้เกลียดกลัวเราอย่างที่คิดใช่มั้ย เขาถามตัวเองในใจ ส่วนขณะที่ไอริชาเห็นว่าที่เขาชงให้ไม่ใช่โกโก้ก็รู้สึกโล่งใจอย่างบอกไม่ถูก แต่ว่านอกจากโกโก้แล้ว ทุกอย่างมันก็เหมือนเดินไปตามที่เธอฝันเห็นไม่ใช่เหรอ
“พี่เอล หนูขอโทษนะคะ หนูไม่รู้ทำอะไรผิด แต่ว่า พี่เอลยังโกรธหนูหรือเปล่า”
“พูดอะไรอย่างนั้น” ซีราชิเอลตาโตขึ้นมาอย่างตกใจ “ตัวเล็กไม่ได้ทำอะไรผิดสักหน่อย พี่จะโกรธตัวเล็กทำไม”
เหมือนกัน ในความฝัน เขาก็พูดทำนองนี้ ไอริชารู้สึกเย็นหนาวเยือก เสียวหลังวาบอย่างบอกไม่ถูก (ถึงในฝันจะแลดูกรุ้มกริ่มเจ้าเล่ห์ ไม่ใช่แบบนี้ที่เจอจริงๆ ตอนนี้ก็เถอะ)
“วันนี้ เราคุยกันดีกว่า” เขาสีหน้าไม่สบายใจ เมื่อไอริชาเหมือนกลัวเขา “ทำไมคิดว่าพี่โกรธหนูล่ะ พี่ต่างหากล่ะที่ต้องกลัวว่าตัวเล็กจะเกลียดกลัว”
.... เด็กสาวรู้สึกกระอัดกระอ่วนใจ
“ว่าแต่ ตัวเล็ก.... ”
เฮือก!!! ภาพที่เห็นราวกับภาพของที่ฝันเมื่อครู่นี้ ซีราชิเอลเดินเข้ามา แล้วมานั่งข้างๆ เธอ แล้วเธอก็จะจิบเครื่องเครื่องดื่ม เด็กสาวตกใจลุกขึ้นหนีกลับห้องอย่างรวดเร็ว
“ตัวเล็ก!?”

ชายหนุ่มรู้สึกเจ็บหัวใจลึกๆ เมื่อเห็นเธอตกใจวิ่งหนีเขาไป ไม่จิบชาที่ชงให้เลย นี่เขาทำให้เธอกลัวได้ขนาดนี้เลยเหรอ พอนึกแบบนี้ ร่างกายพลันรู้สึกหนาววูบขึ้นมา นี่เรา.... เราใส่ใจไอริชาขนาดนี้เลยเหรอ เขาเฝ้าถามตัวเอง นับแต่ที่เขามีชีวิตขึ้นมาจนถึงตอนนี้ ไม่มีใครที่เขาจะรู้สึกอยากทนุถนอมได้เท่าไอริชาอีกแล้ว แม้แต่วีนัสผู้เป็นคนรักเก่าของเขา เขาก็ไม่เคยจะทำอะไรขนาดนี้มาก่อน ชายหนุ่มนึกขึ้นมาหัวใจเขาก็ชาวาบเหมือนถูกโยนลงมาหล่นวูบ เขาถอนใจยาว เดินไปที่ห้องไอริชา เคาะประตู ก่อนจะเอ่ยอะไรบางอย่างหน้าห้อง
“ตัวเล็ก พี่ขอโทษนะ ที่ทำให้ตัวเล็กตกใจกลัว แต่ว่าพี่ไม่เคยคิดโกรธเกลียดอะไรตัวเล็กนะ ตัวเล็กเกลียดพี่หรือเปล่า? ตัวเล็กมีอะไรบอกพี่ได้นะ”
ไอริชาได้ยิน แต่ว่า เธอไม่กล้าออกไปเปิดรับ
“ราตรีสวัสดิ์นะ แล้วเจอกันใหม่” น้ำเสียงเขาดูเศร้าสร้อยเหลือเกิน “พรุ่งนี้ ตัวเล็กกินข้าวออกไปก่อน ไม่ต้องรอพี่นะ พี่คงอยู่งานไม่อยู่ห้องสองวัน”
ไอริชาใจหาย แล้วชายหนุ่มก็เดินกลับห้องไป

พอออกมาก็พบว่าพี่เอลได้ออกไปแล้ว เห็นจากความเงียบวังเวง และรองเท้าหนังหน้าห้องที่วางไว้ที่ชั้นหายไป และเปิดกล่องรับข้อความทิ้งไว้
พี่เอล.... หนูขอโทษ....
