ตอนที่ 6

327 10 1
                                    

          ร่างเล็กบางพาตัวเองลงมาจากชั้นบน ในช่วงสายๆของวัน ยังคงสวมเสื้อผ้าชุดเดิมของเมื่อวาน บ้านที่ดูเงียบเชียบ
          เจ้าเขื่อนกับต้นน้ำคงไปโรงเรียนกันแล้ว ก็น่าจะไปแล้วล่ะ นี่มันตั้ง10โมงกว่าแล้ว พลางคิดอยู่ในใจเมื่อเหลือบสายตามองนาฬิกาเรือนกลมขอบสีเงินแขวนอยู่บนผนัง
          เขาสะบัดศีรษะไล่ความมึน มือเล็กนวดคลึงที่ต้นคอเบาๆ พลางบิดคอไปมา เท้าขาวผ่องเดินเลี้ยวเข้าไปในห้องครัว ดูเหมือนร่างกายต้องการกาแฟดำเข้ม ๆ สักแก้วแก้มึนศีรษะ มือเล็กเปิดตู้เหนือศีรษะเอื้อมหยิบถ้วยกาแฟใบเล็กออกมา
          สายตาพลันเหลือบเห็นข้อความโพสต์อิทแปะอยู่กับประตูตู้เย็น คิ้วเรียงสวยขมวดย้นเข้าหากัน เขาเดินไปดึงกระดาษแผ่นเล็กสีชมพูออกมาอ่าน
          'ถ้าคุณหิว ข้าวต้มกุ้งอยู่ในชามฝาชีครอบอยู่บนโต๊ะ อุ่นไมโครเวฟก็กินได้เลย ดื่มน้ำเยอะๆมันจะช่วยให้คุณหายแฮ้งค์'
          "ทำมาเป็นรู้ดี" พลางทำเสียงจิ๊ปากใส่กระดาษสีหวาน
          "ว่าแต่...ทำไมจำอะไรไม่ได้เลยวะ! จำได้คราว ๆ ว่าอิตาซื่อบื่อไปรับ" นทีพึมพำอยู่คนเดียว แต่ในความทรงจำกลับมีหน้าของภานุพงษ์ลอยมาอยู่ใกล้ๆ
          ทำไมรู้สึกเหมือนเขาจะจูบเราล่ะเมื่อคืน
นทียกมือแตะริมฝีปากของตัวเอง อยู่ ๆ หน้าก็เกิดร้อนผ่าวขึ้นมาซะอย่างงั้นพลางสะบัดศีรษะรัว ๆ เหมือนอยากให้คนที่ป้วนเปี้ยนในหัวหลุดออกไป แอบกังวลใจ เมื่อคืนทำอะไรไว้หรือเปล่านะ
          นทีขับรถแวะเข้าร้าน ณ ธารา เห็นที่หน้าร้านติดประกาศรับผู้ช่วย1ตำแหน่ง ต้นไม้หน้าร้านและระหว่างทางเดินเข้าร้าน ถูกจัดแต่งเรียงเป็นระเบียบสวยงาม ดูร่มรื่นเย็นสบายตา ได้ยินเสียงเพลงสากลดังออกมาเบาๆจากในร้าน
          มือเล็กผลักบานประตูกระจกเข้าไป ภานุพงศ์กำลังเช็คของที่เพิ่งมาส่งเป็นพวกวัตถุดิบแห้งและส่วนประกอบอย่างพวกน้ำมันมะกอกหลากหลายแบบชีสเป็นก้อน ๆ ไหนจะไวน์ทั้งขาวทั้งแดงสำหรับการทำอาหารอยู่หน้าเคาร์เตอร์เช็คบิล ผู้ชายตัวสูงกับเสื้อเชิ้ตสีขาวแบบเชฟถูกพับแขนขึ้นมาดูทะมัดทะแมง ผูกผ้ากันเปื้อนสีดำที่เอวหนากำลังขะมักขะเม้นกับการทำงาน ดูมีเสน่ห์แบบที่นทีเห็นแล้วต้องเผลอยืนมองค้างจนลืมตัว
          ภานุพงศ์เงยหน้าจากกระดาษที่กำลังเช็คของ มองตรงมาเมื่อกระดิ่งหน้าร้านดังขึ้น คิ้วเข้มเลิกขึ้นด้วยความงุนงงที่เห็นนทียืนมองเขาอยู่นาน
          "คุณนที" ภานุพงศ์เดินเข้ามาหาเจ้าของร่างเล็กแบบบางพร้อมกับเรียก เขาโน้มใบหน้ามาหาเจ้าตัว
          "หื้อ..." เผลอขานรับเสียงเบา
          "คุณไม่สบายหรือเปล่า?" มือใหญ่หมายจะแตะที่หน้าผากมนของคนที่ยืนนิ่งไม่ไหวติง ถูกมือเล็กปัดออกอย่างไวเมื่อรู้สึกตัว พร้อมกับถอยหลังหนีห่างจากคนตัวสูงเล็กน้อย
