Chapter#10 ช่องว่าง

4 0 0
                                    



การหลับของเขาเป็นการหลับที่เต็มไปด้วยความกังวลและความไม่สบายใจ เหมือนความผิดทุกอย่างมันเริ่มต้นมาจากเขา ไม่ได้การแล้ว บางที เขาควรจะย้ายออกไป อย่าให้ใครได้มาครหาสงสัยในความบริสุทธิ์ของไอริชาเลย ให้เขาแปดเปื้อนคนเดียวก็พอแล้ว ไอริชาควรจะเหมาะสมกับคนที่ดีกว่า และไม่น่าจะเป็นคนอย่างเขา... ไม่น่าเป็นแบบนั้นแน่ การรีบหยุดตั้งแต่ตรงนี้ คงดีที่สุด
รีบหยุดก่อนที่เขาจะไม่สามารถห้ามใจตัวเองได้ และหยุดไว้ก่อนที่ทุกอย่างจะสายไป.....

ไม่นานไอริชาก็หายดีแล้ว....
เพราะการที่ซีราชิเอลคอยดูแล และการรักษาที่เหมาะสมของทางโรงพยาบาล อีกทั้งร่างกายไม่ได้เป็นอะไรมาก ไอริชาก็กลับมาแข็งแรงและเรียนตามปกติได้ในเร็ววัน แม้ว่าจะลาป่วย ตามเพื่อนไม่ทันบ้าง แต่ว่าด้วยความพยายาม เธอก็ยังสามารถพอทำข้อสอบเก็บคะแนนย่อยได้ จนลืมนึกไปว่าได้สังเกตถึงความคิดบางอย่างและท่าทีที่ผิดไปของชายหนุ่ม ส่วนซีราชิเอลก็พยายามมุ่งมั่นกับงานพร้อมกับลองเก็บข้อมูลเพื่อหาห้องพักใหม่ บางที นั่นอาจเป็นวิธีการที่ดีกว่าก็ได้ ชายหนุ่มคิดแบบนั้น เพราะว่าเขาอันตรายสำหรับไอริชานี่เอง แล้วไม่รู้ว่านั่นเป็นการดีหรือร้ายที่ไอริชายไม่ได้รู้สึกในส่วนนั้นเลย คงดีแล้วที่เธอไม่รู้ แล้วเขาก็สบายใจที่เธอยังไม่รู้ก็คงไม่ได้รังเกียจเขา แต่ถ้าเธอรับรู้ ก็คงดี ให้เธอได้แสดงออกไปเลยนึกคิดอย่างไร มันทำให้เขารู้ตัวและรู้ในสิ่งที่เหมาะสมที่จะทำในอนาคตต่อจากนี้ไป
“พี่เอล หนูได้กระดาษข้อสอบคืนมาล่ะค่ะ” ไอริชากลับมาพร้อมโชว์กระดาษสีนวลสองสามแผ่นให้ดูตัวเลขสีแดงๆ บนหัวกระดาษ
“สอบยากมั้ย” เขาถาม
“ไม่เท่าไหร่ค่ะ ได้เกือบเต็มเลย พี่เอล” เธอยื่นให้เขาดู
“เด็กดี เก่งจ้ะ” เขาลูบศีรษะไอริชาอย่างอ่อนโยน ซึ่งเด็กสาวรู้สึกดีที่เขาทำแบบนั้น มันเหมือนกับว่าได้รับความเอ็นดู ได้รับความเอาใจใส่จริงๆ เหมือนกับว่าได้เข้าใกล้เซรุ ชายคนนั้นเข้ามาเรื่อยๆ แต่ว่าการสัมผัสของเขากลับหยุดชะงักดื้อๆ ทำเอาเธอรู้สึกแปลกใจ