เพราะเราระแวงพี่เอลเกินไป พี่เอลถึงได้เสียความรู้สึก ทำไมเราถึงเป็นคนแบบนี้นะ ทั้งที่พี่เอลไม่เคยทำร้ายเราเลย ทุกอย่างพี่เอลมีแต่ให้เราตลอด แต่เราสิ ตอบแทนเขาด้วยความหวาดระแวงเหรอ ถึงพี่เอลจะเป็นคนนอก เป็นคนที่เพิ่งรู้จักกันไม่นาน แต่เขาก็เป็นคนดีนะ ทำไมเราทำลายน้ำใจพี่เอลขนาดนี้นะ
คืนนั้นเป็นคืนที่ไอริชารู้สึกเครียดจนนอนไม่หลับในรอบหลายเดือนที่ผ่านมา รู้สึกกังวลอย่างบอกไม่ถูก ถึงจะหลับ ก็เหมือนไม่ได้พักผ่อนอยู่ดี ไอริชาถึงได้ไปทำงานทั้งที่สลึมสลือ ทำงานพลาดจนคนรอบข้างผิดสังเกต
“ตั้งใจหน่อยสิ ไอจัง”
“ขอโทษค่ะ” เด็กสาวเสียงอ่อย
เจ้าของร้านหนุ่มแปลกใจที่เด็กสาวตั้งใจทำงาน ไม่มีอะไรให้ผิดพลาดหรือต้องกังวลใจ เหมือนเธอนอนไม่พอ โดนใช้งานมาหนัก ก่อนมาทำงานที่นี่งั้นล่ะ
“ถ้าไม่สบาย ก็ลาไปเถอะ เอาสังขารแบบนี้มาทำงาน ข้าวของเสียหายเปล่าๆ” ถึงจะพูดแบบนี้ แต่ใครก็รู้ว่ามาสเตอร์เป็นห่วง แต่แค่ใช้คำพูดที่นุ่มนวลไม่เป็น สังเกตจากสีหน้าที่เป็นห่วงเป็นใย “นี่ เป็นโรคอะไรมารึเปล่า ไปหาหมอมั้ย”
“ไม่เป็นไรค่ะ” เธอตอบทั้งงัวเงีย
กลับมาก็เห็นว่า ห้องข้างๆ เจ้าของก็ยังไม่กลับมา ไอริชาถอนใจยาว นี่เธอต้องรออีกวันสองวัน เขาถึงจะกลับมาใช่มั้ย ถ้าเขาไม่กลับมาล่ะ? เด็กสาวรู้สึกไม่สบายใจ เธอเดินเข้าห้องตัวเอง ก่อนจะทำธุระส่วนตัว เข้านอนไป
....
ภายในห้องเด็กสาว ระหว่างที่เธอหลับอยู่นั้น เหมือนมีอีกคนกำลังยืนเฝ้ามองเธออยู่... น่าแปลก เธอกลับไม่รู้สึกกลัวสักนิด ทั้งที่ใครเข้ามาในห้องเวลาแบบนี้ ตอนนี้ เป็นเรื่องดีที่ไหนกัน ร่างสูงบึกบึนแบบนี้ มันคุ้นเคยอย่างน่าประหลาด ไอริชาในสภาพกึ่งหลับกึ่งตื่นพยายามปรือตาลืมขึ้นแล้วลุกขึ้น ปรากฏว่า ในห้องก็ไม่มีใครนอกจากเธอ หรือว่าเมื่อครู่นี้เราฝันไปนะ? ร่างบอบบางเอนตัวลงนอนหลับไป สักพักใหญ่ ร่างสูงสง่าที่เธอสงสัยนั้นก็ได้มาอยู่ข้างเตียงก้มลงมา จนผมที่ยาวตรงยาวของเขาเลื่อนลงมาปรกโดนมือเรียวสวยของเธอ
“ฝันดีนะ”
นั่น เสียงพี่เอลนี่นา
“พี่เอล...” เด็กสาวลุกขึ้นพรวด มองไปรอบๆ ห้อง ก็ไม่เห็นใครเลย
นี่มันเรื่องอะไรกันน่ะ?