          "นี่นายสั่งของอะไรมาเยอะแยะ ถ้าร้านเจ๊งเงินฉันไม่ศูนย์หายไปกับของพวกนี้เหรอเนี่ย!" ทำเสียงเข้มใส่คนตรงหน้ากลบเกลื่อนอาการประหม่าของตัวเอง
          "ถ้าคุณคิดจะทำร้านอาหาร ให้ลูกค้าติดใจกลับมาที่ร้านอีก นอกเหนือจากฝีมือของคนทำเราก็ต้องใช้วัตถุดิบดี ๆ พวกนี้ล่ะ หรือคุณคิดจะโกงเพราะกลัวผมจะชนะขึ้นมา?"
          ภานุพงศ์หรี่ตามองพร้อมกับโน้มหน้าเข้าไปใกล้ ๆ นที ยกยิ้มเจ้าเล่ห์นิด ๆ สายตาสบกันแบบไม่ยอมให้อีกฝ่าย สุดท้ายนทีเป็นฝ่ายผลักแผ่นอกหนาของชายหนุ่มออก
          "มั่นใจจังนะ ว่าจะชนะ"
          คนตัวเล็กหมุนกายถอยห่างทำทีเดินสำรวจภายในร้านที่ภานุพงศ์จัดตกแต่งใหม่จนเสร็จเรียบร้อยพร้อมเปิดในวันถัดไป ความจริงร้านไม่ได้ใหญ่โต เป็นบ้านไม้เก่าสองชั้นเดิมทีก่อนหน้ามีโต๊ะให้ลูกค้านั่งอยู่12โต๊ะ ภานุพงศ์ลดเหลือ8โต๊ะเพื่อความโล่งโปร่งสบาย
          เขาขนหนังสือที่มีอยู่มากจากคอนโดของตัวเอง มาเพิ่มเติมจัดเป็นมุมนั่งอ่านหนังสือให้ลูกค้าหยิบอ่านได้ตามใจชอบระหว่างรออาหาร กระถางต้นไม้เล็กๆสีเขียวที่วางเรียงกันอยู่ตรงกระจกใสบานใหญ่ที่มองทอดออกไปด้านนอกเห็นสระบัวขนาดหย่อม และยังเก้าอี้หนังสีน้ำตาลเข้มเข้ากันดีกับกระถางต้นจั๋งคู่ที่ตั้งวางกระถางละข้างของมุมร้าน ภานุพงศ์เน้นใช้ต้นไม้สีเขียวรสนิยมเรียบๆแต่อบอุ่นจนเขารู้สึกได้
          นทีหยิบเมนูขึ้นมาดู
          "ยังไม่มีเมนูประจำร้านอีกเหรอ?"
          ถามอีกฝ่ายด้วยน้ำเสียงปนเยาะอยู่ในที
          "คุณคิดว่าทำเมนูแต่ละอย่างมันง่ายเหรอ ยิ่งเมนูประจำร้าน นั้นหมายถึงคนกินจะต้องนึกถึงแต่ร้านนี้เท่านั้น"
          "หึ! ก็แค่ข้ออ้าง ได้รางวัลมาได้ไงก็ไม่รู้ไม่เก่งจริงนี่หว่า" นทีเบ้ปากให้กับเขาอย่างดูถูกดูแคลน
          "ดูเหมือนคุณจะไม่เข้าใจ"
          "ใช่! ฉันไม่จำเป็นต้องทำความเข้าใจกับงานของนาย ฉันอุตส่าห์ใจดีเปิดโอกาสให้ อย่าทำมันพังล่ะนี่ก็เหลือเวลาไม่ถึงเดือนด้วยซ้ำ"
          "ถ้าคุณยังดูแลตัวเองได้ไม่ดีพอ ยังคิดว่าจะดูแลเด็ก ๆ ได้อยู่อีกเหรอ?" นทีสะอึกที่โดนคนตรงหน้าต่อว่าอารมณ์โกรธกรุ่นในอกปะทุขึ้นมาเสียดื้อ ๆ ทั้งที่รู้ตัวว่าบกพร่องแต่ก็จะตะแบงดื้อแพ่งต่อเขา
          "ครั้งนี้เท่านั้นแหละที่นายจะว่าฉันได้!" น้ำเสียงแสดงความฉุนเฉียว เมื่อทำอะไรคนตรงหน้าไม่ได้ ก็ปาเมนูในมือใส่หน้าชายหนุ่มอย่างโมโห แล้วก้าวเดินฉับ ๆ ออกจากร้าน
          สันปกเมนูกระแทกเข้ากับจมูกของเขาอย่างจังจนเลือดซิบ เขายกมือลูบที่จมูกปรอย ๆก่อนจะไปหาพลาสเตอร์มาปิด ชายหนุ่มทำได้แค่ถอนหายใจกับอคติของนทีที่มีต่อเขา

ตกบ่วงรักเชฟสุดหล่อDonde viven las historias. Descúbrelo ahora