“อืม สองสามวันมานี่ ดูมีน้ำมีนวลขึ้นนะ”  เขาจับไหล่ร่างบอบบางด้วยสองมือลองบีบเบาๆ สัมผัสถึงความหยุ่นนุ่มเนียนของผิว “คงเพราะเจริญอาหารขึ้นด้วยล่ะนะ”
!!!! ดวงตากลมคมโตหวานสีเข้ม ตกใจขวัญเสีย
“เดี๋ยวพี่ขออาบน้ำเปลี่ยนชุดนะ วันนี้เหนื่อยมากเลย” เขาคว้าผ้าขนหนูผืนนุ่มเข้าไปในห้องน้ำ

ไม่นะ ไอริชายังคงตกตะลึงกับสิ่งที่รับรู้
มีน้ำมีนวลขึ้นเยอะนะ พี่เอลไม่เคยพูดแบบนี้เลย หรือว่าเราอ้วน
ใช่เราต้องอ้วนขึ้นแน่ๆ ก่อนอื่นต้องหาเครื่องชั่งน้ำหนัก ไอริชาเดินไปที่ตู้เสื้อผ้า หยิบแป้นชั่งน้ำหนักสีชมพูหวานแหววออกมา และก็ก้าวขึ้นมายืนบนแป้นอย่างระมัดระวัง
แกรก....หน้าปัดพลันเคลื่อนไปอย่างรวดเร็ว ให้เข็มสีแดงชี้อ่านตำแหน่งค่าน้ำหนัก ดวงตาสีเข้มลึกล้ำหวานได้ตกใจกับสิ่งที่เห็น
น้ำหนักเพิ่มขึ้นมาอีกกิโลครึ่ง

นี่เราปล่อยตัวได้ขนาดนี้เลยเหรอ นี่เพราะแบบนี้พี่เอลเลยดูออก บอกว่าเราอ้วนสินะ ไหนลองชั่งที่หน้าร้านสะดวกซื้อใกล้ๆ หอดู เผื่อว่าจะคลาดเคลื่อน ไอริชารีบหยิบเหรียญหนึ่งวิ่งออกไปทันที ในความคิดเริ่มหาแผนปฏิบัติการลดน้ำหนักอย่างด่วนจี๋ เมื่อวิ่งไปถึง ก็ไม่รอช้าขึ้นไปอยู่บนเครื่องชั่งน้ำหนักหยอดเหรียญอัติโนมัติ แล้วหยอดเหรียญที่เตรียมไว้
ไม่จริงน่า เพิ่มขึ้นจริงด้วย แต่มันไม่ใช่ครึ่งโล แต่เป็นโลครึ่งกว่าๆ
ไอริชารู้สึกหนาววูบไปทั้งตัว พร้อมกับคำที่ก้องในสมอง อ้วน....อ้วน....
ไม่ได้การ แม้ว่าตอนนี้ลำพังแค่การกินแต่ข้าวที่มีเพียงผักผลไม้สามมื้อแบบปกติ จะช่วยลดน้ำหนักได้ประมาณกิโลกรัมหนึ่งต่อสัปดาห์ แต่ว่า ช่วงเวลานั้น อาจจะเผลอกินขนมอีก ไม่ก็เจอสถานการณ์พาไปบังคับให้เราต้องกินอะไรเพิ่มแน่ๆ ไอริชากลับมาที่ห้องทั้งความรู้สึกใจหาย ทั้งตัวชาวาบไปหมด ก่อนทิ้งร่างให้ตัวเองลงกับโซฟา ไม่นึกเลยว่าในช่วงที่เงียบสงบในสองสามวันมานี้ น้ำหนักส่วนเกินจะมาโดยไม่รู้ตัว มันมาโดยไม่รู้ตัวเลยแท้ๆ