ไอริชายังคงตื่นขึ้นมาแต่เช้าเพื่อมาเรียนและก็ทำงานพิเศษตามปกติเฉกเช่นทุกวัน และช่วงสามสี่วันมาหลังๆมานี้พอก่อนจะออกจากห้องหรือเข้าห้องเธออดใจหันไปมองห้องข้างๆ ไม่ได้เลย ความจริงเขาควรจะกลับมาตั้งแต่เมื่อวานซืนแล้วแล้ว นี่ผ่านไปวันที่สามวันที่สี่ ซีราชิเอลก็ยังไม่กลับมานี่สิ
เกิดอะไรขึ้นกันนะ?
ไอริชารู้สึกกังวลใจอย่างบอกไม่ถูก มันไม่ดีเลย ที่เธอทำร้ายจิตใจเขา และถ้าเธอไม่ได้ไถ่โทษที่ทำลงไป ตราบาปคงจะหนักอึ้งกับเธอคนนี้ไปชั่วชีวิตแน่ๆ แต่ถึงอย่างนั้น ก็หมดปัญญาจะไปตามหาซีราชิเอลเสียด้วย เขาเป็นคนที่ไม่ค่อยเปิดเผยข้อมูลอะไร เธอรู้แต่สิ่งที่เขาบอกให้เธอเท่านั้นเอง นอกนั้นดูเหมือนว่าจะเดาไม่ออกเลยว่าจริงๆ จะอะไรยังไงกันแน่ ร่างเล็กๆ ในชุดนอนเดินไปที่เตียง นั่งลงกับฟูกอ่อนนุ่มซึ่งมีผ้าปูสากสะอาดจากการเพิ่งเปลี่ยนใหม่ ก่อนจะลงไปนอนครุ่นคิดถึงเรื่องราวของซีราชิเอล
ขอให้พี่เอลกลับมา หนูอยากขอโทษ....
อยากให้พี่เอลหันมามีความสุข อยากเห็นรอยยิ้มพี่เอลอีกสักครั้ง ไม่ค่อยได้เห็นพี่เอลยิ้มเลย ตั้งที่รู้จักพี่เอลมานาน พี่เอลยิ้มออกแค่สองสามครั้งเองมั้ง พี่เอลเหมือนคนที่เก็บซ่อนความเจ็บปวดไว้ในใจไม่ยอมจะเปิดเผยให้ใครได้รู้ แม้จะไม่ได้ทำทีร่าเริงเพื่อกลบเกลื่อน แต่เขาทำเหมือนกับว่าไม่รู้สึกรู้สาอะไร แม้ลึกๆ เขาทรมานแทบขาดใจก็ตาม พี่เอลเป็นคนแบบนี้ แบบเดียวกับท่านพี่นี่แหละ เด็กสาวมั่นใจ
พี่เอล...อย่าโกรธหนูเลยนะ อย่าเสียใจเลยนะคะ หนูขอโทษจริงๆ ยกโทษให้หนูเถอะนะคะ
ไอริชาคิดถึงเรื่องที่อยากจะขอโทษจนกระทั่งหลับไปด้วยความอ่อนล้า....

รุ่งเช้าฟ้าไม่ทันสางดี....
เสียงโทรศัพท์มือถือก็ดังขึ้นมาเสียเฉยๆ โดยปกติแล้ว เธอจะให้เพลงสายเรียกเข้าคนในครอบครัวเพลงหนึ่ง ซีราชิเอลซึ่งแทบไม่ติดต่อกันเลยเป็นอีกเพลงหนึ่ง และเพื่อนสนิทของไอริชาแต่ละคนก็จะมีเพลงสายเรียกเข้าไม่เหมือนกัน  ถ้าเป็นสายที่ไม่รู้จักหรือคนรู้สักที่ไม่ค่อยได้ติดต่อกันนักเธอเธอจะตั้งเป็นเพลงสายเรียกทั่วไปเป็นเพลงเดียวกัน โทรศัพท์ดังตอนนี้ ถ้าเป็นคนอื่นโทรเข้าอาจจะไม่ค่อยรู้สึกอะไรหรอก แต่นี่
เพลงสายเรียกเข้า.....ที่ตั้งให้สำหรับเบอร์โทรศัพท์คุณเฟย์ เซฟิรอธมันดังน่ะสิ
เฮือก!!!!
