ตอนที่ 10

468 33 6
                                    

ผมนั่งอยู่บนเก้าอี้ทำงานตัวเก่ง พลางคิดอะไรไปเรื่อยๆ อย่างใช้เหตุและผล เมื่อไม่นานมานี้ ผมได้เจอกับใครคนหนึ่ง คนที่ยอมยื่นร่มของตัวเองให้กับคนแปลกหน้าคนที่ดูจะไม่สนคนที่ดูดี คนที่เมื่อไม่ชอบอะไรก็จะพูดออกมาตรงๆ ไม่แคร์ ไม่แยแส ว่าคนที่พูดอยู่ด้วยจะเป็นใคร คนที่ดูรู้จักผิดรู้จักถูก แถมมีเหตุผลเกินตัว มาลองคิดดูแล้ว เธอดูจะดีและมีวุฒิภาวะ มากกว่าผมที่เป็นผู้ใหญ่ด้วยซ้ำ อันที่จริงผมทำผิดและสมควรจะโดนว่าจริงๆ ผมไม่รู้ว่าทำไมผมถึงไม่ชอบเธออย่างแรง เวลาเห็นเธอกระหนุงกระหนิงกับผู้ชายไม่ซ้ำหน้า จนต้องพูดอะไรไม่ดี และดูบ้าๆบอๆออกไป บางทีมันอาจเป็นเพราะเรื่องบางอย่างของผมทำให้ทำอะไรแบบนั้นออกไป แต่น่าแปลกที่ทุกคำพูด สีหน้า ท่าทางของเด็กนั่น ผมกลับจำมันได้ดี จนทำให้โมโหทุกทีเมื่อนึกถึงคำว่าต่างๆของเธอ ถึงแม้คำพูดพวกนั้น มันจะถูกก็ตาม และอีกอย่างที่ทำให้ผมไม่สบอารมณ์ มีประโยคหนึ่งที่สีหน้าของเธอมันกวนใจผมอยู่ตลอด

"อ้อ! อีกอย่าง หนูหน้าตาไม่ดีหนูรู้ตัว รู้มาตั้งนานแล้ว ที่หนูพูด เพราะสิ่งที่คุณพูดออกมามันไม่ได้ดีอะไรเลย หนูแค่อยากให้รู้"
ทำหน้าอย่างกับจะร้องไห้ ทำไมต้องมาทำให้ผมรู้สึกผิด เหมือนผมไปกลั่นแกล้งเธอ ผมปากร้าย ผมยอมรับ แต่ผมไม่ชอบเลยที่เธอทำหน้าแบบนั้นใส่ แถมยังมาทำเหมือนหวังดีใส่ผม ผมยิ่งไม่ชอบไปกันใหญ่ ทำไมต้องทำให้ผมรู้สึกเหมือนตัวเองทำผิดมากๆขนาดนี้ ยิ่งคิดยิ่งหงุดหงิด เธอทำผมต้องถ่อไปขอโทษเธอถึงที่ กะว่าขอโทษแล้วจะได้สบายใจ แต่กลับมีเรื่องให้ไม่ชอบใจขึ้นมาอีกจนได้

"คุณริทครับ นี่เอกสารที่ต้องเซ็นต์ครับ " ชายวัยกลางคนยิ้มอย่างอบอุ่น อย่างที่เคยเห็นอยู่ประจำ

"เหม่อคิดอะไรอยู่ล่ะครับนั่น" ชายวัยกลางคนถามขึ้นยิ้มๆ ความสนิทสนมราวกับพ่อลูก ทำให้เมื่อมีอะไรผิดปกติไปเค้าก็สามมารถรู้กันได้ทันที

Sixteen ต่างเท่าไร ใจก็รักDonde viven las historias. Descúbrelo ahora