แอ๊ค..... เสียงประตูห้องน้ำเปิดออก พร้อมร่างชายหนุ่มก้าวออกมาข้างนอก ก่อนจะปิดไฟแล้วเดินเข้ามา เขามองเห็นเด็กสาวดูซึมไป ก็เริ่มสงสัย ก่อนจะเดินเข้าไปใกล้ๆ ชายหนุ่มรู้ดีว่าบางทีเขาก็สามารถอ่านใจไอริชาได้ (แม้ไม่ได้ทุกครั้ง) แต่ว่าไม่อยากทำแบบนั้น เพราะมันเป็นการไม่ให้เกียรติเธอไม่ต่างอะไรกับที่เขาเผลอใจจูบเธอแบบคราวนั้น
“ตัวเล็ก ไม่สบายเหรอ”
เฮือก!!! ไอริชาตกใจกับเสียงนุ่มๆ พอแหงนหน้ามายิ่งตกใจกว่า เหตุมาจากภาพร่างเปลือยเปล่าท่อนบนของชายหนุ่ม แม้ทั้งคู่จะหอพักร่วมกันได้สักพักแล้ว แต่ไอริชาไม่เคยเห็นร่างกายเต็มตาของผู้ชายเลย โดยเฉพาะซีราชิเอล ดวงตากลมคมโตตะลึงในเรือนร่างที่เต็มไปด้วยกล้ามเนื้อสวยงามดูน่าเย้ายวนของชายหนุ่ม มีความเป็นบุรุษเพศอย่างแท้จริง อาจเป็นเพราะซีราชิเอลมักจะใส่เสื้อแขนยาว หรือเสื้อที่พรางรูปร่างที่ล่ำสูงสง่าไว้ เลยไม่ได้สังเกต ใบหน้าของเด็กสาวระเรื่อเข้มฝาดราวกับเลือดขึ้นหน้า ก่อนเบือนหลบไปด้วยความอาย แม้ในใจจะอดชื่นชมไม่ได้ว่า ร่างกายของเอลนั้นงามเหลือเกิน ผิวขาวสะอาดสวยราวกับเป็นเทพบุตร หุ่นดีเซ็กซี่เย้ายวนเกินกว่าจะบรรยาย
“?” ชายหนุ่มสงสัย
“พี่เอลน่าจะแต่งตัวก่อนนะคะ”
“อา ขอโทษนะ” ชายหนุ่มสังเกตว่าเวลาไอริชาอายน่ารักเหลือเกิน เขามองสักพักก่อนที่จะหันไปแต่งตัวที่อื่น
ไม่นะ ตอนนี้พี่เอลต้องเห็นว่าเราเป็นอ้วนกลมๆ แน่ ไอริชาร้อนรนจนไม่อาจอยู่เฉยได้ ทั้งอายที่เอลรู้ถึงน้ำหนักที่เกินขึ้นมาเมื่อเขาได้สัมผัสเธอ นึกแล้วอยากให้ตัวเองระวังมากกว่านี้จริงๆ
“มาตรการแรก เราจะกินมื้อเย็นไม่ได้” ไอริชากำชับกับตัวเอง
“ตัวเล็ก มื้อเย็นนี้จะทานอะไร”
เฮือก!!!!!!!!!!!
“ม...ไม่เป็นไรค่ะ พี่เอล หนูยังไม่หิว”
“จะดีเหรอ พี่กลัวว่าตัวเล็กจะเป็นโรคกระเพาะอาหารได้นะ” เขาเอ่ยด้วยน้ำเสียงเป็นห่วง “กินอะไรหน่อยดีกว่ามั้ย ตัวเล็ก”
“เอ่อ หนูรู้สึกกินอะไรไม่ค่อยลง เพิ่งไปซื้อขนมปังมากินตะกี้เองค่ะ”
“ขนมปังเหรอ จะอิ่มอะไร แถมมีแต่แป้งที่ไม่ให้ประโยชน์อะไรเลยนะ มากินข้าวดีกว่ามา”
“ม...” ไม่ทันไร ซีราชิเอลก็จูงมือเธอไปข้างนอกแล้ว
ท....ทำไงดีเนี่ย!?  ไม่ได้นะ ไอริชา

ดังนั้น.....