ไม่รีบรับ ชีวิตอาจหาไม่....
“ส....สวัสดีค่ะ” หายง่วงก็คราวนี้ ไอริชาสะดุ้งโหยงตัวลอยเด้งมารับสายทันที
“เจ้าเจี๊ยบจิ๋ว ฉันรู้นะว่าวันนี้เธอไม่มีงาน และตอนนี้เธอก็หลับอยู่” คุณเฟย์คงน้ำเสียงเข้มเด็ดขาดอย่างเคย “แต่เธอต้องรีบแต่งตัว ลงมาหาฉันที่หน้าหอเดี๋ยวนี้ ถ้าเธอแต่งตัวไม่เป็นที่พอใจของฉัน ฉันจะฉีกเสื้อเธอทั้งอย่างนั้นล่ะ ถ้าไม่รีบลงมาล่ะก็...”
พรวด!!!!!!!!!!!!!!!! ไอริชารีบเข้าห้องน้ำอย่างไม่คิดชีวิต
ประมาณสี่สิบนาทีเด็กสาวก็ลงมาในชุดกระโปรงชายลูกไม้ระบายสีสวยซึ่งตัวกระโปรงสั่นเพียงเหนือเข่าเล็กน้อย น่ารักสุภาพเรียบร้อย พร้อมใส่ถุงน่องสีเนื้อเนียนเรียบเข้ากับรองเท้ามีส้นนิดหน่อยสีเข้มเข้ารับกัน
“มาช้า!!!!” แต่เขาพึงพอใจไม่น้อยที่ได้เห็นไอริชาน่ารักแบบนี้
“ข....ขอโทษค่ะ” คนนี้ มีแต่เรื่องเซอร์ไพรส์จริงๆ “ว่าแต่คุณเฟย์มีอะไรรึเปล่าคะ?”
“ต้องให้ผมมีธุระกับเธอเท่านั้นรึไง ถึงจะมาได้?” เขาเสียงดุอีกแล้ว
“ม...ไม่ใช่นะคะ” ไอริชาใจฝ่อ ยิ่งกว่าขวัญหนีดีฝ่ออีก
ชายหนุ่มหน้ามุ่ย ดวงตาหงส์หรี่มองดูเหมือนครุ่นคิดอะไรบางอย่าง ก่อนคว้าข้อมือเธอเดินออกไป โดยไม่ถามอีกฝ่ายก่อน ไอริชาตกใจพยายามจะรั้งอีกฝ่ายด้วยคำพูด
“จะ....จะไปไหนคะ คุณเฟย์”
“เดี๋ยวก็รู้น่า”
เอ๊ะ!?

หนุ่มสกุลเซฟิรอธดึงร่างเล็กๆ ขึ้นมาที่รถสีดำเข้มคันหรูหราของตัวเอง ก่อนขึ้นขับแล่นออกไป เหยียบคันเร่งเต็มที่ จนร่างบอบบางนั้นยึดเกาะเบาะแน่น สักพัก เขาก็หยุดเหยียบอย่างช้าๆ นิ่มนวล ไอริชารู้สึกว่า เป็นครั้งแรกที่นั่งรถรู้สึกทรมานเป็นที่สุดในรอบสองเดือนที่ผ่านมา
“ค....คุณเฟย์”
“จะกินอะไร?” เขาพาเธอมานั่งเสร็จ ตัวเขาเองก็นั่งตรงข้ามสีหน้าปกติในแบบของเขาถามขึ้นมา
“....?” ไอริชาแปลกใจที่เขาพามากินข้าว
“สั่งสิ” เสียงเข้มดุอีกแล้ว
“เอ่อ ค่ะ ขอโทษค่ะ”
“เธอน่าจะคุ้นเคยกับผมได้แล้วรู้มั้ย” เฟย์ทำน้ำเสียงระอา ก่อนจับคางเธอขึ้นเชิดเล็กน้อย ดวงตาหงส์ก็จ้องไม่กะพริบแม้แต่น้อย “ทีอยู่กับไอ้เสือหิว ไม่เห็นจะทำท่ากลัวๆ แบบนี้เลย”
“เอ๊ะ?”