“หา...?” ซีราชิเอลตกตะลึงกับสิ่งที่เห็น เมื่อพบว่าบนโต๊ะอาหารของเขากับไอริชาเต็มไปด้วยผักผลไม้ และล้วนแล้วแต่เป็นอาหารสำหรับคนลดน้ำหนักอย่างเคร่งครัดอีกต่างหาก มันเกิดอะไรขึ้น
“ตัวเล็ก...มีอะไรรึเปล่า”
“เอ๋? เอ่อ เปล่าค่ะ เอ่อ คือ หนูอยากทานเองค่ะ รู้สึกว่าช่วงนี้เจอแต่ของมีน้ำมันเยอะ เลยว่าอยากกินอะไรที่แก้เลี่ยนบ้างน่ะค่ะ”
มันเป็นเรื่องจริงเหรอ ชายหนุ่มไม่รู้จะว่ายังไง ได้แต่รับคำไป และก็แตะริมฝีปากครุ่นคิด “พี่คิดว่าแบบนี้ ตัวเล็กจะไม่อิ่มเอานะ”
แย่แล้วแบบนี้มันผิดสังเกตเกินไป สงสัยต้องหาทางมาทำกับข้าวที่ดัดแปลงสูตรซะแล้วไม่งั้นแย่แน่ๆ นี่เพราะเราป่วย มีคนเอาข้าวน้ำขนมนมเนยมาให้ทุกวัน เลยน้ำหนักขึ้นแบบนี้ แผนปฏิบัติการลดน้ำหนักของเราจะบอกใครไม่ได้เด็ดขาดเลยนะ และที่สำคัญจะให้ใครรู้ว่าเราอ้วนขึ้นไม่ได้ นี่เพราะพี่เอลทักหรอกนะ ถึงได้รู้ตัวไม่งั้นแย่แน่ๆ ไอริชาลอบถอนใจหายยาว เฝ้ารอเวลาที่จะได้กลับห้องพัก ทว่า จานอาหารมื้อหนึ่งถูกเสิร์ฟต่อหน้าเธอ
“ไอริชา กินให้อิ่มเถอะ พี่เลี้ยงเอง”
เด็กสาวไม่สามารถปฏิเสธได้ว่าเขาเป็นผู้ชายที่อ่อนโยนเหลือเกิน
 
แผนปฏิบัติการควบคุมและลดน้ำหนักก็ได้เริ่มต้นขึ้นตั้งแต่นี้ไป

โทรศัพท์ขนาดเหมาะมือบางเบา หน้าจอกว้างได้ถูกใช้งานเชื่อต่ออินเตอร์เน็ตเพื่อหาข้อมูล นิ้วเรียวเล็กจิ้มบนหน้าจอเพื่อคลิกเพจบทความที่ต้องการ ลับสายตาชายหนุ่มเพราะในเวลานี้ เขาได้หลับลึกอย่างสนิทไปด้วยความอ่อนล้าแล้ว
“ขอโทษนะคะพี่เอล”
ไอริชาจดบางอย่างลงในสมุดส่วนตัว รายละเอียดมีตั้งแต่การวางแผนที่จะทานอาหารจำกัดแคลอรี สัดส่วนของการทาน ไปจนถึงค่าใช้จ่าย และกิจกรรมที่จะทำเพื่อน้ำหนักที่เกินความต้องการออก รวมไปถึงผลที่คาดว่าจะได้รับ คาดการณ์ผลที่จะเกิดขึ้น จากนั้นต้องรีบเข้านอน เพื่อพักผ่อนเตรียมรับมือกับภารกิจในวันใหม่ เด็กสาวเข้ามาในห้อง ค่อยๆ ก้าวเท้าไปอย่างระวังระวังแล้วค่อยๆ คลานขึ้นเตียง ใบหน้าเนียนใส ชะโงกมองยังร่างสูงสง่าที่นอนข้างๆ เตียงเธอบนพื้นที่ราวกับเจ้าชายรูปงาม ทั้งที่แค่อยากจะดูว่าอีกฝ่ายเป็นอย่างไรมั่งแท้ๆ แต่ว่า ตอนนี้เหมือนกับว่าอยากจะมองดูอย่างนี้ไปเรื่อยๆ ไม่รู้ทำไมถึงเป็นแบบนี้
พี่เอล....