“เธอต้องชดใช้ไถ่โทษกับผม”
ไถ่โทษข้อหาอะไรกัน?
“ฐานที่มีคนอื่น”
เห? ดวงตากลมคมโตสีเข้มล้ำลึกเป็นประกายโตขึ้นมาอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ ด...เดี๋ยวก่อนตอนนี้หนูกับคุณเฟย์เป็นอะไรกันเหรอ
“เธอต้องอยู่กับผม เข้าใจมั้ย เจ้าเจี๊ยบจิ๋ว” ว่าแล้ว เฟย์ก็ถือเมนูพลิกเปิดเตรียมสั่งรายการอาหารต่อไป
ไม่เข้าใจว่า คุณเฟย์คิดอะไรอยู่ แต่แบบนี้ มันแปลกๆ ไม่ใช่เหรอ ข้อหาก็แปลกประหลาดอยู่แล้ว บทลงโทษยิ่งแปลกประหลาดยิ่งกว่า แล้ว...เธอต้องอยู่กับเขาอะไรยังไงถึงแค่ไหนกัน เด็กสาวคาดเดาอนาคตที่จะเกิดขึ้นไม่ได้เลย สักพัก รายการอาหารถูกเสิร์ฟขึ้นมาทีละอย่างทีละอย่าง จนเต็ม ไอริชาตกใจกับอาหารมื้อแรกของวัน
“กินซะ” เขาสั่ง
“เอ่อ....”
“แล้ว...” หนุ่มชุดสูทสีดำเข้มยื่นตัวโน้มเข้ามาอีกฝ่าย “นี่เป็นจุดเริ่มต้นของบทไถ่โทษ ป้อนผมหน่อยสิ”
หา? เด็กสาวงุนงงกับคำพูดของเขามาก
“หรือว่าอยากจะโดนขย้ำ?” เขาเริ่มสีหน้าหงุดหงิด
“เอ่อ คุณเฟย์เดี๋ยวหนูจะป้อนให้นะคะ” นี่มันปิดประตูตีแมวชัดๆ แมวน้อยที่ชื่อไอริชาอยากจะร้องไห้เสียเต็มประดา
ชายหนุ่มยิ้มเร้นเล่ห์ ก่อนจะเผยอริมฝีปากรออีกฝ่ายค่อยๆ ประคองช้อนที่ตักข้าวกับไข่ตุ๋นมาอย่างระมัดระวัง จนกระทั่งถึงปากของชายหนุ่ม ส่วนเขาก็จดจ่อกับการที่รับการป้อนของเธอ ทั้งยังจับจ้องมองใบหน้าเนียนใสไร้เดียงสาดวงตาใสแป๋วนั้น เธอคอยตักป้อนอาหารให้เขาตามคำสั่งอย่างอดทนและใจเย็น สักพัก
“เอ้า กินสิ” เขาให้เธอหยุดป้อนเขาแล้วมากินส่วนของตัวเองได้แล้ว
“เอ่อค่ะ” อีกฝ่ายไม่เข้าใจว่าทำไมถึงได้มีบทลงโทษที่เอาแต่ใจแบบนี้กันนะ ทว่าได้เพียงแค่บ่นในใจเท่านั้น ระหว่างที่ก้มหน้ากินมื้อเช้าของตัวเองงุดๆ ซึ่งไม่ได้สังเกตเลยว่าชายหนุ่มที่อยู่นั่งตรงข้ามกับเธอกำลังเฝ้ามองเธออย่างสนอกสนใจ เหมือนเจ้าของเฝ้ามองดูสัตว์เลี้ยงกินอาหารแก้มตุ่ยๆ น่ารักอย่างเอร็ดอร่อย
“คุณเฟย์.... คือหนูจะขออนุญาต....ถามได้มั้ยคะ ........... จริงๆ แล้ว หนูผิดอะไรเหรอคะ?”
“ช่างมันเถอะ ฉันแค่อยากทำ มันน่าหมั่นไส้เจ้าเสือหิวนั่น แค่นึกแล้วอารมณ์เสีย แต่อารมณ์เสียยิ่งกว่าที่เธอได้อยู่กับหมอนั่น”
คุณเฟย์ไม่ชอบพี่เอล?
“ถ้าเธอพูดถึงหมอนั่นแม้แต่คำเดียว ฉันจะขย้ำเธอ เข้าใจมั้ย”
“ค...ค่ะ”
“อยากกินอะไรอีกมั้ย”
“เอ่อ ไม่ล่ะค่ะ ขอบคุณมากค่ะ”
เฟย์จ่ายเลี้ยงให้ไอริชาทั้งหมด เด็กสาวรู้สึกว่ามื้อเช้านี้มันแพงที่สุดเท่าที่เคยกินมา แถมจู่ๆ เขาก็จ่ายเลี้ยงโดยไม่คิดอะไรแบบนี้ รู้สึกเหวงๆ แปลกๆ ทั้งที่ มันก็ดีหรอก อิ่มอร่อยจังตังค์อยู่ครบเนี่ย แต่ว่ามันติดหนี้บุญคุณกันน่ะสิ จากนี้ ชายหนุ่มก็พาเธอขึ้นรถซื้อของที่ห้างหรูดังๆ
“อยากได้อะไรก็บอก ฉันจ่ายให้”
ค....คุณเฟย์ คุณเฟย์คะ มันแพงมากเลยนะคะ เด็กสาวไม่กล้าหยิบของแม้แต่ชิ้นเดียว ถึงสินค้าหรือบริการมันจะดีเลิศเลอเพียงใด แต่เมื่อราคาสินค้ามันเหมือนรหัสสินค้าซะมากกว่าดูมีตัวเลขหลายหลักเกินกระเป๋าตัวเองแบบนี้ แถมก่อนหน้านี้ก็ไปกินมื้อหรูมา ยังไงมันเหมือนก็แปลกๆ ไม่คุ้นอยู่ดี ส่วนชายหนุ่มรู้สึกหัวเสียอย่างบอกไม่ถูก
“ผมพาเธอมาซื้อของนะ ไม่ใช่พามาเชือด”
เฮือก!?
“ไม่คิดจะอยากได้อะไรรึไง” เฟย์รู้สึกว่าเธอช่างเป็นเด็กที่ประหลาดดีจริงๆ นะ
“คือ ความจริงหนูชอบนะคะ แต่ว่า...”
เฟย์กวาดนิ้วมายังเสื้อผ้าน่ารักๆ สวยๆ ทั้งตู้ หันไปทางพนักงาน แล้วชี้มายังไอริชา “ทั้งหมดนี่แหละ เอาให้พอดีกับเธอคนนี้ด้วย”
หา? เหมาหมดเลยเหรอคะ!?
“ค.....คุณเฟย์”
“ก็เธอไม่เลือก ผมไม่รู้ว่าเธอถูกใจอันไหนน่ะสิ”
“แต่เยอะขนาดนี้ หนูใส่ไม่หมดหรอกค่ะ”
“ใส่วันละชุดก็ครบเองนั่นแหละน่า แล้วใส่ให้ผมเห็นด้วย รู้ใช่มั้ยขัดใจผม จะเป็นยังไง?”
โธ่ นี่เราต้องซื้อย่างน้อยร้านละชิ้นรึเปล่านะ ไอริชาหน้าซีด

สินค้าทั้งหมดจะถูกไปยังที่อยู่ห้องพักของไอริชา แน่นอนว่า ความจริงไอริชาไม่อยากให้มีของมาส่งที่ห้องกองมหึมาให้เป็นที่สะดุดตาหรอก นึกไม่ถึงนี่นาว่าจะมีใครในโลกทำอะไรแบบนี้ได้ด้วย แถมทำเหมือนเป็นเรื่องปกติอย่างนั้นล่ะ เป็นผู้ชายที่คาดเดาความคิดไม่ออกเลยนะ
 
 




อีกปลายหนึ่งของด้ายแดงحيث تعيش القصص. اكتشف الآن