ไอริชากลับมานอนพักผ่อนที่ตัวเอง ปล่อยให้ความสงบเข้ามาโอบปกคลุมร่างกายและจมสู่ห้วงนิทราไป

เช้ามา ทั้งคู่ต่างตื่นขึ้นมาด้วยสภาพที่งัวเงีย โดยเฉพาะซีราชิเอลซึ่งจะหาวบ่อยมาก ดูท่าทางเหมือนไม่ได้พักอย่างนั้น เด็กสาวเองก็หาข้อมูลดึกเมื่อคืนเลยพานอนไม่พอไปด้วย
“อรุณสวัสดิ์” น้ำเสียงแหบพร่าเย้ายวน ทว่า สีหน้าเขาไม่รับอรุณเอาเสียเลย
“อรุณสวัสดิ์ค่ะ” เด็กสาวเองตาแทบจะปิดสนิท
“เมื่อคืน เหมือนตัวเล็กนอนดึก”
“เอ่อ หาข้อมูลนิดหน่อยค่ะ”
“เหรอ” เขาเลื่อนมาจับชีพจรที่ข้อมือเด็กสาว “ร่างกายอ่อนแรงมากเลยนะ หยุดงานดีมั้ย”
“ไม่เป็นไรค่ะ” เด็กสาวยิ้ม ยิ้มให้เขา และยิ้มสู้กับอากาศเย็นที่ไม่น่าจะเย็นขั้นหนาวได้แบบนี้
ซีราชิเอลมองดูอีกฝ่าย เขารู้สึกว่าตัวเองต้องห้ามใจอยู่ตลอดเวลาทุกครั้งที่อยู่กับไอริชา แม้แต่ตอนนี้ น่ากลัวว่าสักวัน เขาจะห้ามใจตัวเองไม่อยู่สักวัน มีหลายอย่างที่เขาอยากจะเอ่ย
“ตัวเล็ก”
“คะ?”
“.... อย่าหักโหมมากนะ ดูแลตัวเองด้วย” แต่ยากเหลือเกินที่เขาจะพูด
“ค่ะ”
“กินข้าวก็กินให้อิ่ม อย่าปล่อยให้หิว แค่นี้ก็ตัวเล็กผอมอ่อนแรงมากแล้ว” ได้แต่เบี่ยงประเด็นไป
เอ๊ะ?
“ไปทำงานก่อนนะ” เขากลัวว่าตัวเองจะทำอะไรให้ไอริชาต้องสะเทือนใจ จึงพยายามพูดอย่างระวังและเบา น้ำเสียงราบเรียบมากจนไม่รู้ว่าผู้พูดอยู่ในอารมรณ์ไหนกันแน่

มองหน้าตาจิ้มลิ้มไร้เดียงสาตาแป๋วๆ แล้วคิดจะไปก็ทำไม่ลง
ซีราชิเอลถอนใจยาว ครุ่นคิดวางแผนถึงบางอย่าง และก็ออกไปทำงานอย่างเงียบๆ เหมือนเคย ลึกๆ นึกเป็นห่วงไม่น้อยว่า เด็กสาวตัวเล็กๆ จะเป็นอย่างไรบ้างในช่วงที่ไม่ได้อยู่ข้างๆ เขา แต่ว่า ถึงยังไง เขาก็ต้องทำในสิ่งที่ควรจะทำในเวลานี้ คิดแล้วได้แต่ถอนใจ ก่อนกลับมาคิ้วขมวดสีหน้าเคร่งขรึม ส่วนไอริชาเหมือนคนที่ไม่รู้อะไรเลย ว่าแต่....
ป่านนี้ เธอจะเป็นยังไงบ้างนะ
ตอนนี้เธอกำลังทำอะไรอยู่ คิดถึงเรามั้ยนะ ในใจไอริชามีใครอยู่ในใจมั้ยนะ

ชายหนุ่มเดินทางจะกลับ หลังจากเลิกงาน แต่เขาพบว่านางแบบสาวที่เขาเคยรู้จัก ได้มายืนรอเขาที่สถานีรถไฟ ดูจากเสื้อผ้าที่สวมใส่ เดาว่าน่าจะปลีกตัวออกมาจากช่วงระหว่างทำงาน
“ท่าทางเหนื่อยนะ”
“ขอบใจ แต่ว่าจากนี้ไป ต่างคนต่างอยู่ดีกว่า” น้ำเสียงเขาบ่งบอกถึงความระอา
“ฉันแค่อยากรู้อะไรบางอย่าง” วีนัสยืนไขว้ขาเรียวสวยกอดอกแน่น “เธอ.... คิดอะไรกับรุ่นน้องเธอกันแน่?”
“ผมมีสิทธิ์ไม่ตอบ นั่นเรื่องส่วนตัวผม”
“หรือว่าเธอจะเอ็นดูเด็กคนนั้นมาก ถึงขนาดทำให้เธอใช้เค้าเป็นข้ออ้างที่จะตัดขาดกับฉันถาวร?”
“....”
“เอล ฉันรู้ว่าเธอชอบฉัน รักฉันมากนะ”
“อย่าพูดแบบนั้นเลยดีกว่า” นั่นมันไม่ใช่ความจริงเลย....
“เรากลับมาเป็นเหมือนเดิมไม่ได้แล้วจริงๆ เหรอ ฉันว่าเธอแค่กลัวที่ฉันจะทิ้งเธอไปอีกต่างหาก อย่าปฏิเสธความต้องการตัวเองเลย”
“กรุณาช่วยออกไปจากชีวิตผมด้วยครับ วีนัส โอลิมปัส” ซีราชิเอลกล่าวหนักแน่น แน่วแน่ จนอีกฝ่ายอ้ำอึ้งทำอะไรไม่ถูก “ผมต้องการชีวิตใหม่ ต้องการกลับมาเริ่มต้นสิ่งที่ดีกว่า การที่คุณมาหาผม มีแต่สร้างความยุ่งย่ามใจของทุกฝ่ายเท่านั้นเอง ขอร้องล่ะ”
ถอดใจกับเธอแล้ว....วีนัส โอลิมปัส
ขอบใจที่ช่วยสอนบางอย่างให้ผม แต่ว่าเราคงต้อง “ลาก่อน”...
ความเจ็บปวด ความผิดที่มี มันเกินว่าที่จะให้อภัย
ชายหนุ่มเดินขึ้นรถไฟฟ้าสีขาวไป เฝ้ามองท้องฟ้าสีครามและไม่ได้เห็นเลยว่านางแบบสาวสวยนั้นตาค้างอึ้งไปพักใหญ่และกัดริมฝีปากสีแดงสดแน่นแค่ไหน ชายหนุ่มเริ่มคลายเนคไทลง สายตาสีทองอำพันนั้นเฝ้าเหม่อมองไปไกล จนกระทั่งความอ่อนล้าพาให้เขาหลับงีบไปสักพัก แล้วตื่นขึ้นมาก่อนที่จะได้ยินสัญญาณและลงปลายทางในที่สุด เขาเดินออกจากรถไฟ ก้าวไปตามทาง เพื่อเดินลงกลับที่พัก ระหว่างทางนึกถึงเรื่องที่จะควรย้ายออกไปดีหรือไม่ เพราะว่าเขาคงไม่อาจจะกลับมาหาเธอได้แบบนี้อีกต่อไป
“กลับมาแล้ว...”
น่าแปลก ทุกอย่างดูเงียบไปหมด หรือว่าเด็กสาวตัวเล็กๆ จะยังไม่กลับมา ชายหนุ่มเข้ามาถอดเสื้อสูทสีดำลงก่อนแขวนให้เรียบร้อย เขาจัดการทุกอย่างให้เรียบร้อยแล้วเดินเข้าไปในห้อง... ชายหนุ่มในชุดนอนเห็นร่างเล็กๆ กำลังนอนซุกใต้ผ้าห่มซึ่งคงท่ากอดตัวเองและเหมือนพยายามทำตัวเองให้เล็กไปกว่าเดิมด้วยการห่อตัวเองงอเหลือเล็กๆ ไอริชาคงตั้งหน้าตั้งตาทำงานอย่างเต็มกำลัง เรียน งาน และแผนการลดน้ำหนัก เธอพยายามทำมันโดยที่ไม่ให้มีงานใดงานหนึ่งต้องเสียงาน ยังดีที่พอมีวันหยุดบ้างไม่งั้น อาจจะต้องทรุดหนักให้ต้องเข้ารพ.อีกแน่ๆ ทำงานและเรียนตลอดทั้งวัน ไหนต้องคอยทบทวนบทเรียนทำตามความฝัน กว่าจะได้นอนก็แทบจะสลบกันไปทีเดียว
“นอนแบบนี้เดี๋ยวก็ไม่สบายหรอก” เขาพึมพำเบาๆ ก่อนจะช้อนร่างนั้นมาให้นอนในท่าที่เหมาะสม ก่อนห่มผ้าให้ สองชั้น “หนาวเหรอตัวเล็ก”
“อือม์” ตัวเล็กละเมอไม่รู้ตัว
ราวกับลูกระต่ายตัวน้อยๆ ชายหนุ่มนึกในใจ เผลอก้มลงสัมผัสหน้าผากเธอแผ่วเบาด้วยริมฝีปาก รู้สึกตัวอีกทีพบว่าเขาได้ทำลงไปแล้ว
นี่เราเป็นอะไร?
เธอคิดยังไงกับเด็กคนนั้นกันแน่ คำถามที่เขาไม่อยากตอบได้ผุดขึ้นมาอีกครั้ง เขาหวนคิดถึงปรัชญา ทฤษฎีความรู้ที่เคยรับรู้ แม้แต่หลักจิตวิทยา ไม่รู้ว่าจะตอบยังไงดี สิ่งที่เขาคิดได้ มีเพียงความที่ว่า “สิ่งที่เหมือนกันมักจะดึงดูดกันและกันเสมอ” พลางคิดขึ้นมา เขากับเธอมีอะไรที่เหมือนกันบ้าง และพยายามจะปะติดปะต่อสิ่งที่นึกได้เพื่อจะเรียบเรียงมันเป็นคำตอบให้ตัวเอง แต่ดูเหมือนว่าลำบากเกินไป
เฮ้อ เขาผ่านโลกมานาน เรียนรู้อะไรก็มากมาย แต่โลกใบนี้ ยิ่งเรียนรู้เท่าไหร่ เหมือนจะเข้าใจแต่กลับยิ่งไม่เข้าใจ ยิ่งน่าฉงนนัก ไม่ใช่แค่โลกเท่านั้น จิตใจของมนุษย์ สังคม เขารู้สึกยิ่งอยู่เรียนรู้ยิ่งไม่เข้าใจมันเอาเสียเลย ชายหนุ่มถอนใจก่อนหันมามองร่างเล็กๆ ที่หลับสนิทต่อ
เขาคิดว่า บางที การเช่าห้องใกล้ๆ เธอคงเป็นการดีทั้งสองฝ่าย เหมือนเป็นอะไรที่ทำให้ทุกอย่างมาพบกันครึ่งทาง และก็.... บางทีช่องว่างในหัวใจเขาอาจจะได้รับการเติมเต็มจากใครสักคนที่เข้ามาในชีวิตเขาก็เป็นได้

อีกปลายหนึ่งของด้ายแดงWhere stories live. Discover now